(รบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือไม่มีก็ได้) ไม่จำเป็นต้องวิ่ง จริงหรือไม่

เราไปเจอเวปนี้  เราอ่านก็เห็นด้วย  แต่เราอยากได้ผู้ที่รู้เข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

http://www.tuvayanon.net/2notrunf.html  

ขอตัดมาบางส่วน  รบกวนกดเข้าลิงค์ไปอ่านนะคะ

แฟชั่นการออกกำลังกาย ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ยกเอาแอโรบิค ให้เป็นการออกกำลังกายที่สำคัญ แต่ความจริงแล้ว มันเป็นแค่แฟชั่น ที่กำลังชักจูงให้คนอื่นเดินทางผิดๆ

เราได้รับข่าวสารเพียงด้านเดียวว่า การฝึกแบบใช้ความทนทานของร่างกาย (endurance exercise) (หมายถึงการออกกำลังกายแบบแอโรบิคนั่นเอง - webmaster) จะทำให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น

แต่ความจริงก็คือ การเพาะกาย นอกจากจะทำให้ การทำงานของหัวใจดีขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดความแข็งแกร่งที่กล้ามเนื้อ กระดูกข้อต่อ และเส้นเอ็นอีกด้วย นี่ยังไม่รวมถึงสุขภาพที่เยี่ยมยอดอีกต่างหาก

ทำไมน่ะหรือ เพราะแอโรบิคพูดถึง การออกกำลังที่ใช้ความทนทาน และการใช้ออกซิเจนมาเป็นพลังงาน แต่คำว่า "เพาะกาย" (bodybuilding) นอกจากจะพูดถึงการยกลูกเหล็กแล้ว มันหมายรวมไปถึงเรื่องโภชนาการ ที่ถูกมองข้ามไปในแอโรบิค อีกด้วยต่างหาก

ถ้าจะสรุปให้ตรงประเด็นคือ การทำให้สุขภาพดี เท่าที่จะมีตำรับตำราให้ค้นคว้าได้ในโลกนี้ก็คือ ทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หยุดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายด้วยลูกน้ำหนัก 2 - 3 ครั้งต่ออาทิตย์ เก็บการทำแอโรบิคแบบบ้าคลั่งไปเสียเถอะ
ดูแลเรื่องเพาะกายให้ถูกต้องดีกว่า
           ผมทำงานเกี่ยวกับการค้นคว้า และวิจัยเรื่องการออกกำลังกาย มามากกว่า 20 ปี จากการเฝ้าดูนักเพาะกายชั้นแนวหน้ามากว่า 2 ทศวรรษ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า คุณไม่จำเป็นต้องบ้าตามแฟชั่นแอโรบิคอีกต่อไป

อย่างเดียวที่คุณต้องการ ในการทำให้ร่างกายฟิต และมีกล้ามเนื้อปราศจากไขมัน ก็คือการเพาะกายเพียงอย่างเดียว

การเพาะกายในศัพท์วิชาการเรียกว่า Resistance exercise (ถ้าเป็นแอโรบิคเรียก Endurance exercise) นับวันจะถูกพิสูจน์ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จนกำลังจะกลายเป็นทฤษฎีแล้วว่า คือการออกกำลังกายที่ดีที่สุดในโลก และถ้าคุณกำลังเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือมีระดับไขมันมากเกินไปแล้วละก็ คุณยิ่งต้องเล่นกล้าม และยกลูกน้ำหนัก เพื่อทำให้โรคเหล่านั้นมันเบาบางลง

           ไม่ใช่แค่คนหนุ่มแน่นที่จะได้ประโยชน์จากการเพาะกาย เพราะมีตัวอย่างนักเพาะกายผู้สูงอายุ อันได้แก่  บ๊อบ   เดลโมนเท็กซ์ อายุ 76 ปี, โจ  ไวเดอร์ อายุ 74 ปี ,อาร์แมน   แทนนี่ อายุ 77 ปี ,แจ็ค   ลาแลนซ์ อายุ 80 ปี ,บิล   เพอร์ล อายุ 66 ปี และจอห์น  กริเม็ค อายุ 85 ปี  ซึ่งท่านเหล่านี้ ล้วนเรียกตัวเองว่าเป็นนักกล้ามทั้งสิ้น เพราะพวกเขายัง ยกน้ำหนักอิสระ (บาร์เบลล์,ดัมเบลล์ - webmaster) ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ รวมทั้งแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยหลายๆมื้อ ตามสไตล์นักเพาะกายอย่างสมบูรณ์ ไม่ได้แตะต้องการทำแอโรบิคเลย


จริงหรือไม่คะ  
ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เวปที่ยกตัวอย่างมา ผมชอบน่ะ ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างกล้ามเนื้อดี แต่ผมอ่านๆไป บางความคิดเขาสุดโต่งไปหน่อย และแฝงด้วยการดูถูกการออกกำลังกายแบบอื่นแบบกลายๆ อ่านๆไปก็รบเอาแต่ข้อดีมาล่ะกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่