วันนี้ (23 ธ.ค.53) เวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
...
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ได้กำหนดขอบเขตของการใช้สิทธิของประชาชนไว้ 3 ประการ คือ 1) ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น 2) ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ และ3) ต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยเฉพาะในหมวดที่ 3 ของรัฐธรรมนูญฯ นั้น ก็ได้ระบุถึงสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยไว้หลายประการที่ครอบคลุมไปถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการให้ความสำคัญเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย และแม้ว่าในระบอบประชาธิปไตยทุกคนจะมีสิทธิและเสรีภาพดังกล่าว แต่ถ้าการใช้สิทธิของแต่ละคน ไม่ได้คำนึงถึงสิทธิของคนอื่น ก็จะทำให้เกิดปัญหาการใช้สิทธิที่กระทบกระทั่งกันจนไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็นอนาธิปไตย และสุดท้ายประเทศชาติบ้านเมืองก็จะมีปัญหา และมีวิกฤต ตลอดจนความโกลาหลได้ เพราะฉะนั้นสิทธิในระบอบประชาธิปไตยจึงเป็นสิทธิที่ต้องมีขอบเขต คือมีสิทธิและการใช้สิทธิได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองของเราในปัจจุบันนี้ ยังประสบปัญหาเรื่องของการไม่เคารพกฎ กติกา และการไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ตลอดจนความอ่อนแอในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้เกิดการบั่นทอนเสถียรภาพและทำให้การดำเนินงานและการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามแม้ว่าการที่จะทำให้ความขัดแย้งหมดไป จะคงเป็นเรื่องที่ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถจะทำได้คือทำให้ทุกฝ่ายได้คิดถึงการอยู่ร่วมกับคนอื่นและอยู่ร่วมกันโดยเคารพสิทธิของกันและกัน เคารพกติกา เคารพกฎหมาย เคารพกฎและระเบียบต่างๆ ของสังคม
ที่มา
http://www.thaigov.go.th/th/governmental/item/52878-นายกรัฐมนตรีระบุการเรียนรู้เรื่องสิทธิ-เสรีภาพและการเคารพสิทธิของคนอื่น-เป็นสิ่งที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย.html
นายกไทยได้ดีแต่พูดไว้...
วันนี้ (23 ธ.ค.53) เวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
...
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ได้กำหนดขอบเขตของการใช้สิทธิของประชาชนไว้ 3 ประการ คือ 1) ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น 2) ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ และ3) ต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยเฉพาะในหมวดที่ 3 ของรัฐธรรมนูญฯ นั้น ก็ได้ระบุถึงสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยไว้หลายประการที่ครอบคลุมไปถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการให้ความสำคัญเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย และแม้ว่าในระบอบประชาธิปไตยทุกคนจะมีสิทธิและเสรีภาพดังกล่าว แต่ถ้าการใช้สิทธิของแต่ละคน ไม่ได้คำนึงถึงสิทธิของคนอื่น ก็จะทำให้เกิดปัญหาการใช้สิทธิที่กระทบกระทั่งกันจนไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็นอนาธิปไตย และสุดท้ายประเทศชาติบ้านเมืองก็จะมีปัญหา และมีวิกฤต ตลอดจนความโกลาหลได้ เพราะฉะนั้นสิทธิในระบอบประชาธิปไตยจึงเป็นสิทธิที่ต้องมีขอบเขต คือมีสิทธิและการใช้สิทธิได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองของเราในปัจจุบันนี้ ยังประสบปัญหาเรื่องของการไม่เคารพกฎ กติกา และการไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ตลอดจนความอ่อนแอในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้เกิดการบั่นทอนเสถียรภาพและทำให้การดำเนินงานและการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามแม้ว่าการที่จะทำให้ความขัดแย้งหมดไป จะคงเป็นเรื่องที่ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถจะทำได้คือทำให้ทุกฝ่ายได้คิดถึงการอยู่ร่วมกับคนอื่นและอยู่ร่วมกันโดยเคารพสิทธิของกันและกัน เคารพกติกา เคารพกฎหมาย เคารพกฎและระเบียบต่างๆ ของสังคม
ที่มา
http://www.thaigov.go.th/th/governmental/item/52878-นายกรัฐมนตรีระบุการเรียนรู้เรื่องสิทธิ-เสรีภาพและการเคารพสิทธิของคนอื่น-เป็นสิ่งที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย.html