กลไกจิตวิทยาเพื่อการไม่ยอมรับความจริง

เบื้องลึกชนชั้นกลางเป็นปัจเจกบุคคลสมบูรณ์ที่หวาดกลัวการประณามหยามเหยียด เพราะรู้แก่ใจว่าตนกำลังเพิกเฉยต่อมนุษยธรรมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง กลไกทางจิตวิทยา(Defense Mechanism) ช่วยถ่ายโอนความรู้สึกผิดนี้ออกไปเพราะยอมรับไม่ได้กับความจริงที่ว่าตนเองเกี่ยวข้องกับขบวนการที่ก่อให้เกิดความรุนแรงไม่มากก็น้อย กลไกทางจิตวิทยาไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน แต่กลไกทางจิตวิทยาบางประเภทสะท้อนรูปรอยของความไม่มีวุฒิภาวะในตน (Immature Defenses) และมักจะเกิดควบคู่กับตรรกะวิบัติ (Fallacy Logic) ดังตัวอย่างต่อไปนี้

การโทษคนอื่น (Projection) นั่นคือ การโยนความรู้สึกที่ตนเองรับไม่ได้ให้กับผู้อื่น เช่น ฉันไม่มีส่วนในความรุนแรงเชิงนามธรรมทุกกรณี นักการเมืองต่างหากที่เป็นต้นคิด, ฉันมาเคลื่อนไหวไม่ได้ต้องการให้ใครตาย แต่อีกฝ่ายต่างหากล่ะที่ต้องการให้คนตาย เพราะลึกๆแล้วปัจเจกบุคคลรู้สึกไม่มากก็น้อยว่าตนมีส่วนกับเหตุการณ์นี้ เป็นต้น เคยชื่นชอบและแสดงอาการสนับสนุนสิ่งที่นำไปสู่การก่อเหตุรุนแรง ตรรกะวิบัติที่พบคู่กันกับกลไกทางจิตวิทยานี้ คือ การโจมตีตัวบุคคล(ad Hominem) นั่นคือความพยายามจะหาที่ไปให้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ยิ่งใส่ร้ายบุคคลอื่นซ้ำๆด้วยผรุสวาท (Hate Speech) มากเท่าไร ยิ่งสบายใจเพราะเป็นหลักประกันว่าคนฟังจะเชื่อว่าความผิดอยู่ที่คนอื่นไม่ใช่ตน

การหาเหตุผลเข้าข้างตน (Rationalization) นั่นคือ ความพยายามในการหาคำอธิบายให้กับความรู้สึกที่ตนเองรับไม่ได้หรือไม่อาจยอมรับ ซึ่งเหตุผลที่กลุ่มไม่มีวุฒิภาวะในตน ใช้จะเป็นเหตุผลวิบัติ เช่น ไม่แน่ใจว่าพรรคพวกของตนมีส่วนในความรุนแรงหรือไม่เพื่อทำให้ตนเองสบายใจจึงสรุปว่าไม่มี (ad Ignoratiam) และใช้กลไกทางจิตวิทยาแบบปฏิเสธ (Denial) เมื่อมีคนมาบอกให้รู้ความจริงที่ประกอบด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ ถึงลึกๆ แล้วจะตรงกับที่ตนเองสงสัย แต่เลือกที่จะปฏิเสธความจริงเพราะไม่ยอมรับว่าพรรคพวกของตนเป็นเช่นนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่