เอามาจากกระทู้เก่าห้องหว้ากอ
+++ เกาะโลซิน (Losin Island) ...... เกาะที่เล็กสุดในประเทศไทย มูลค่ายิ่งกว่าโคตรเพชร +++
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2012/11/X12905416/X12905416.html
ขอนำมาตั้งเพื่อสอบถามข้อมูลที่ยังสงสัยอยู่ครับ
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กองหินกลางทะเลเวิ้งว้างในอ่าวไทย โผล่พ้นน้ำขึ้นมาไม่เกิน 100 ตารางเมตร สภาพส่วนใหญ่เป็นหินล้วน ๆ ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า ห่างจาก ชายฝั่งอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทาง 106 กิโลเมตร นี้แหละคือเกาะที่สร้างมูลค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ให้แก่ประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนอกจากชาวประมงและนักดำน้ำเพราะปะการังที่นี่สวยมาก
ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของเกาะนี้กลับเป็นตำนานของโครงการมูลค่ามหาศาลหลายแสนล้าน หรืออาจเรียกได้ว่า เกาะโลซินเป็นเกาะที่มีมูลค่าเท่ากับโคตรเพชรเลยก็ได้
เพราะหากไม่มีเกาะโลซิน วันนี้เราก็คงไม่มีสิทธิบนพื้นที่สัมปทานก๊าซกลางอ่าวไทย พื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 7,000 ตารางกิโลเมตร และมีแหล่งสำรองก๊าซให้ประเทศถึง 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือเท่ากับ 50% ของแหล่งก๊าซที่มีอยู่ของไทยทั้งหมด
ใช่แล้ว..เกาะโลซินมีความเกี่ยวพัน กับโครงการขุดเจาะก๊าซกลางอ่าวไทยที่เรียกว่า พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียอย่างแนบแน่น
แสดงที่ตั้งของเกาะโลซิน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งมากเลยทีเดียว .....
ตรงนี้คือคำถามของผมนะครับ
จากที่ผมลองหาดูใน Google Map ก็พบว่าตำแแหน่งของเกาะโลซินตามรูป ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับรูปที่อยู่ใน spoil
ซึ่งผมลองเอามาเปรียบเทียบกับพื้นที่ JDA คร่าวๆ แล้วลงตำปหน่งของเกาะโลซินลงไปตามรูป
เดิมทีผมคิดว่าจุด A ในพื้นที่ JDA นั่นคือเกาะโลซิน ปรากฏว่าผมเข้าใจผิด ซึ่งจากที่เห็นในรูปนั้น
ผมดูยังไงก็ไม่เข้าใจว่าการอ้างสิทธิบนเกาะโลซินทำให้เราสามารถอ้างขอบเขตทางทะเลตามเส้นสีแดงได้อย่างไรกัน? (คำถามที่1) เพราะถ้าเราอิงตามเส้นสีเขียวที่มาเลเซียอ้างสิทธิก็จะเห็นได้ว่าเกาะโลซินก็อยู่บนน่านน้ำของเราอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้เราอ้างสิทธิตามเส้นสีแดงได้เลยนี่นา
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไทยและมาเลเซียได้เจรจาเรื่องเส้นเขตแดนในทะเลอาณาเขต ในปี 2515 สามารถทำความตกลงกันได้ ตั้งแต่กึ่งกลาง ปากแม่น้ำโกลกออกไปในทะเล 36 ไมล์ทะเลเท่านั้น เพราะเพราะหากยึดตามข้อตกลงสากลแบ่งพื้นที่กลางทะเล ด้วยวิธีลากเส้นตั้งฉากจากแนวโค้งของแผ่นดินแต่ละฝ่ายขึ้นไป โดยลักษณะแผ่นดินของมาเลเซียที่งุ้มเข้ามาในอ่าวไทย ขณะที่แผ่นดินของไทยกลับเทลาดออกไป หากลากเส้นตามหลักดังกล่าว เส้นนั้นจะทำมุมออกไปในอ่าวไทยแนวตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ไทยเสียเปรียบในการเจรจาอย่างมาก การเจรจาจึงหยุดไปหลายปี
ตรงนี้คือคำถามของผมนะครับ
ผมลองลากเส้นแบ่งเขตแดนดูก็พบความน่าจะเป็นสามเส้นด้วยกันตามรูป
ซึ่งผมพบว่าเส้นตรงกลางที่ลากจากกึ่งกลางของปากแม่น้ำออกไปตรงกับความเป็นจริงที่สุด
อันนี้ผมถูกหรือผิดประการใดครับ? (คำถามที่2)
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีการเจรจากันต่ออีกครั้งเมื่อปี 2521 เพื่อจะต่อเส้นเขตแดนในเขตไหล่ทวีปออกไปให้บรรจบกับเส้น claim ของเวียดนามที่กลางอ่าวไทยตอนล่าง การเจรจาครั้งนี้บรรยากาศไม่ราบรื่นเหมือนการเจรจาครั้งแรก เพราะประเทศไทยได้นึกถึง โลซิน หินโสโครกร้างกลางทะเล กระโจมไฟกลายเป็นหลักฐานที่สำคัญ ในการอ้างสิทธิ์ของไทย ต่อกองหินร้างนี้ แต่กองหินนั้นไม่ใช่ เกาะ ประเทศไทยจึงไม่อาจอ้างสิทธิ์พื้นที่ทางทะเลได้
แต่โชคเป็นของฝ่ายไทยอีกครั้ง ที่เรายังคงใช้กฎหมายทะเลดั้งเดิม 4 ฉบับ ตามอนุสัญญากรุงเจนีวา ค.ศ.1958 ซึ่งประเทศไทยลงนามและให้สัตยาบันเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ซึ่งกำหนดไว้เพียงว่า แม้เป็นหินกองหินที่โผล่พ้นน้ำ ก็สามารถนิยามว่าเป็นเกาะได้ เมื่อได้ชื่อว่าเป็นเกาะ ก็ย่อมมีไหล่ทวีปเป็นของตัวเอง มีผลไปถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะ การกำหนดอาณาเขต ผลประโยชน์และอำนาจอธิปไตยทางทะเล
มาเลเซียไม่ต้องการเจรจาโดยใช้เส้นเขตแนวนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะการอ้างอธิปไตยเหนือเกาะโลซิน ทำให้เส้นเขตแนวเกิดเป็นสองแนว แนวที่ลากเป็นเส้นตั้งฉากจากฝั่งออกไปในทะเล (เส้นสีเขียว) ประเทศไทยเสียเปรียบ ส่วนแนวที่ลากโดยยึดถือ เส้นแนวเกาะโลซิน (เส้นสีแดง) ประเทศมาเลเซีย เสียเปรียบ ทำให้เกิดเป็นพื้นทีทับซ้อนทางทะเล เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีอาณาเขตถึง 7250 ตารางกิโลเมตร
การเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ดูเหมือนจะมาถึงทางตัน บรรยากาศทางการเมืองก็ตึงเครียดขึ้น จากปัญหาเรือประมงไทยเข้าไปจับปลาในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนนี้แล้ว ถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียจับไปดำเนินคดี ขณะนั้นนายกรัฐมนตรีของไทยคือ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ และนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย คือ ดาโต๊ะ ฮูสเซน ออน ทั้งสองท่านมีความสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว จึงได้ตกลงใจที่จะคลี่คลายปัญหานี้ โดยกำหนดให้มีการ เจรจา ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2522
ผลของการเจรจา คือ ความตกลงจัดตั้งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว ความตกลงนี้เรียกกัน ว่า MOU เชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่า JDA ซึ่งต้องแบ่งปันผลประโยชน์คนละครึ่งหนึ่งกับมาเลเซีย นั่นเอง
ภายหลังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงมีการสำรวจ พบว่ามีแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลในพื้นที่ ถึง 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือเท่ากับ 50% ของแหล่งก๊าซที่มีอยู่ของไทยทั้งหมดโดย 75 เปอร์เซ็นต์อยู่ในพื้นที่ด้านล่างสามเหลี่ยม ในซีกพื้นที่ของมาเลเซีย
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
หากไม่มี "โลซิน" ไทยย่อมไม่อาจอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อน ขนาด 7250 ตารางกิโลเมตร
หากไม่มี "โลซิน" ไทยก็จะไม่มีสิทธิ์ในแหล่งก๊าซมูลค่ามหาศาลกลางอ่าวไทย
หากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีเส้นเขตแดนที่มีอธิปไตยทางทะเลด้านใต้อ่าวไทยลงไปถึงตรงจุดนี้
และหากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีแหล่งดำน้ำที่สวยงามกลางอ่าวไทย เช่นวันนี้..
สุดท้ายขอขอบคุณข้อมูลจาก www.t-pageant.com ,วิกิพีเดีย : สารานุกรมเสรี และภาพจาก Google ครับ .........
เกาะโลซิน (Losin Island) และข้อสงสัย รบกวนผู้รู้ด้วยครับ
+++ เกาะโลซิน (Losin Island) ...... เกาะที่เล็กสุดในประเทศไทย มูลค่ายิ่งกว่าโคตรเพชร +++
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2012/11/X12905416/X12905416.html
ขอนำมาตั้งเพื่อสอบถามข้อมูลที่ยังสงสัยอยู่ครับ
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงนี้คือคำถามของผมนะครับ
จากที่ผมลองหาดูใน Google Map ก็พบว่าตำแแหน่งของเกาะโลซินตามรูป ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับรูปที่อยู่ใน spoil
ซึ่งผมลองเอามาเปรียบเทียบกับพื้นที่ JDA คร่าวๆ แล้วลงตำปหน่งของเกาะโลซินลงไปตามรูป
เดิมทีผมคิดว่าจุด A ในพื้นที่ JDA นั่นคือเกาะโลซิน ปรากฏว่าผมเข้าใจผิด ซึ่งจากที่เห็นในรูปนั้นผมดูยังไงก็ไม่เข้าใจว่าการอ้างสิทธิบนเกาะโลซินทำให้เราสามารถอ้างขอบเขตทางทะเลตามเส้นสีแดงได้อย่างไรกัน? (คำถามที่1) เพราะถ้าเราอิงตามเส้นสีเขียวที่มาเลเซียอ้างสิทธิก็จะเห็นได้ว่าเกาะโลซินก็อยู่บนน่านน้ำของเราอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้เราอ้างสิทธิตามเส้นสีแดงได้เลยนี่นา
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงนี้คือคำถามของผมนะครับ
ผมลองลากเส้นแบ่งเขตแดนดูก็พบความน่าจะเป็นสามเส้นด้วยกันตามรูป
ซึ่งผมพบว่าเส้นตรงกลางที่ลากจากกึ่งกลางของปากแม่น้ำออกไปตรงกับความเป็นจริงที่สุด อันนี้ผมถูกหรือผิดประการใดครับ? (คำถามที่2)
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื้อหาจากกระทู้เดิม
หากไม่มี "โลซิน" ไทยย่อมไม่อาจอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อน ขนาด 7250 ตารางกิโลเมตร
หากไม่มี "โลซิน" ไทยก็จะไม่มีสิทธิ์ในแหล่งก๊าซมูลค่ามหาศาลกลางอ่าวไทย
หากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีเส้นเขตแดนที่มีอธิปไตยทางทะเลด้านใต้อ่าวไทยลงไปถึงตรงจุดนี้
และหากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีแหล่งดำน้ำที่สวยงามกลางอ่าวไทย เช่นวันนี้..
สุดท้ายขอขอบคุณข้อมูลจาก www.t-pageant.com ,วิกิพีเดีย : สารานุกรมเสรี และภาพจาก Google ครับ .........