ทุกคนรู้จักกับคำว่า “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” กันไหมคะ? หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันแบบผ่าน ๆ มาบ้าง ภาษีถือเป็นเรื่องใกล้ตัวกับคนในวัยทำงานที่ควรศึกษาไว้ ถ้าพูดถึงภาษีทุกคนก็คงจะนึกถึงภาษีเงินได้บุคคลหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วคำว่า “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” คืออะไร ? วันนี้คุณน้าจะมาไขข้อสงสัยและพาไปทำความรู้จักกับภาษีธุรกิจเฉพาะ ติดตามกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บกับธุรกิจบางประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้จัดเก็บคือ กรมสรรพากร ไม่ว่าจะในรูปแบบของบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน และจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันเริ่มกิจการค่ะ
ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ?
ธุรกิจการธนาคาร
ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
ธุรกิจประกันชีวิต
ธุรกิจรับจำนำ
การประกอบธุรกิจเหมือนธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจ Factoring
** ยกเว้น ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการที่มียอดขายไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ ปี
ใครบ้างที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ?
บุคคลที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ผู้ประกอบกิจการที่ทำธุรกิจเฉพาะไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ
- บุคคลธรรมดา
- คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- กองมรดก
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ
- กองทุน
- หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน
- องค์การของรัฐบาลและสหกรณ์
ฐานภาษีและอัตราภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะ
ฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ รายรับก่อนหักรายจ่ายที่ผู้ประกอบกิจการได้รับ ซึ่งวิธีคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะทำได้โดยนำรายรับจากฐานภาษีของธุรกิจแต่ละประเภทคูณด้วยอัตราภาษีที่กำหนดไว้และคำนวณการเสียภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10% ของจำนวนภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ สามารถเช็กฐานภาษีและอัตราภาษีเพิ่มเติมได้ตามรูปด้านล่างนี้เลย
การชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) และชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป สามารถยื่นได้ 2 ช่องทางคือ แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรและยื่นแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ค่ะ
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
มีสูตรการคำนวณง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ = [ฐานภาษีตามธุรกิจ x อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ] x อัตราภาษีท้องถิ่น 10%
ยกตัวอย่างเช่น คุณ A ทำธุรกิจขายที่ดินพร้อมบ้านมีรายได้สุทธิ 4,500,000 บาท อัตราภาษีที่ต้องเสียคือ 3.0 ดังนั้นภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องจ่าย = 4,500,000 x 3.3 = 148,500 บาท
ขั้นตอนการขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
สำหรับบุคคลที่มีสิทธิ์ขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ บุคคลที่มีหน้าที่ชำระภาษีแต่มีการชำระไว้เกิน ผิด หรือซ้ำ และบุคคลที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีแต่ได้ชำระภาษี โดยมีขั้นตอนการขอคืนได้ ดังนี้ค่ะ
1. เขียนคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรแบบ ค.10
2. แนบเอกสารไปพร้อมคำร้อง ค.10 ได้แก่ หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีผู้ขอเป็นนิติบุคคล), ใบเสร็จรับเงินธุรกิจเฉพาะและหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับเรื่องที่ขอคืน
3. สามารถยื่นคำร้องขอคืนได้ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ
ขายบ้านต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ ?
การขายบ้านและที่ดินรวมหรือแม้แต่คอนโดถือว่าเป็นการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ จึงจัดอยู่ในหมวดกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายกำหนด ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 3.0% โดยมีเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีคือ
- ถือครองบ้านหรือคอนโดเกิน 5 ปี
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี
- บ้านหรือคอนโดที่ขายนั้นได้รับมาโดยมรดก
ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภทใด ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภททางอ้อม ที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนด
ภาษีธุรกิจเฉพาะแตกต่างจากภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะจะเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการที่ประกอบธุรกิจตามกำหนดไว้ในกฎหมายว่าต้องเสียภาษี ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเรียกเก็บจากผู้ขายสินค้าและบริการ ซึ่งภาษีทั้ง 2 อย่างนี้จะไม่นำมาคำนวณรวมกันและมีอัตราภาษีที่ต่างกันค่ะ
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตราภาษีอยู่ที่ 0.10 – 3.0%
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม อัตราภาษีอยู่ที่ 7.0%
สรุปเรื่องภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีที่เรียกเก็บกับผู้ประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ซึ่งภาษีธุรกิจเฉพาะจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเห็นได้ว่าเรื่องของภาษีธุรกิจเฉพาะครอบคลุมในหลายธุรกิจ แม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ก็ต้องชำระภาษีในส่วนนี้เพิ่มด้วย ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าภาษีมีหลายประเภท ดังนั้นเราควรศึกษาเรื่องของภาษีให้เข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชำระค่าปรับจากการไม่ชำระภาษี หรือชำระล่าช้าจากการไม่รู้จักภาษีธุรกิจเฉพาะนั่นเองค่ะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร ? เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้ไว้ ใครต้องจ่ายบ้าง ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บกับธุรกิจบางประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้จัดเก็บคือ กรมสรรพากร ไม่ว่าจะในรูปแบบของบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน และจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันเริ่มกิจการค่ะ
ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ?
ธุรกิจการธนาคาร
ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
ธุรกิจประกันชีวิต
ธุรกิจรับจำนำ
การประกอบธุรกิจเหมือนธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจ Factoring
** ยกเว้น ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการที่มียอดขายไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ ปี
ใครบ้างที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ?
บุคคลที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ผู้ประกอบกิจการที่ทำธุรกิจเฉพาะไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ
- บุคคลธรรมดา
- คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- กองมรดก
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ
- กองทุน
- หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน
- องค์การของรัฐบาลและสหกรณ์
ฐานภาษีและอัตราภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะ
ฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ รายรับก่อนหักรายจ่ายที่ผู้ประกอบกิจการได้รับ ซึ่งวิธีคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะทำได้โดยนำรายรับจากฐานภาษีของธุรกิจแต่ละประเภทคูณด้วยอัตราภาษีที่กำหนดไว้และคำนวณการเสียภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10% ของจำนวนภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ สามารถเช็กฐานภาษีและอัตราภาษีเพิ่มเติมได้ตามรูปด้านล่างนี้เลย
การชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) และชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป สามารถยื่นได้ 2 ช่องทางคือ แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรและยื่นแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ค่ะ
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
มีสูตรการคำนวณง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ = [ฐานภาษีตามธุรกิจ x อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ] x อัตราภาษีท้องถิ่น 10%
ยกตัวอย่างเช่น คุณ A ทำธุรกิจขายที่ดินพร้อมบ้านมีรายได้สุทธิ 4,500,000 บาท อัตราภาษีที่ต้องเสียคือ 3.0 ดังนั้นภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องจ่าย = 4,500,000 x 3.3 = 148,500 บาท
ขั้นตอนการขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
สำหรับบุคคลที่มีสิทธิ์ขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ บุคคลที่มีหน้าที่ชำระภาษีแต่มีการชำระไว้เกิน ผิด หรือซ้ำ และบุคคลที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีแต่ได้ชำระภาษี โดยมีขั้นตอนการขอคืนได้ ดังนี้ค่ะ
1. เขียนคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรแบบ ค.10
2. แนบเอกสารไปพร้อมคำร้อง ค.10 ได้แก่ หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีผู้ขอเป็นนิติบุคคล), ใบเสร็จรับเงินธุรกิจเฉพาะและหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับเรื่องที่ขอคืน
3. สามารถยื่นคำร้องขอคืนได้ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ
ขายบ้านต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ ?
การขายบ้านและที่ดินรวมหรือแม้แต่คอนโดถือว่าเป็นการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ จึงจัดอยู่ในหมวดกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายกำหนด ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 3.0% โดยมีเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีคือ
- ถือครองบ้านหรือคอนโดเกิน 5 ปี
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี
- บ้านหรือคอนโดที่ขายนั้นได้รับมาโดยมรดก
ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภทใด ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภททางอ้อม ที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนด
ภาษีธุรกิจเฉพาะแตกต่างจากภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะจะเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการที่ประกอบธุรกิจตามกำหนดไว้ในกฎหมายว่าต้องเสียภาษี ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเรียกเก็บจากผู้ขายสินค้าและบริการ ซึ่งภาษีทั้ง 2 อย่างนี้จะไม่นำมาคำนวณรวมกันและมีอัตราภาษีที่ต่างกันค่ะ
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตราภาษีอยู่ที่ 0.10 – 3.0%
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม อัตราภาษีอยู่ที่ 7.0%
สรุปเรื่องภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีที่เรียกเก็บกับผู้ประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ซึ่งภาษีธุรกิจเฉพาะจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเห็นได้ว่าเรื่องของภาษีธุรกิจเฉพาะครอบคลุมในหลายธุรกิจ แม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ก็ต้องชำระภาษีในส่วนนี้เพิ่มด้วย ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าภาษีมีหลายประเภท ดังนั้นเราควรศึกษาเรื่องของภาษีให้เข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชำระค่าปรับจากการไม่ชำระภาษี หรือชำระล่าช้าจากการไม่รู้จักภาษีธุรกิจเฉพาะนั่นเองค่ะ