ม็อคค่าปาท่องโก๋ : ผีไทยลงโอ่ง ไปโผล่สิงคโปร์ (ตอนที่สอง) {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH}

สวัสดีครับ

      ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ

เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1121


***** อ่านตอนแรกได้ที่นี่ครับ http://ppantip.com/topic/31390722 *****

Mr. Coffee : การสร้างบ้านผีในครั้งนี้ เป็นลักษณะการร่วมทุนหรือไม่ครับ

โอ๋ : จริงๆ เป็นทุนของเขาทั้งหมดครับ เขามาจ้างเราไปทำครับ เหมือนซื้อ Content เราไป โดยที่เริ่มแรกทางนั้นอยากให้เราไป Design ให้เฉยๆ แต่ตอนหลังก็ลามมาถึงให้เราไปทำให้เขาเลย ทำเสร็จแล้วส่งไปทางเรือ ปรากฏว่ารวมส่งไปทั้งหมดถึง 4 ตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่

กอล์ฟ : เพราะเขาบอกว่าเงิน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ จ้างคนสิงคโปร์ได้งานแค่นี้ (ทำมือกว้างประมาณ 1 คืบ) แต่พอเอาเงิน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ มาจ้างคนไทยทำได้ชิ้นขนาดนี้  (ทำมือกว้างประมาณ 1 ศอก) และงานดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนที่เข้าใจในเนื้องานโดยตรง แต่ยังไงก็ยังต้องมีการคุยกันว่าการผลิตงานจะเป็นอย่างไร เพราะในความเป็นจริง เราทำทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยโครงสร้างหลักยังไงก็ต้องให้ทางสิงคโปร์ทำ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ดั่งใจเรา 100% แต่ก็ต้องยอม เพราะระยะทางไกล แต่ถ้าเป็นพวก Special Effect ทำโดยพี่ติ่มซำ (พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม)

Mr. Coffee : กลไกของ Special Effect ในบ้านผีสิง มีความเหมือนหรือแตกต่างกับการทำ Special Effect ในหนังอย่างไรบ้างครับ

โอ๋ : ต้องปรับเยอะครับ เพราะกลไกของบ้านผี จะเหมือนมาทางงานโชว์มากกว่า เพราะว่าอย่างในหนัง 100 ครั้งเหมือนกันทุก 100 ครั้ง แต่ในบ้านผี เราต้องคิดว่า คนเข้าไป 6 คน จะได้รับประสบการณ์เท่ากันหรือเปล่า Mechanics ผี ควรจะออกมายังไง จะหลอกผีกี่ครั้ง มันควรจะหลบเข้าไปตอนไหน หรือแสงจะต้องเป็นอย่างไร เพราะคนดูจะเห็นด้วยตาจริงและสัมผัสกับมันจริงๆ เป็นอีกศาสตร์หนึ่งเลย

กอล์ฟ : อีกอย่างหนึ่งซึ่งเรา Concern ก็คือ งานบ้านผีแบบนี้เป็นงาน Man Power ครับ คือทุกอย่างควบคุมด้วยคน เราไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปใช้เลเซอร์ยิง พอมีคนเดินผ่าน กลไกก็ทำงาน ของเราใช้คนครับซึ่งไม่มีความแน่นอน ต้องอาศัยการกะเอา ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหา ผีออกถูกจังหวะไหม ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่จะออกมาถูกต้องเป๊ะได้ทุกครั้ง

โอ๋ : ต้องมีคนอยู่หลังกำแพง เจาะรู พอมีคนเดินผ่านก็เขย่า

Mr. Coffee : นึกถึงบ้านผีใน พี่มาก...พระโขนง

กอล์ฟ : (หัวเราะ) อย่างนั้นเลยครับ ใช้คนแบบนั้นเลย พอคนบังคับกลไกจะไปห้องน้ำ ก็เดินออกไปเลย พอเราเดินเข้าไป อ้าว ผีหายไปไหน ผีบางคน กลัวครับ คือแต่งเป็นผีอยู่ กลัวตัวเอง หนีกลับบ้านเลย และทาง Sentosa ก็จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่สิงคโปร์ คณะที่เรียนจัด Event เขาจะเอาเด็กพวกนี้มาเป็น Staff จะไม่ใช่คนมืออาชีพมาทำ ซึ่งแน่นอนว่า ความรับผิดชอบไม่เท่าผู้ใหญ่ Spirit ไม่เท่า ความอดทนไม่เท่า เราก็ต้องเข้าใจในจุดนี้

โอ๋ : ต้องโค้ชทีละคน ว่า Character เป็นอย่างนี้ คุณต้องทำแบบนี้

กอล์ฟ : ผมต้องไปเดินให้ดูครับ ผีผู้หญิงผมก็ต้องเดินแบบกรีดกรายเป็นผีผู้หญิงให้ดูครับ ต้องใส่เต็มที่ครับ เข้าใจเด็กๆ ครับว่าไม่กล้า อาย แต่พอเริ่ม Build เขาก็เริ่มเข้าใจดีขึ้น และผมว่าพอถึงวันงานจริง เห็น Re-act ของคนที่กลัว ก็จะเริ่มสนุก ทุกย่างใหม่กับเรามาครับ เราไม่รู้เลยว่าสิ่งเราทำผิดหรือถูก มั่วมากครับ ผมกับโอ๋ใช้ Sense ของคนที่เคยไปเที่ยวสวนสนุกมาใช้

Mr. Coffee : บ้านผี Sentosa แตกต่าง Halloween ของ Universal แค่ไหนครับ

โอ๋ : ต่างกันที่เงินล้วนๆ เลยครับ เพราะทาง Universal ใช้เงินในการ Run ต่อคืนประมาณ 1 ล้านเหรียญสิงคโปร์ในการ Run บ้าน 3 หลัง แต่ของเรานี่ทั้งงานใช้ประมาณ 1 ล้านเหรียญสิงคโปร์ แต่ที่ Universal ทำแบบนี้ได้เพราะเขามีทีมงานเฉพาะกิจจากอเมริกามาทำให้ คือ Universal เขาจะสร้างทุกอย่างจากความว่างเปล่าเลยครับ แต่ของเราคือการไป Renovate สิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้มันกลายเป็นบ้านผี

กอล์ฟ : คือข้อจำกัดของทางเราเยอะกว่าของเขามาก และ 1 คืนของเขาขายบัตรเป็น 10,000 ใบ ของเราแค่ 2,000 ใบ แต่ของเราสนุกกว่านะผมว่า (ยิ้ม)

โอ๋ : ของเราขาย Content ที่เป็นเอเชียด้วยครับ เข้าถึงง่ายกว่า เช่น ไม่มีแดรกคูลาอะไรพวกนี้

Mr. Coffee : แล้วเปรตนี่ไปอยู่ตรงไหนครับ

กอล์ฟ : อยู่ตรงส่วน Playground ที่รวมความเป็นไทยไว้ทั้งหมด ใกล้กับบ้านพี่มากฯ ครับ พอเดินผ่านอุโมงค์ที่ถูกพรมน้ำมนต์แล้ว ก็จะเจอประตูนรก ผ่านไปก็จะเจอโซนไทยครับ มีศาลพระภูมิพังๆ

โอ๋ : คือถ้า Universal เป็นมวยก็ระดับแชมป์โลก ส่วนเรามวยคาดเชือก (หัวเราะ) แต่ก็วิ่งสู้ฟัดเต็มที่ครับ

Mr. Coffee : มีโอกาสไหมครับว่าทาง GTH จะได้ทำบ้านผีแบบนี้โดยร่วมกับสวนสนุกในประเทศไทยสักที่หนึ่ง

กอล์ฟ : จริงๆ ถ้าถามว่าผม 2 คนอยากทำหรือไม่ อยากทำมากครับ เพราะว่าการที่ได้เห็นหนังของเรากลายไปเป็นเครื่องเล่น ก็เหมือนกับการที่เราไป Universal Studio แล้วเห็นหนัง Jurassic Park หนัง Transformer กลายเป็นเครื่องเล่น พวกผมก็อยากให้หนังของพวกเรากลายเป็นบ้านผี อยากให้ฉากและ Scene ที่เขาเคยเห็นในหนัง กลายเป็นของจริง ผมว่ามันน่าสนุกมากครับ

โอ๋ : และผมเชื่อครับว่าหลังจากเราผ่านงานนี้มาแล้ว พวกผมมั่นใจแล้วครับ รู้แล้วว่า Trick มันคืออะไร จะทำอย่างไรให้คนสนุก

Mr. Coffee : มีความเป็นได้ไหมครับที่ทาง GTH จะมีโอกาสได้ไปสร้างบ้านผีถาวรร่วมกับสวนสนุกในประเทศอื่นๆ อีก

กอล์ฟ : คงจะถาวรยาก เพราะเอาเข้าจริง อย่าง Universal Studio ที่สร้างบ้านผีในช่วง Halloween ก็เหมือนจะทำแบบถาวร แต่จริงๆ เขาเปิดให้เล่นแค่ 7 วัน แล้วรื้อทิ้ง คือเหมือนว่าต้องขึ้นกับ Concept ใหญ่ๆของตัวงานด้วยครับ อย่างที่ Sentosa เขาจะมีปฏิทินทั้งปีครับ ว่าแต่ละเดือนจะมีอะไร

โอ๋ : โดยส่วนตัวที่ผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวสวนสนุกมาหลายแห่งทั่วโลก ไม่ค่อยมีบ้านผีสิง สงสัยว่าทำไม ผมคิดเองว่า บ้านผีสิงถ้าเราผ่านไป 1 ครั้งแล้ว เราจะรู้ว่าข้างในมีอะไร มนต์ขลังจะหายไป ดูเหมือนว่ามันควรจะเป็น Event ชั่วคราวมากกว่าจะเป็นแบบถาวร

กอล์ฟ : แล้วมันก็จะทำให้คนตื่นเต้นกับการที่จะได้มาทุกปีด้วยครับ เพราะมีการเปลี่ยน Concept ไปเรื่อยๆ ความสดใหม่ของบ้านผี เหมือนเราดูหนังผีล่ะครับ ดูซ้ำเราก็จะไม่ค่อยตกใจซ้ำ ไม่เหมือนหนังรักที่ตรงไหนซึ้ง ดูอีกก็ยังซึ้งอีกได้

Mr. Coffee : แสดงว่าในปีหน้าก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ทาง Sentosa จะมาขอให้ทาง GTH ไปร่วมงานอีก

กอล์ฟ : ยังไม่ได้มีการตกลงกันครับ คือปีนี้เหมือนเป็นการทดลอง แต่เวลาได้คุยกันเล่นๆ ทางนั้นก็จะถามแซวๆ ตลอดว่า แล้วปีหน้าจะทำอะไร ทางเราก็บอกอย่าเพิ่ง คือตอนสรุปงาน เราได้พบข้อจำกัดและเงื่อนไขหลายอย่าง คือถ้าจะทำในปีต่อไป ก็ต้องมีการคุยกันในเรื่องนี้มากขึ้น

Mr. Coffee : ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มทำ ทั้งหมดตั้งแต่วางแผนจนพร้อมเล่น ใช้เวลานานแค่ไหนครับ และเทียบกับการทำหนัง 1เรื่อง ได้หรือไม่ อย่างไร

โอ๋ : ใช้เวลาประมาณ 10 เดือนครับ แต่เล่นแค่ประมาณ 10 วัน (หัวเราะ)

กอล์ฟ : ถือว่าเราโชคดีนะครับ เพราะเรามีของที่ผู้กำกับคนอื่นทำไว้ให้แล้ว มีเนื้อหาอยู่แล้ว เราแค่ขโมยของเขามาทำ

โอ๋ : ที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นงานสักเท่าไหร่ครับ รู้สึกว่ามันสนุก เพราะอยู่กับสิ่งที่เราชอบ

กอล์ฟ : ที่จริงกว่าจะ Production ก็ผ่านไปครึ่งปีแล้วครับ เพราะว่าจะมีเรื่องเงื่อนไข สัญญา ซึ่งถ้าปีต่อไป เรื่องเหล่านี้ข้ามไปได้เลย

โอ๋ : เหมือนไม่รู้เขารู้เรามากกว่าครับ ระบบวิธีการ คน เหล่านี้เป็นปัญหา

Mr. Coffee : งานตรงนี้ถ้าแต่ละคนมีหนังของตัวเองในเวลาเดียวกัน จะทำงานนี้ได้เต็มประสิทธิภาพหรือเปล่าครับ

โอ๋ : ผมว่าถ้ามีจริงๆ จะง่ายลงแล้วครับ เพราะเรารู้หมดแล้ว Location ก็อยู่ในหัวทั้งหมดแล้ว คิด Theme ให้สนุกเท่านั้นเอง

Mr. Coffee : เทคนิคจากการสร้างหนัง ช่วยให้สร้างบ้านผีได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ในทางกลับกัน บ้านผีช่วยในแง่การทำหนังหรือไม่

โอ๋ : หลายอย่างช่วยให้ทำง่ายขึ้นครับ เรื่องจังหวะ เรื่องแสง ตรงนี้ช่วยพอสมควร เหมือนการเปลี่ยนหนังผีให้เป็นของจริง แต่อีกครึ่งหนึ่งแล้วต้องไปเรียนรู้ใหม่ครับ เพราะมันเหมือนโชว์ ต้องศึกษาใหม่

กอล์ฟ : คือหลายอย่างต้องทดลองจากคนจริงๆ ครับ อย่างเช่น ตอนที่เราลองเสียง Effect เราคิดว่าแค่นี้พอ เพราะดังมากแล้ว แต่พอมีคนพันกว่าคนมาอยู่ในที่นั้น ทุกคนคุยกัน กลายเป็นว่าเสียงแค่นั้นกลับเบามาก

โอ๋ : หรือ Effect ง่ายๆ ที่เราไม่เคยรู้อย่างควัน แสง มันมีผลต่อคนที่เดินเข้าไปอย่างมาก การเปลี่ยนตำแหน่งไฟ ทำให้ควันเปลี่ยนทิศทาง บางฉากดูสวย บางเวลาดูน่ากลัว

Mr. Coffee : ในทางกลับกัน บ้านผีช่วยในแง่การทำหนังหรือไม่

โอ๋ : บ้านผีไม่ช่วยในเรื่องการทำหนังผีเลยครับ ผมมั่นใจ (หัวเราะ)

ฝากบทความก่อนๆด้วยนะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่