โรคกลัว บางครั้งไม่มีเหตุผล แต่บางคนเป็นอย่างรุนแรง
และเป็นอย่างประจำเมื่อตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมต่าง ๆ
กิจกรรมต่าง ๆ ข้าวของเครื่องใช้ สัตว์ หรือ ผู้คน
ประมาณการว่า 1 ใน 23 คนเป็นโรคกลัว (จาก Phobia Statistics)
ร้อยละ 20 ของคนเป็นโรคกลัวอาจหายได้เมื่อเป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตามโรคกลัวก็ยังหลงเหลืออยู่หรือคุกคามในบางครั้ง
10. Pteronophobia (โรคกลัวถูกจักจี้ด้วยขนนก)
โรคกลัวนี้มาจากการถูกจักจี้ด้วยขนนก
แน่นอนอาจจะพัฒนามาจากหลายสาเหตุ
เช่น เด็กทารกถูกจักจี้ด้วยขนนก
เด็กอาจรู้สึกกลัวกับเรื่องนี้
และนำไปสู่ Pteronophobia ในอีกหลายปีต่อมา
9. Taphophobia (โรคกลัวถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกฝังในสุสาน)
ในยุคก่อนที่การแพทย์ยังไม่เจริญเหมือนปัจจุบันนี้
มีโรคกลัวว่าจะถูกฝังทั้งเป็น/หรือถูกฝังทิ้งไว้ในสุสาน
เพราะมีหลายกรณีที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์
ที่คนบางคนถูกฝังทั้งเป็นขณะที่ยังไม่ตายสนิท
เพราะนิติวิทยาศาสตร์/การแพทย์ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
ไม่สามารถจะระบุว่าคนตายแล้วหรือยัง หรือเป็นแค่อัมพาต
แต่ถ้าคุณกลัวว่าจะถูกฝังทั้งเป็นแล้ว
ให้บอกกับครอบครัวว่าให้ฝังในโลงศพที่หายใจได้/มองเห็นได้
เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้ได้เห็นเกี่ยวกับตัวคุณ
ถ้าคุณต้องการเดินทางล่าช้ามากในการไปสู่สรวงสวรรค์
8. Triskaidekaphobia (โรคกลัวหมายเลข 13)
โรคกลัวหมายเลข 13 นี้เชื่อมโยงไปถึงวันศุกร์ที่ 13
ถ้าคุณเป็นโรคกลัวหมายเลข 13
คุณก็มีเพื่อนร่วมทางที่เป็นโรคกลัวหมายเลข 13 นี้เช่นกัน
คนคนนั้นคือ Adolf Hitler ผู้นำนาซีเยอรมันนี
หมายเลข 13 มักจะเชื่อว่าเป็นเลขโชคร้ายในซีกโลกตะวันตก
แต่หลายประเทศในตะวันออกของเอเซียกลับกลัวหมายเลข 4
หมายเหตุ
คนจีน/คนจีนฮ่องกง ถ้าอ่านออกเสียงเลข 4 เป็น ซี่ หรือ ซี้ ที่แปลว่า ตาย
ถ้าจำไม่ผิด ญี่ปุ่น ไม่ชอบหมายเลข 9 การลดราคาแบบ 99.99 จึงไม่เป็นที่นิยม
7. Chemophobia (โรคกลัวคีโม/สารเคมี)
ชื่อนี้ก็บอกเล่าเรื่องราวได้มากมายเกี่ยวกับการกลัวสารเคมี
Chemophobics ผู้คนมักจะคิดว่าเป็นสารเคมีที่คนสร้างขึ้นมา
มีอันตรายร้ายแรงกว่าของสารเคมีที่ทำมาจากของธรรมชาติ
บางครั้งถึงกับเลยเถิดไปว่า น้ำ ยังปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี
ทั้งที่สารเคมีประจำวันที่บริโภคในแต่ละวัน
(เช่น เกลือ น้ำตาล น้ำปลา เครื่องปรุงรส ฯลฯ)
ถ้าตรวจสอบอย่างจริงจังแล้วกลับดูเหมือนว่า
สินค้าที่ผลิตออกมาบางประเภทมีอันตรายมากกว่า
โรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสารเคมีที่อันตราย
ที่มีระบบการตรวจสอบและควบคุมเป็นอย่างดี
6. Ephebiphobia โรคกลัวของวัยรุ่น
ถ้าคุณยังเป็นหนุ่มเป็นสาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัยรุ่น
คุณมักจะเป็นโรค Ephebiphobics
หรือที่เรียกกันว่า กลัวอับอายขายหน้าหรือกลัวถูกรังเกียจ
โรคนี้มักจะเป็นกันอย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น
เพราะการอยู่ร่วมกันในสังคมของหนุ่มสาวในวัยรุ่น
และจิตวิทยาสังคม เรียกว่า โรคกลัวของวัยรุ่น
โรคนี้มักเริ่มต้นมาจากทัศนคติในหมู่วัยรุ่น
ที่มักจะหมกมุ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องไร้ศีลธรรม
หรือเรื่องการทำผิดทำนองคลองธรรม/ผิดแปลกจากเพื่อน ๆ
5. Scopophobia (โรคกลัวการถูกมอง)
Scopophobics เป็นโรคกลัวการถูกมอง
คนกลัวโรคนี้มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนมากมาย เช่น
ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด หรือสถานที่มีผู้คนแออัดจำนวนมาก
ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมักจะมีปัญหายุ่งยาก เช่น
ขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้ใบหญ้าในสวนที่บ้าน
ถ้ามีใครบางคนมามองดูหรือจ้องมองแล้ว
คนเป็นโรคกลัวชนิดนี้มักจะมีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที
และรู้สึกไม่สบายใจ มักจะหนีออกจากที่แห่งนั้น
ไปให้ไกลที่สุดหรือไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
4. Coulrophobia (โรคกลัวตัวตลก)
โรคกลัวตัวตลก มักจะพบในเด็ก ๆ วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่
แต่ส่วนมากมักจะเป็นเด็ก ๆ ที่หวาดกลัวตัวตลก
เพราะมองเห็นภาพที่น่ากลัวของตัวตลกมากกว่าวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่
ขณะที่ผู้ใหญ่มักจะพอรู้ตัวว่า ความกลัวดังกล่าวไม่ค่อยมีเหตุผลนัก
แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องยากเช่นกันที่จะขจัดโรคกลัวแบบนี้ออกไปได้
เว้นแต่ได้รับการรักษาอย่างจริงจังในเรื่องนี้
3. Nomophobia โรคติดโทรศัพท์มือถือ
ความกลัวจากความคิดเห็นที่หลากหลายก็เป็นโรคอย่างหนึ่ง
แต่ความกลัวจากการไม่สามารถติดต่อกับผู้คนทางโทรศัพท์มือถือได้
เป็นโรคกลัวที่ยอดนิยมในตอนนี้
ลองตรวจสอบตนเองว่าเป็นโรคกลัวประเภทนี้หรือไม่
ลองหยุดใช้งานหรือปิดโทรศัพท์มือถือสักหนึ่งวัน
แล้วลองสังเกตอาการตนเองว่าวิตกกังวลหรือเครียดหรือไม่
โรคความกลัวประเภทนี้ได้แพร่หลายไปรอบโลกแล้ว
เพราะวัฒนธรรมการติดต่อสื่อสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์/โทรศัพท์มือถือ
มันจึงกลายเป็นเรื่องยากหรือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ที่คนเราจะขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือที่ทำงาน
2. Ergasiophobia โรคกลัวงาน
โรคนี้กลัวการทำงานหรือโรคกลัวงาน
โรคนี้สามารถทำให้คนจำนวนมากกลายเป็นคนไร้ประสิทธิภาพ
หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนในบางกรณี/บางครั้ง
เพราะมีหลายกรณีที่เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย
ความกลัวประเภทนี้ผสมผสานกับความกลัวหลายอย่าง
เช่น กลัวความล้มเหลวที่จะทำงานเสร็จทันเส้นตาย(วันสุดท้ายที่กำหนด)
กลัวการคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงาน
1. Papaphobia โรคกลัวพระสันตปาปา
โรคกลัวนี้ไม่ใช่การกลัวพ่อของตนเอง
แต่เป็นการกลัวพระสันตปาปา
ขณะที่ผู้คนนับล้านคนต่างกำลังขอพรจากท่าน
แต่มีบางคนหวาดกลัวมากที่จะพบเห็นท่าน
คนเหล่านี้มักจะมีอาการที่แปลกประหลาด
มีอัตราการเต้นของหัวใจเแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
และมีอาการหายใจถี่ ๆ เหนื่อยหอบอย่างมาก
เพราะสาเหตุมาจากความเกลียดชังที่ฝังลึกอยู่ในใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความกลัวที่ผสมผสานกัน
ความกลัวโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
หมายเหตุ
โรคนี้อาจจะสั่งสมมาจากความเกลียดชังในอดีต
ระหว่างผู้คนที่นับถือศาสนาต่างกัน
ที่มีการถ่ายทอดสู่ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นหรือสู่กลุ่มเดียวกัน
ตั้งแต่ยุคไล่ล่าแม่มดพ่อมด หมอผี หรือสงครามระหว่างศาสนา
ระหว่างนิกายโรมันคาทอลิคกับนิกายโปรเตสแตนท์ หรือคริสต์กับอิสลาม
ที่มีการลงโทษจำเลยกันอย่างรุนแรง มีทั้งการฆ่า แขวนคอ เผาทั้งเป็น
แล้วยึดทรัพย์สมบัติของจำเลยเป็นของโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิค
โดยมีพระสันตปาปาเป็นผู้นำสูงสุดของนิกายโรมันคาทอลิค
สถิติโรคกลัวของคนอเมริกัน
เพิ่มเติม กระทู้ที่น่าสนใจและเกี่ยวเนื่องของ
ธีรนัยน์
มารู้จัก 10 โฟเบียประหลาดๆชวนน่าหัวร่อ แต่คนที่ต้องเผชิญกลับหัวเราะไม่ออก
http://ppantip.com/topic/30940033
เรียบเรียงจาก
http://realitypod.com/2010/08/top-10-oddest-phobias/
http://www.statisticbrain.com/fear-phobia-statistics/
http://translate.google.com/
http://bing.com/translator/
http://dict.longdo.com/
ผิดพลาดขออภัย โปรดชี้แนะ
จะรีบกลับมาแก้ไขโดยพลัน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โรคกลัวแบบแปลก ๆ ของฝรั่ง
และเป็นอย่างประจำเมื่อตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมต่าง ๆ
กิจกรรมต่าง ๆ ข้าวของเครื่องใช้ สัตว์ หรือ ผู้คน
ประมาณการว่า 1 ใน 23 คนเป็นโรคกลัว (จาก Phobia Statistics)
ร้อยละ 20 ของคนเป็นโรคกลัวอาจหายได้เมื่อเป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตามโรคกลัวก็ยังหลงเหลืออยู่หรือคุกคามในบางครั้ง
10. Pteronophobia (โรคกลัวถูกจักจี้ด้วยขนนก)
โรคกลัวนี้มาจากการถูกจักจี้ด้วยขนนก
แน่นอนอาจจะพัฒนามาจากหลายสาเหตุ
เช่น เด็กทารกถูกจักจี้ด้วยขนนก
เด็กอาจรู้สึกกลัวกับเรื่องนี้
และนำไปสู่ Pteronophobia ในอีกหลายปีต่อมา
9. Taphophobia (โรคกลัวถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกฝังในสุสาน)
ในยุคก่อนที่การแพทย์ยังไม่เจริญเหมือนปัจจุบันนี้
มีโรคกลัวว่าจะถูกฝังทั้งเป็น/หรือถูกฝังทิ้งไว้ในสุสาน
เพราะมีหลายกรณีที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์
ที่คนบางคนถูกฝังทั้งเป็นขณะที่ยังไม่ตายสนิท
เพราะนิติวิทยาศาสตร์/การแพทย์ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
ไม่สามารถจะระบุว่าคนตายแล้วหรือยัง หรือเป็นแค่อัมพาต
แต่ถ้าคุณกลัวว่าจะถูกฝังทั้งเป็นแล้ว
ให้บอกกับครอบครัวว่าให้ฝังในโลงศพที่หายใจได้/มองเห็นได้
เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้ได้เห็นเกี่ยวกับตัวคุณ
ถ้าคุณต้องการเดินทางล่าช้ามากในการไปสู่สรวงสวรรค์
8. Triskaidekaphobia (โรคกลัวหมายเลข 13)
โรคกลัวหมายเลข 13 นี้เชื่อมโยงไปถึงวันศุกร์ที่ 13
ถ้าคุณเป็นโรคกลัวหมายเลข 13
คุณก็มีเพื่อนร่วมทางที่เป็นโรคกลัวหมายเลข 13 นี้เช่นกัน
คนคนนั้นคือ Adolf Hitler ผู้นำนาซีเยอรมันนี
หมายเลข 13 มักจะเชื่อว่าเป็นเลขโชคร้ายในซีกโลกตะวันตก
แต่หลายประเทศในตะวันออกของเอเซียกลับกลัวหมายเลข 4
หมายเหตุ
คนจีน/คนจีนฮ่องกง ถ้าอ่านออกเสียงเลข 4 เป็น ซี่ หรือ ซี้ ที่แปลว่า ตาย
ถ้าจำไม่ผิด ญี่ปุ่น ไม่ชอบหมายเลข 9 การลดราคาแบบ 99.99 จึงไม่เป็นที่นิยม
7. Chemophobia (โรคกลัวคีโม/สารเคมี)
ชื่อนี้ก็บอกเล่าเรื่องราวได้มากมายเกี่ยวกับการกลัวสารเคมี
Chemophobics ผู้คนมักจะคิดว่าเป็นสารเคมีที่คนสร้างขึ้นมา
มีอันตรายร้ายแรงกว่าของสารเคมีที่ทำมาจากของธรรมชาติ
บางครั้งถึงกับเลยเถิดไปว่า น้ำ ยังปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี
ทั้งที่สารเคมีประจำวันที่บริโภคในแต่ละวัน
(เช่น เกลือ น้ำตาล น้ำปลา เครื่องปรุงรส ฯลฯ)
ถ้าตรวจสอบอย่างจริงจังแล้วกลับดูเหมือนว่า
สินค้าที่ผลิตออกมาบางประเภทมีอันตรายมากกว่า
โรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสารเคมีที่อันตราย
ที่มีระบบการตรวจสอบและควบคุมเป็นอย่างดี
6. Ephebiphobia โรคกลัวของวัยรุ่น
ถ้าคุณยังเป็นหนุ่มเป็นสาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัยรุ่น
คุณมักจะเป็นโรค Ephebiphobics
หรือที่เรียกกันว่า กลัวอับอายขายหน้าหรือกลัวถูกรังเกียจ
โรคนี้มักจะเป็นกันอย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น
เพราะการอยู่ร่วมกันในสังคมของหนุ่มสาวในวัยรุ่น
และจิตวิทยาสังคม เรียกว่า โรคกลัวของวัยรุ่น
โรคนี้มักเริ่มต้นมาจากทัศนคติในหมู่วัยรุ่น
ที่มักจะหมกมุ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องไร้ศีลธรรม
หรือเรื่องการทำผิดทำนองคลองธรรม/ผิดแปลกจากเพื่อน ๆ
5. Scopophobia (โรคกลัวการถูกมอง)
Scopophobics เป็นโรคกลัวการถูกมอง
คนกลัวโรคนี้มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนมากมาย เช่น
ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด หรือสถานที่มีผู้คนแออัดจำนวนมาก
ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมักจะมีปัญหายุ่งยาก เช่น
ขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้ใบหญ้าในสวนที่บ้าน
ถ้ามีใครบางคนมามองดูหรือจ้องมองแล้ว
คนเป็นโรคกลัวชนิดนี้มักจะมีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที
และรู้สึกไม่สบายใจ มักจะหนีออกจากที่แห่งนั้น
ไปให้ไกลที่สุดหรือไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
4. Coulrophobia (โรคกลัวตัวตลก)
โรคกลัวตัวตลก มักจะพบในเด็ก ๆ วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่
แต่ส่วนมากมักจะเป็นเด็ก ๆ ที่หวาดกลัวตัวตลก
เพราะมองเห็นภาพที่น่ากลัวของตัวตลกมากกว่าวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่
ขณะที่ผู้ใหญ่มักจะพอรู้ตัวว่า ความกลัวดังกล่าวไม่ค่อยมีเหตุผลนัก
แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องยากเช่นกันที่จะขจัดโรคกลัวแบบนี้ออกไปได้
เว้นแต่ได้รับการรักษาอย่างจริงจังในเรื่องนี้
3. Nomophobia โรคติดโทรศัพท์มือถือ
ความกลัวจากความคิดเห็นที่หลากหลายก็เป็นโรคอย่างหนึ่ง
แต่ความกลัวจากการไม่สามารถติดต่อกับผู้คนทางโทรศัพท์มือถือได้
เป็นโรคกลัวที่ยอดนิยมในตอนนี้
ลองตรวจสอบตนเองว่าเป็นโรคกลัวประเภทนี้หรือไม่
ลองหยุดใช้งานหรือปิดโทรศัพท์มือถือสักหนึ่งวัน
แล้วลองสังเกตอาการตนเองว่าวิตกกังวลหรือเครียดหรือไม่
โรคความกลัวประเภทนี้ได้แพร่หลายไปรอบโลกแล้ว
เพราะวัฒนธรรมการติดต่อสื่อสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์/โทรศัพท์มือถือ
มันจึงกลายเป็นเรื่องยากหรือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ที่คนเราจะขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือที่ทำงาน
2. Ergasiophobia โรคกลัวงาน
โรคนี้กลัวการทำงานหรือโรคกลัวงาน
โรคนี้สามารถทำให้คนจำนวนมากกลายเป็นคนไร้ประสิทธิภาพ
หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนในบางกรณี/บางครั้ง
เพราะมีหลายกรณีที่เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย
ความกลัวประเภทนี้ผสมผสานกับความกลัวหลายอย่าง
เช่น กลัวความล้มเหลวที่จะทำงานเสร็จทันเส้นตาย(วันสุดท้ายที่กำหนด)
กลัวการคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงาน
1. Papaphobia โรคกลัวพระสันตปาปา
โรคกลัวนี้ไม่ใช่การกลัวพ่อของตนเอง
แต่เป็นการกลัวพระสันตปาปา
ขณะที่ผู้คนนับล้านคนต่างกำลังขอพรจากท่าน
แต่มีบางคนหวาดกลัวมากที่จะพบเห็นท่าน
คนเหล่านี้มักจะมีอาการที่แปลกประหลาด
มีอัตราการเต้นของหัวใจเแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
และมีอาการหายใจถี่ ๆ เหนื่อยหอบอย่างมาก
เพราะสาเหตุมาจากความเกลียดชังที่ฝังลึกอยู่ในใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความกลัวที่ผสมผสานกัน
ความกลัวโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
หมายเหตุ
โรคนี้อาจจะสั่งสมมาจากความเกลียดชังในอดีต
ระหว่างผู้คนที่นับถือศาสนาต่างกัน
ที่มีการถ่ายทอดสู่ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นหรือสู่กลุ่มเดียวกัน
ตั้งแต่ยุคไล่ล่าแม่มดพ่อมด หมอผี หรือสงครามระหว่างศาสนา
ระหว่างนิกายโรมันคาทอลิคกับนิกายโปรเตสแตนท์ หรือคริสต์กับอิสลาม
ที่มีการลงโทษจำเลยกันอย่างรุนแรง มีทั้งการฆ่า แขวนคอ เผาทั้งเป็น
แล้วยึดทรัพย์สมบัติของจำเลยเป็นของโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิค
โดยมีพระสันตปาปาเป็นผู้นำสูงสุดของนิกายโรมันคาทอลิค
ที่มาของภาพ http://www.statisticbrain.com/fear-phobia-statistics/
เพิ่มเติม กระทู้ที่น่าสนใจและเกี่ยวเนื่องของ ธีรนัยน์
มารู้จัก 10 โฟเบียประหลาดๆชวนน่าหัวร่อ แต่คนที่ต้องเผชิญกลับหัวเราะไม่ออก
http://ppantip.com/topic/30940033
เรียบเรียงจาก
http://realitypod.com/2010/08/top-10-oddest-phobias/
http://www.statisticbrain.com/fear-phobia-statistics/
http://translate.google.com/
http://bing.com/translator/
http://dict.longdo.com/
ผิดพลาดขออภัย โปรดชี้แนะ
จะรีบกลับมาแก้ไขโดยพลัน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ