คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
มาต่อค่ะ...
พอถึงยุคเราโตเป็นผู้ใหญ่ สภาพสังคมเปลี่ยนไป การเข้ารับราชการสมัยเรา
เข้ายาก เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะข้อสอบยาก แต่เพราะเส้นมันเยอะ
เขามีตัวของเค้าอยู่แล้ว การปัดแข้งปัดขามันเยอะ ความก้าวหน้าเป็นไปได้ยากถ้า
ไม่มีพวก
แต่...
เราก็สามารถเข้าไปรับราชการได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เส้น
เราสอบเข้าไปได้ถึง 2 ที่ เราสอบในกรมที่มันรับจำนวนเยอะๆ
และเป็นที่ที่คนแก่งแย่งกันเข้าไป
ตอนเราเข้าไปได้ยายภูมิใจมาก คุยฟุ้งไปเจ็ดคุ้งน้ำเลย (เปรียบเทียบ)
เรื่องของเรามันดังมากในละแวกบ้าน คนแถวนี้ไม่มีใครไม่รู้
ว่าเราทำงานที่ไหน เพราะเราเป็นหลานคนโต
และเป็นหลานที่ยายเป็นคนเลี้ยงมากะมือ ปั้นมาเอง
สมัยเล็กๆ ไปไหนยายเอาไปด้วยตลอด อยากได้อะไร
เราได้หมด รถยนต์ นั่นนี่ น้องๆ คนอื่นยังไม่ได้ แต่เราได้
จนบางครั้งน้องๆ มันมักพูดว่า พี่อาจจะไม่รู้นะ แต่คนที่ยายแคร์ที่สุดคือพี่
พี่เป็นที่หนึ่งเสมอ ยายรักพี่มากกว่าหลานคนอื่นๆ และเกรงใจพี่มากกว่าคนอื่น
มันพูดเหมือนมันอิจฉาและน้อยใจ
เราฟังก็สะเทือนใจ ไม่อยากให้น้องๆ รู้สึกแบบนี้ แต่เป็นอันรู้กันว่า
ยายรักเรามากกว่าใครจริงๆ การที่เราได้เข้าไปทำงานรับราชการ
ในกรมที่คนแก่งแย่งกันเข้า จึงทำให้ยายเราเที่ยวไปคุยกะเพื่อนฝูง
กะญาติคนอื่น เราไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ทุกคนรู้มาจากยายว่าเราทำงานรับราชการที่นั่น
แต่ในความภูมิใจของยาย ยายไม่มีวันรู้ว่าเราต้องเจอกับอะไร
การเข้าไปเป็นข้าราชการแบบไม่มีพวก ไม่มีคนรู้จัก
เราต้องไปเจอกับพวกมารในระบบ เราต้องน้ำตาเล็ดเสมอ ชอกช้ำ
มีสถานะไม่ใช่เป็นข้าของแผ่นดิน แต่เป็นแค่ขี้ข้ารองพระบาทาของพวกมารเลวๆ ในระบบราชการนั้น
อาชีพที่ยายเราภาคภูมิใจนักหนาอยากให้เราเป็น ถึงขนาดว่าเรียนจบมาพยายามพูดว่าอยากเป็นเจ้านาย
ตัวเองไม่อยากเป็นลู฿กจ้างใคร (เพราะเราเป็นคนมีเซนส์ว่า
การเป็นลูกน้องเขาจะนำความทุกข์วินาศมาให้ ลางบอกเหตุล่วงหน้า)
ยายก็จะพูดเสมอว่า จะไปทำอะไร ก็ทำแบบแม่กะน้านี่แหละ สบายจะตาย
(คือ ยายไม่เคยไปทำงานในองค์กร ไม่รู้ว่าการอยู่กับคนหมู่มาก
คนเยอะๆ การมีปัญหากะคน เจอความไม่เป็นธรรมเบียดเบียน
มันเป็นยังไง น้าๆ แต่ละคนอยู่ได้เต็มที่แค่อายุ 55
ไม่เคยมีใครอยู่จนถึง 60 เพราะเอือมกับระบบ แตยายไม่เข้าใจ
โลกในการเข้าไปเป็นลูกน้อง ลูกจ้างเขา งานแบบมีเจ้านาย
สำหรับยายเราจึงยังสวยและมั่นคงเสมอ เพราะยายไม่เคยมาเจอชีวิตแบบที่เราเจอ)
เมื่อเราได้เข้ามาเป็นข้าราชการ มันไม่เคยสร้างความสุขให้เราเลยสักวัน
ได้เงินมา แต่ก็ได้ความทุกข์มาด้วย เจอพวกกลั่นแกล้ง เหมือนเราทำงานเพื่อแสวงหาความทุกข์
ไม่ใช่ได้เงินแล้วจะมีความสุข
เจอพวกตัวร้ายทุกรูปแบบที่เขาว่าและร่ำลือกัน
การที่เรามีแต่เงิน แต่ไม่มีเส้น มันก็เท่านั้นในระบบลำเอียง ไม่มีความเป็นธรรมห่วๆย
เขาดูที่ว่าเป็นลูกเป็นหลายใคร จะดันกันแต่ลูกหลานคนใหญ่คนโต เราโผล่ไปแบบ
ขับรถป้ายแดงไป มีแต่คนหมั่นไส้ริษยา ยิ่งบอกว่าไม่ต้องซื้อเอง ที่บ้านซื้อให้
เลือดริษยาคงล้นทะลัก มันเขม่นเราตั้งแต่นาทีแรก พวกเส้น
ระบบราชการ มีเงิน ยังสู้ มีเส้นไม่ได้ นี่คือความจริง
เส้นครอบครองทุกอย่างในระบบราชการ ไม่มีเส้นเป็นอะไรที่กรนะจอกมาก
เป็นข้าราชการแค่ในนาม แต่ในทางปฏิบัติ ยิ่งไม่มีเส้น เราถูกโขกยังกะขี้ข้า
ไม่มีใครเกรงใจ ไม่มีใครไว้หน้า จ้องจะเชือดอย่างเดียวถ้าไปทำอะไรขัดหูขัดามัน
แล้ววันหนึ่ง ก็มีเหตุใหญ่ เราเจอการกลั่นแกล้งชนิดเจอคำสั่งไม่เป็นธรรมต่อตัวเรา
เป็นคำสั่งที่จงใจเลือกที่รักมักที่ชีง แกล้งเราให้ไปอยู่ในที่กากๆ เดนๆ เต็มไปด้วยสัตว์โลกเพศเมียโรคจิต
สันดานขี้ข้า รุมกระทืบทางจิตใจ
จนเราทนไม่ไหว กับความทุเรด แล้วเราก็ออกมาจากระบบราชการมันเอง แบบไม่สนใจอะไร
รู้สึกเต็มทีกับมัน
เราไม่ทนอีกแล้ว การรับราชการมีแต่การสรา้งความทุกข์
เพราะเป็นข้าราชการ เราถึงได้โรคประจำตัวเพิ่มเข้ามาในชีวิต
เป็นโรคที่เป็นกันไม่ได้ง่ายๆ ถ้าไม่เจอเรื่องเหี่ยจริงจากระบบราชการ
เราเป็นคนที่โดนพิษสงของระบบอยุติธรรมนี้เข้าเต็มๆ
เราเครียดจนป่วยเป็นโรคร้าย ยายเราก็พูดไม่ออก จนวันหนึ่งเราเดินออกมาเอง
เราเลิกฟังเสียงใคร เพราะเวลาเรากินยารักษาตัว แพ้ยา ยาทำลายระบบภายใน
ก็ไม่มีใครมากินยา มาทรมานด้วยกะเราอยู่แล้ว
หมอบอกไม่เกี่ยว แต่หมอจะมารู้ดีไปกว่าคนไข่ที่กินยาไดด้ไง
หมอเรียนแต่ทฤษฎี ไม่เคยเป็นโรคนี้เอง สั่งจ่ายยาตามทฤษฎีที่เรียน
หมอไม่มีทางรู้ว่า ยาทำลายอะไรของเราไปบ้าง เราต้องทรมานแค่ไหน
หมอไม่รู้ เพราะหมอถนัดแต่รักษา แต่หมอไม่เคยป่วยเอง
ตอนเราป่วยที่ระบบร่างกายเสีย ทุกคนในบ้านตกใจ อาชีพข้าราชการ ทำชีวิตเราพินาศขนาดนี้
แม่บอกให้ออกมาเลยในที่สุด จนสุดท้าย ยายก็บอกให้ออกมา
และเริ่มต้นใหม่ แม้บางคนยังยึดติดกับอาชีพรับราราชการดีนักหนา
แต่มันดีกะบางคน ไม่มใช่ดีกับทุกคน เราไม่มีเส้น จึงไม่ได้ดี
มีแต่ความซวยๆๆ ซ้ำซ้อนมาเยือน
แต่เชื่อมะ ขนาดเราเจอพิษร้ายจากระบบราชการ ยายเราก็ยังยึดติดกับการ
อยากให้หลานๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ดี
ทั้งๆ ที่เิงินทุกวันนี้ที่ได้ใช้กัน ไม่ใช่เงินจากเงินเดิอน
แตจ่ต่เป็นเงินจากวิธีหากกินเดิม ๆ คือเก็บค่าเช่า ซื้อที่ดินมาและขายไปในราคาที่แพงกว่า
เราไม่เข้าใจว่ายายจะยึดติดอะไรกะมันนักหนา
ทั้งที่มันทำร้ายเราขนาดนี้
ดูเหมือนการเป็นข้าราชการ กสนทำงานแบบมีเจ้านาย เป็นลูกน้องเขาจะดีในสายตายาย
แต่ความจริงๆ ถ้าเจอระบบห่วยๆ เหี่ยๆ ก็ทำให้ทนอยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ทำไมนะ...ยายถึงไม่เข้าใจบ้าง อะไรที่ดูมั่นคงที่สุด มันอาจจะไม่มั่นคงเลยก้ได้
ถ้าเจอความเหี่ยๆ ของมัน การเป็นลูกน้องเขา ถ้าเราเจอการกลั่นแกล้ง บีบคั้นให้ออก
ไล่ออก หรือใส่ร้ายป้ายสีให้เรามีมลทินจนต้องออก
มันก็ไม่มั่นคงเหมือนกันอะแหละ มองอีกด้าน ถ้าโดนคนเลวๆ ในระบบมารมันกลั่นแกล้ง
ขืนรอแต่เป็นขี้ข้าเขา ไม่หันมาพึ่งตัวเอง คงไม่มีจะแคกกันพอดี
รอแต่จะสมัครงานเป็นขี้ข้าเขาไปทั้งชาติ
ถ้าวันหนึ่งมันโยนความผิดให้เราเพราะหมั่นไส้ เกลียดขี้หน้า เรากระเด็นออกจากงาน
เราจะหากินยังไง ถ้ามัวแต่เป็นขี้ข้าเขา ยายเราชอบบอกว่าคนที่ค้าขายคือคนไม่มีอาชีพ
ทั้งๆ ที่อาชีพค้าขายนี่แหละคือทางเลือกสุดท้ายที่เป็นที่พักพิงให้แก่มนุษย์เงินเดือน
ที่ถูกกลั่นแกล้งจนต้องออกมาจากระะบบ เราฟังยายพุดทีไรโมโหจนนอนไม่หลัยทุกที
ยายพูดยังกะตัวเองไม่เคยค้าขายแน่ะ เรานั่งมองมาตั้งแต่เด็ก อาชีพรับราชการ
ที่น้าที่แม่เราทำ ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย ทำได้แค่พอมีกินไปเดือนๆ กะมีสวัสิดิการบางอย่าง
ฟรีๆ ที่มีรถขับมีบ้านอยู่ มีที่ดินของตัวเอง
แบบไม่ต้องก็้เงิน ก็เงินจากการค้าขาย ของยายเรา วิธีขายแบบยายเรานี่แหละ
ทำไมยายต้องดูถูกสิ่งที่ตัวเองเคยทำ ไปปลื้มหลงใหลกะอาชีพที่มันทำร้ายเราด้วย
ยายไม่เคยเจอแบบที่เราเจอ ยายไม่เคยไปเจอตัวร้ายตัวมารแบบนั้น จึงไม่เข้าใจ
เราเชื่อว่า ถ้ายายเจอ ยายอาจจะยิ่งกว่าเรา เรา่รู้มาจากแม่ว่า
ตอนสาวๆ ยายอารมณ์ร้อนมาก ไม่เคยยอมลงให้ใคร เราถอดแบบมาจากยาย เหมือนกันมาก
ถ้าเหมือนกันขนาดนี้ ยายเราถ้ามาเจอแบบเรา ยายกึคงไม่ทนเป็นขี้ข้าให้พวกมารมันโขกหัวเหมือนกัน
การที่ยายกะเราเหมือนกัน แต่ยายไม่เข้าใจเราเลย
พอพูดถึงใครสักคนคนที่ทำอาชีพค้าขาย ยายจะชอบพูดว่า คนๆ นั้นไม่ได้มีอาชีพอะไร แค่ค้าขายของไปวันๆ
การมีอาชีพในทัศนะชองยายคือ ต้องมีเจ้านาย เป็นลูกน้องเขา และรอรับแต่เงินเดือน
มีแค่นี้จริงๆ
มีต่อ...
ตอนนี้ หลังจากเดินออกมาจากระบบราชการเหี่ยๆ
เรากำลังเคลียร์ที่ตั้งร้านขายของ กำลังจะเป็นเจ้านายตัวเอง ยายยกที่ให้
เป็นย่านธุรกิจใหม่เลยตรงนั้น คนเยอะขวักไขว่พอๆ กะแถวๆ ถนนจรัญฐตอนเย๋น
แต่ยายไม่ให้กำลังใจเราเลย จะเปิดร้านไรนี่ ยายไม่ให้กำลังใจ พุดแต่
ให้นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ไปสักสองปี คิดดีๆ ว่าจะขายอะไร จะทำไอ่นั่น
จะดีเหรอ ยายบอกว่าช่วยคิด แต่เราว่ายายช่วยทำให้เรารู้สึกเฟลลง
ยายเราจะให้เรานั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน
ให้ฟุ้งซ่านไปวันๆ เราพักฟื้นอาการป่วยจะเป้นปี จนตอนนี้อาการดีเหมือนคนไม่เคยเป็นแล้ว
ยายยังจะให้ทนอยู่บ้านเฉยๆ เราเบื่อ เคยไปนั่งขายของแบกะดิน ยายก็อายไม่อยากให้เราไปขาย เป็นหลานเจ้าของที่เลยอาย
ยายยัง
อยากให้เรากลับไปเป็นขี้ข้าเขาเสียจริง อยากให้เรากลับไปมีชีวิตที่มีเจ้านายเหี่ยๆ
ถูกโขกสับเหมือนเดิมสินะ จะต้องทำไงให้ยายเห็นว่า การเป็นเจ้านายตัวเองมันมีความสุขกว่า
คัยที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก และการเป็นข้าราชการก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายของชีวิต
การไมได้เป็นข้าราชการไม่ได้ทำให้ตาย ไม่งั้นคนทั้งโลกก็คงตายไปแล้ว
เพราะมีคนจำนวนมากไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่ก็ยังมีชีวิตที่ดีและมีความสุชกว่าเป็นข้าราชการ
ที่ต้องหัวหดไปวันๆ คอยรับคำสั่งนายยังกะขี้ข้า ขาดความคิดและอิสระ ได้แต่ทำตามสั่ง
เจอนายห่วยก็เจอแต่เรื่องเหียๆ
แม่เรายังให้กำลังใจ ยังช่วยคิด
แต่ยายให้แต่เงิน ไม่เคยให้กำลังใจ
คุณอาจจะว่าเราบ่นบ้าบอ แต่เราสบายใจขึ้นแร่ะ
แค่อยากระบายแค่นั้นเอง
พอถึงยุคเราโตเป็นผู้ใหญ่ สภาพสังคมเปลี่ยนไป การเข้ารับราชการสมัยเรา
เข้ายาก เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะข้อสอบยาก แต่เพราะเส้นมันเยอะ
เขามีตัวของเค้าอยู่แล้ว การปัดแข้งปัดขามันเยอะ ความก้าวหน้าเป็นไปได้ยากถ้า
ไม่มีพวก
แต่...
เราก็สามารถเข้าไปรับราชการได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เส้น
เราสอบเข้าไปได้ถึง 2 ที่ เราสอบในกรมที่มันรับจำนวนเยอะๆ
และเป็นที่ที่คนแก่งแย่งกันเข้าไป
ตอนเราเข้าไปได้ยายภูมิใจมาก คุยฟุ้งไปเจ็ดคุ้งน้ำเลย (เปรียบเทียบ)
เรื่องของเรามันดังมากในละแวกบ้าน คนแถวนี้ไม่มีใครไม่รู้
ว่าเราทำงานที่ไหน เพราะเราเป็นหลานคนโต
และเป็นหลานที่ยายเป็นคนเลี้ยงมากะมือ ปั้นมาเอง
สมัยเล็กๆ ไปไหนยายเอาไปด้วยตลอด อยากได้อะไร
เราได้หมด รถยนต์ นั่นนี่ น้องๆ คนอื่นยังไม่ได้ แต่เราได้
จนบางครั้งน้องๆ มันมักพูดว่า พี่อาจจะไม่รู้นะ แต่คนที่ยายแคร์ที่สุดคือพี่
พี่เป็นที่หนึ่งเสมอ ยายรักพี่มากกว่าหลานคนอื่นๆ และเกรงใจพี่มากกว่าคนอื่น
มันพูดเหมือนมันอิจฉาและน้อยใจ
เราฟังก็สะเทือนใจ ไม่อยากให้น้องๆ รู้สึกแบบนี้ แต่เป็นอันรู้กันว่า
ยายรักเรามากกว่าใครจริงๆ การที่เราได้เข้าไปทำงานรับราชการ
ในกรมที่คนแก่งแย่งกันเข้า จึงทำให้ยายเราเที่ยวไปคุยกะเพื่อนฝูง
กะญาติคนอื่น เราไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ทุกคนรู้มาจากยายว่าเราทำงานรับราชการที่นั่น
แต่ในความภูมิใจของยาย ยายไม่มีวันรู้ว่าเราต้องเจอกับอะไร
การเข้าไปเป็นข้าราชการแบบไม่มีพวก ไม่มีคนรู้จัก
เราต้องไปเจอกับพวกมารในระบบ เราต้องน้ำตาเล็ดเสมอ ชอกช้ำ
มีสถานะไม่ใช่เป็นข้าของแผ่นดิน แต่เป็นแค่ขี้ข้ารองพระบาทาของพวกมารเลวๆ ในระบบราชการนั้น
อาชีพที่ยายเราภาคภูมิใจนักหนาอยากให้เราเป็น ถึงขนาดว่าเรียนจบมาพยายามพูดว่าอยากเป็นเจ้านาย
ตัวเองไม่อยากเป็นลู฿กจ้างใคร (เพราะเราเป็นคนมีเซนส์ว่า
การเป็นลูกน้องเขาจะนำความทุกข์วินาศมาให้ ลางบอกเหตุล่วงหน้า)
ยายก็จะพูดเสมอว่า จะไปทำอะไร ก็ทำแบบแม่กะน้านี่แหละ สบายจะตาย
(คือ ยายไม่เคยไปทำงานในองค์กร ไม่รู้ว่าการอยู่กับคนหมู่มาก
คนเยอะๆ การมีปัญหากะคน เจอความไม่เป็นธรรมเบียดเบียน
มันเป็นยังไง น้าๆ แต่ละคนอยู่ได้เต็มที่แค่อายุ 55
ไม่เคยมีใครอยู่จนถึง 60 เพราะเอือมกับระบบ แตยายไม่เข้าใจ
โลกในการเข้าไปเป็นลูกน้อง ลูกจ้างเขา งานแบบมีเจ้านาย
สำหรับยายเราจึงยังสวยและมั่นคงเสมอ เพราะยายไม่เคยมาเจอชีวิตแบบที่เราเจอ)
เมื่อเราได้เข้ามาเป็นข้าราชการ มันไม่เคยสร้างความสุขให้เราเลยสักวัน
ได้เงินมา แต่ก็ได้ความทุกข์มาด้วย เจอพวกกลั่นแกล้ง เหมือนเราทำงานเพื่อแสวงหาความทุกข์
ไม่ใช่ได้เงินแล้วจะมีความสุข
เจอพวกตัวร้ายทุกรูปแบบที่เขาว่าและร่ำลือกัน
การที่เรามีแต่เงิน แต่ไม่มีเส้น มันก็เท่านั้นในระบบลำเอียง ไม่มีความเป็นธรรมห่วๆย
เขาดูที่ว่าเป็นลูกเป็นหลายใคร จะดันกันแต่ลูกหลานคนใหญ่คนโต เราโผล่ไปแบบ
ขับรถป้ายแดงไป มีแต่คนหมั่นไส้ริษยา ยิ่งบอกว่าไม่ต้องซื้อเอง ที่บ้านซื้อให้
เลือดริษยาคงล้นทะลัก มันเขม่นเราตั้งแต่นาทีแรก พวกเส้น
ระบบราชการ มีเงิน ยังสู้ มีเส้นไม่ได้ นี่คือความจริง
เส้นครอบครองทุกอย่างในระบบราชการ ไม่มีเส้นเป็นอะไรที่กรนะจอกมาก
เป็นข้าราชการแค่ในนาม แต่ในทางปฏิบัติ ยิ่งไม่มีเส้น เราถูกโขกยังกะขี้ข้า
ไม่มีใครเกรงใจ ไม่มีใครไว้หน้า จ้องจะเชือดอย่างเดียวถ้าไปทำอะไรขัดหูขัดามัน
แล้ววันหนึ่ง ก็มีเหตุใหญ่ เราเจอการกลั่นแกล้งชนิดเจอคำสั่งไม่เป็นธรรมต่อตัวเรา
เป็นคำสั่งที่จงใจเลือกที่รักมักที่ชีง แกล้งเราให้ไปอยู่ในที่กากๆ เดนๆ เต็มไปด้วยสัตว์โลกเพศเมียโรคจิต
สันดานขี้ข้า รุมกระทืบทางจิตใจ
จนเราทนไม่ไหว กับความทุเรด แล้วเราก็ออกมาจากระบบราชการมันเอง แบบไม่สนใจอะไร
รู้สึกเต็มทีกับมัน
เราไม่ทนอีกแล้ว การรับราชการมีแต่การสรา้งความทุกข์
เพราะเป็นข้าราชการ เราถึงได้โรคประจำตัวเพิ่มเข้ามาในชีวิต
เป็นโรคที่เป็นกันไม่ได้ง่ายๆ ถ้าไม่เจอเรื่องเหี่ยจริงจากระบบราชการ
เราเป็นคนที่โดนพิษสงของระบบอยุติธรรมนี้เข้าเต็มๆ
เราเครียดจนป่วยเป็นโรคร้าย ยายเราก็พูดไม่ออก จนวันหนึ่งเราเดินออกมาเอง
เราเลิกฟังเสียงใคร เพราะเวลาเรากินยารักษาตัว แพ้ยา ยาทำลายระบบภายใน
ก็ไม่มีใครมากินยา มาทรมานด้วยกะเราอยู่แล้ว
หมอบอกไม่เกี่ยว แต่หมอจะมารู้ดีไปกว่าคนไข่ที่กินยาไดด้ไง
หมอเรียนแต่ทฤษฎี ไม่เคยเป็นโรคนี้เอง สั่งจ่ายยาตามทฤษฎีที่เรียน
หมอไม่มีทางรู้ว่า ยาทำลายอะไรของเราไปบ้าง เราต้องทรมานแค่ไหน
หมอไม่รู้ เพราะหมอถนัดแต่รักษา แต่หมอไม่เคยป่วยเอง
ตอนเราป่วยที่ระบบร่างกายเสีย ทุกคนในบ้านตกใจ อาชีพข้าราชการ ทำชีวิตเราพินาศขนาดนี้
แม่บอกให้ออกมาเลยในที่สุด จนสุดท้าย ยายก็บอกให้ออกมา
และเริ่มต้นใหม่ แม้บางคนยังยึดติดกับอาชีพรับราราชการดีนักหนา
แต่มันดีกะบางคน ไม่มใช่ดีกับทุกคน เราไม่มีเส้น จึงไม่ได้ดี
มีแต่ความซวยๆๆ ซ้ำซ้อนมาเยือน
แต่เชื่อมะ ขนาดเราเจอพิษร้ายจากระบบราชการ ยายเราก็ยังยึดติดกับการ
อยากให้หลานๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ดี
ทั้งๆ ที่เิงินทุกวันนี้ที่ได้ใช้กัน ไม่ใช่เงินจากเงินเดิอน
แตจ่ต่เป็นเงินจากวิธีหากกินเดิม ๆ คือเก็บค่าเช่า ซื้อที่ดินมาและขายไปในราคาที่แพงกว่า
เราไม่เข้าใจว่ายายจะยึดติดอะไรกะมันนักหนา
ทั้งที่มันทำร้ายเราขนาดนี้
ดูเหมือนการเป็นข้าราชการ กสนทำงานแบบมีเจ้านาย เป็นลูกน้องเขาจะดีในสายตายาย
แต่ความจริงๆ ถ้าเจอระบบห่วยๆ เหี่ยๆ ก็ทำให้ทนอยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ทำไมนะ...ยายถึงไม่เข้าใจบ้าง อะไรที่ดูมั่นคงที่สุด มันอาจจะไม่มั่นคงเลยก้ได้
ถ้าเจอความเหี่ยๆ ของมัน การเป็นลูกน้องเขา ถ้าเราเจอการกลั่นแกล้ง บีบคั้นให้ออก
ไล่ออก หรือใส่ร้ายป้ายสีให้เรามีมลทินจนต้องออก
มันก็ไม่มั่นคงเหมือนกันอะแหละ มองอีกด้าน ถ้าโดนคนเลวๆ ในระบบมารมันกลั่นแกล้ง
ขืนรอแต่เป็นขี้ข้าเขา ไม่หันมาพึ่งตัวเอง คงไม่มีจะแคกกันพอดี
รอแต่จะสมัครงานเป็นขี้ข้าเขาไปทั้งชาติ
ถ้าวันหนึ่งมันโยนความผิดให้เราเพราะหมั่นไส้ เกลียดขี้หน้า เรากระเด็นออกจากงาน
เราจะหากินยังไง ถ้ามัวแต่เป็นขี้ข้าเขา ยายเราชอบบอกว่าคนที่ค้าขายคือคนไม่มีอาชีพ
ทั้งๆ ที่อาชีพค้าขายนี่แหละคือทางเลือกสุดท้ายที่เป็นที่พักพิงให้แก่มนุษย์เงินเดือน
ที่ถูกกลั่นแกล้งจนต้องออกมาจากระะบบ เราฟังยายพุดทีไรโมโหจนนอนไม่หลัยทุกที
ยายพูดยังกะตัวเองไม่เคยค้าขายแน่ะ เรานั่งมองมาตั้งแต่เด็ก อาชีพรับราชการ
ที่น้าที่แม่เราทำ ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย ทำได้แค่พอมีกินไปเดือนๆ กะมีสวัสิดิการบางอย่าง
ฟรีๆ ที่มีรถขับมีบ้านอยู่ มีที่ดินของตัวเอง
แบบไม่ต้องก็้เงิน ก็เงินจากการค้าขาย ของยายเรา วิธีขายแบบยายเรานี่แหละ
ทำไมยายต้องดูถูกสิ่งที่ตัวเองเคยทำ ไปปลื้มหลงใหลกะอาชีพที่มันทำร้ายเราด้วย
ยายไม่เคยเจอแบบที่เราเจอ ยายไม่เคยไปเจอตัวร้ายตัวมารแบบนั้น จึงไม่เข้าใจ
เราเชื่อว่า ถ้ายายเจอ ยายอาจจะยิ่งกว่าเรา เรา่รู้มาจากแม่ว่า
ตอนสาวๆ ยายอารมณ์ร้อนมาก ไม่เคยยอมลงให้ใคร เราถอดแบบมาจากยาย เหมือนกันมาก
ถ้าเหมือนกันขนาดนี้ ยายเราถ้ามาเจอแบบเรา ยายกึคงไม่ทนเป็นขี้ข้าให้พวกมารมันโขกหัวเหมือนกัน
การที่ยายกะเราเหมือนกัน แต่ยายไม่เข้าใจเราเลย
พอพูดถึงใครสักคนคนที่ทำอาชีพค้าขาย ยายจะชอบพูดว่า คนๆ นั้นไม่ได้มีอาชีพอะไร แค่ค้าขายของไปวันๆ
การมีอาชีพในทัศนะชองยายคือ ต้องมีเจ้านาย เป็นลูกน้องเขา และรอรับแต่เงินเดือน
มีแค่นี้จริงๆ
มีต่อ...
ตอนนี้ หลังจากเดินออกมาจากระบบราชการเหี่ยๆ
เรากำลังเคลียร์ที่ตั้งร้านขายของ กำลังจะเป็นเจ้านายตัวเอง ยายยกที่ให้
เป็นย่านธุรกิจใหม่เลยตรงนั้น คนเยอะขวักไขว่พอๆ กะแถวๆ ถนนจรัญฐตอนเย๋น
แต่ยายไม่ให้กำลังใจเราเลย จะเปิดร้านไรนี่ ยายไม่ให้กำลังใจ พุดแต่
ให้นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ไปสักสองปี คิดดีๆ ว่าจะขายอะไร จะทำไอ่นั่น
จะดีเหรอ ยายบอกว่าช่วยคิด แต่เราว่ายายช่วยทำให้เรารู้สึกเฟลลง
ยายเราจะให้เรานั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน
ให้ฟุ้งซ่านไปวันๆ เราพักฟื้นอาการป่วยจะเป้นปี จนตอนนี้อาการดีเหมือนคนไม่เคยเป็นแล้ว
ยายยังจะให้ทนอยู่บ้านเฉยๆ เราเบื่อ เคยไปนั่งขายของแบกะดิน ยายก็อายไม่อยากให้เราไปขาย เป็นหลานเจ้าของที่เลยอาย
ยายยัง
อยากให้เรากลับไปเป็นขี้ข้าเขาเสียจริง อยากให้เรากลับไปมีชีวิตที่มีเจ้านายเหี่ยๆ
ถูกโขกสับเหมือนเดิมสินะ จะต้องทำไงให้ยายเห็นว่า การเป็นเจ้านายตัวเองมันมีความสุขกว่า
คัยที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก และการเป็นข้าราชการก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายของชีวิต
การไมได้เป็นข้าราชการไม่ได้ทำให้ตาย ไม่งั้นคนทั้งโลกก็คงตายไปแล้ว
เพราะมีคนจำนวนมากไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่ก็ยังมีชีวิตที่ดีและมีความสุชกว่าเป็นข้าราชการ
ที่ต้องหัวหดไปวันๆ คอยรับคำสั่งนายยังกะขี้ข้า ขาดความคิดและอิสระ ได้แต่ทำตามสั่ง
เจอนายห่วยก็เจอแต่เรื่องเหียๆ
แม่เรายังให้กำลังใจ ยังช่วยคิด
แต่ยายให้แต่เงิน ไม่เคยให้กำลังใจ
คุณอาจจะว่าเราบ่นบ้าบอ แต่เราสบายใจขึ้นแร่ะ
แค่อยากระบายแค่นั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบพูดว่า คนที่ทำงานค้าขายคือคนไม่มีอาชีพและอนาคต
ไม่รู้จะพูดกับใคร มันรู้สึกบาปที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ถ้าไม่ระบายให้
ใครฟังอกต้องแตกแน่
คนที่พูดแบบนี้คือ ยายเราเอง
เรารู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ยายเราพูด เราไม่รู้เหมือนกันทำไมยายมีทัศนคติแบบนี้ มีแนวคิดดูถูกคนแบบนี้
มาได้จนทุกวันนี้ ททั้งที่เมื่อก่อนยายเราก็มีอาชีพเป็นเกษตรกร เอาของในสวนไปขาย เลี้ยงแม่ เลี้ยงป้า
เลี้ยงน้าเราจนโต ตาเราขับเรือหางยาว เงินจากอาชีพพวกนี้ก็เลี้ยงแม่เราจนโตมามีคุณภาพชีวิตที่ดี
บอกก่อนยายเราอายุ 87 ปี จบป. 4 มีความฝังใจกับอาชีพรับราชการ หรืองานที่ต้องไปเป็นลูกจ้างลูกน้อง
ในองค์กรใหญ่ๆ ง่ายๆ คือ ชอบอาชีพที่ต้องเป็นลูกน้องเขา และอยากให้ลูกให้หลายเป็นข้าราชการ
พนักงานบริษัท หรืออะไรก็ได้ที่เข้าไปเป็นลูกจ้างลูกน้องเขา
เราไม่เข้าใจจริงๆ อย่าเพิ่งเบื่อ ฟังเราก่อนนะ
สมัยก่อนๆ ตอนเรายังเ็ด็ก เราสังเกตว่า ยายเป็นคนชอบขาย
ทวดซื้อบ้านโบราณอายุกว่า 200 ปีมา โบราณจริงๆ เรือนไทยแบบในหนังโบราณ
รุ่นปลายกรึงศรี ต้นยุคกรุงธนบุรี ไม้ที่ปลูกบ้านเป็นไม้มีราคาหายาก จำได้ว่าคนแุถวนั้น
พูดว่าบ้านหลังนี้ปลูกด้วยไม้ที่หายาก ไม้ราคาแพงมาก พอทวดตาย แล้วยายเราก็ขายเอาตังค์
ยายเราขายสวนที่เคยทำ มีหลายไร่ เอาตังค์ที่ขายสวนได้ ไปซื้อที่ดิน แล้วก็ขายต่อในราคาที่สูงขึ้นๆ...
บางทีก็เปิดให้เช่าที่ เก็บตังค์
จะเป็นแบบนี้ หากถามว่าการหากินของบ้านเราเป็นไง คือแบบนี้ ซื้อมาแล้วขายต่อ ให้ได้ราคามากขึ้น
ทีนี้ขอเล่าว่า อยา่งที่บอกว่ายายเรามีความชอบฝังหัวอยากให้ลูกหลานรับราชการ
เป็นข้าของแผ่นดินไรแบบนี้ แม่เรา น้าเราจึงเป็นข้าราชการ น้าคนสุดท้องทำงานธนาคาร
ดูคนสมัยก่อนจะภูมิใจมากกับอาชีพแบบนี้ คือมีเ้จ้านาย ส่วนตัวเราเป็นแค่ลูกน้องเขา
รับเงินเดือน ทำงานเช้าชามเย็นชาม รอรับแต่เงินเดือนอย่างเดียว
นั่งทำงานห้องแอร์ แต่งตัวแบบสาวออฟฟิศ
เมื่อปี 2500 ต้นๆ สมัยนั้นงานยังหาง่าย
การเข้ารับราชการง่ายกว่าสมัยนี้ เส้นสาย วิ่งเต้น ขัดแข้งขายังมีน้อย
สังคมยังน่าอยู่กว่าทุกวันนี้ การเติบโตมีโอกาสก้าวหน้าง่ายกว่า
สมัยก่อนมีคนมาจีบน้าคนสุดท้องของเรา เป็นพวกเก็บค่าเช่าที่ทำตลาดอยู่ 3-4 แห่ง
อยากจะมาขอดองกับน้าเรา (เดาว่าเห็นยายเราสมบัติเยอะ เลยมา ทั้งที่น้าเราอายุ 40 กว่าๆ แล้ว)
ยายเราถามว่าผู้ชายคนนี้ทำงานอะไร
แม่เขาบอกว่า ทำอันนี้อยู่ ยายดูถูกผู้ชายคนนี้กะแม่เขาไปว่า
เองเก็บแต่ค่าเช่าที่ แล้ววันหนึ่งถ้าไม่มีใครเขามาเช่าที่เอง เองจะทำไง
เองไม่ได้มีงานประจำ มีเงินเดือนมั่นคงแบบพวกข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัท
(อย่างที่บอก
ยายเราชื่นชอบอาชีพที่ต้องเป็นลูกน้องลูกจ้างเขา)
(ณ ตอนนั้น น้าคนสุดท้องเรา มีปัญหากับการทำงานในธนาคาร เครียดจัดเนื่องจากธนาคารบีบเค้นให้พนักงานหาลุกค้า
มาทำนั่นทำนี่ สมัครโปรโมชั่นนั่นสมัครนี่ บีบให้ต้องหาลูกค้า น้าเราไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ สมัยเข้าไปทำงานใหม่ๆ งานสบายๆ
แค่นั่งอยู่ตามบูธรอฝรั่งมาแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศเป็นเงินไทย แต่วันหนึ่งเจอยังไงไม่ทราบ โดนเด้งเข้าสำนักงานใหญ๋
ต้องคอยมานั่งหาลูกค้าให้ธนาคาร เครียดจัดมากๆๆๆ คร่ำครวญกะยายทุกวัน จนยายบอกไม่ไหวก็ออกมาเถอะ
ทุกวันนี้ น้าคนสุดท้องก็นั่งอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำงานอะไร ทำแค่ ทำความสะอาดบ้าน เลี้ยงหมา ทำกับข้าว
หมดไปวันๆ และเงินที่น้าใช้ๆ กันก็คือเงินจากการเก็บค่าเช่าที่อยู๋ดี!!! )
มีต่อ...