คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ม. 77/2 (2)
การให้บริการที่ทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร ให้ถือว่าการให้บริการนั้นเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร
ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.104/2544
http://www.rd.go.th/publish/3549.0.html
คุณจ้างทำของ ถึงจะไม่ได้เอางานนั้นมาใช้ในประเทศ แต่เอาไปผลิตสินค้าแล้วส่งกลับเข้ามาในประเทศ มันก็สมควรถือว่าเป็นการใช้บริการในประเทศล่ะครับ
เขาต้องตีความแบบป้องกันการเลี่ยงภาษี ถ้าไม่งั้นคุณทำได้คนอื่นก็ทำมั่ง
ยกตัวอย่าง ผมจะสั่งซื้อสินค้าอย่างหนึ่งแต่มันราคาสูง เลยแอบตกลงให้คนขายส่งบิลมาเก็บสองส่วน
ส่วนแรกเป็นค่าแม่พิมพ์ ส่วนสองเป็นค่าสินค้าถูกลงหน่อย ถ้าตีความว่าค่าแม่พิมพ์ไม่ต้องเสีย vat ก็มีหวังหลบภาษีกันระนาว
การให้บริการที่ทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร ให้ถือว่าการให้บริการนั้นเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร
ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.104/2544
http://www.rd.go.th/publish/3549.0.html
คุณจ้างทำของ ถึงจะไม่ได้เอางานนั้นมาใช้ในประเทศ แต่เอาไปผลิตสินค้าแล้วส่งกลับเข้ามาในประเทศ มันก็สมควรถือว่าเป็นการใช้บริการในประเทศล่ะครับ
เขาต้องตีความแบบป้องกันการเลี่ยงภาษี ถ้าไม่งั้นคุณทำได้คนอื่นก็ทำมั่ง
ยกตัวอย่าง ผมจะสั่งซื้อสินค้าอย่างหนึ่งแต่มันราคาสูง เลยแอบตกลงให้คนขายส่งบิลมาเก็บสองส่วน
ส่วนแรกเป็นค่าแม่พิมพ์ ส่วนสองเป็นค่าสินค้าถูกลงหน่อย ถ้าตีความว่าค่าแม่พิมพ์ไม่ต้องเสีย vat ก็มีหวังหลบภาษีกันระนาว
แสดงความคิดเห็น
ภาษีมูลค่าเพิ่ม: กรณีซื้อแม่พิมพ์ต่างประเทศ ให้ vendor ผลิตชิ้นส่วนแล้วนำเข้ามาในไทย
คำถาม: ทำไมสรรพากรจึงเรียกเก็บ vat จากการซื้อขายแม่พิมพ์โดยอ้างว่าเพราะการซื้อขายแม่พิมพ์เพื่อมีวัตถุประสงค์เพื่อจะผลิตเป็นพาร์ทแล้วนำเข้ามาในประเทศอยู่แล้ว ผมสงสัยว่ากรณีอย่างนี้เป็นการตีความกฎหมายกว้างไปหรือไม่ครับ เนื่องจากประมวลรัษฎากรณ์เป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิของประชาชน (จัดเก็บภาษี) มันควรจะตีความอย่างแคบ ทำไมประเด็นนี้สรรพากรตีความกว้างขวางขนาดนี้ครับ ไม่ทราบว่าทำโดยอาศัยหลักกฎหมายข้อไหน หรือมีหนังสือตอบข้อหารือวางบรรทัดฐานไว้หรือไม่ครับ
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ