วันนี้มีเรื่องเล่าเรื่องนึ่ง วันนี้ผมกับมาจากการทำงานอย่างเหนื่อย ก็ไม่รู้หรอก เด็กแถวบ้านผมสังเกตเห็นว่า ผมดูเศร้าๆ เหนื่อยๆ บทสนทนาก็ประมาณนี้
น้อง พี่เชาว์ครับ ทำไมวันนี้พี่เชาว์ดูหน้าตาเศร้าๆจัง
ผม พี่อาจจะเหนื่อยหน่อยละครับ
น้อง พี่เชาว์อย่าจับปลาสองมือสิครับ
ผม (ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจความหมายที่น้องเค้าพูด)
น้อง พี่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึ่งนะ พี่จะเรียนหนังสือหรือพี่จะทำงาน แต่ผมว่าพี่เชาว์เรียนหนังสือเถอะนะ
ผม เข้าใจนะ พี่ก็เหนื่อย แต่ถ้าพี่ไม่ทำ พี่จะเอาประสบการณ์ที่ไหนละ
น้อง ก็เห็นพี่เหนื่อยนี้นา ไปทุกวันเลย
ก็นะ ผมก็เหนื่อยจริงๆนั้นแหละ เป็นครูสอนพิเศษและเรียนมหาลัยด้วย ชีวิตของผมไม่มีวันที่ไม่ออกจากบ้านเลย 7 วัน ก็เรียนกับทำงานไปทุกวัน ทุกวัน เดินทางไปกลับวันละ 4 ชั่วโมง บางทีก็อยากบ่น อยากระบายบ้าง ทำงานเป็นครูติวเตอร์มันก็เครียดเหมือนกัน ความยากมันอยู่ที่ผมเป็นเด็กพิเศษเนี้ยแหละ เวลาสอนครั้งนึงใช้ความสามารถมากมาย ยิ่งเด็กดื้อ ไม่เชื่อฟังมันก็ยากด้วย บางทีใจจริงก็ไม่อยากทำนะ แต่ต่อไปมันต้องไปสอนเด็กๆจริงๆ และที่สำคัญอยากดูมีคุณค่าในสายตาครอบครัวบ้าง ที่เห็นเด็กออทิสติกแบบผมทำได้ หาเงินเองจากการทำงานกับคนอื่นได้ก็เท่านั้นเอง ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดี มีความในใจก็บอกคนที่ไว้ใจหมด แม้กระทั้งเด็กประถม มันทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้นนะ
เด็กๆที่ผมเจอมาแต่ละคน ผมก็ใช้ความจริงใจสอนเค้านะ ผมไม่สามารถหลอกเด็ก หรือโกหกกับความรู้สึกเด็กได้เลยจริงๆ อยากให้เป็นยังไงผมก็ทำ อยากให้เป็นอย่างนี้ อยากให้เป็นอย่างนั้น ผมแสดงความรู้สึกต่างๆ มากมาย อารมณ์เครียด โกรธ เกลียด เศร้า ผมเก็บไม่เป็นหรอก แต่บางครั้งเด็กๆ ก็เข้าใจในแบบที่เค้าเข้าใจ เด็กๆยังไม่รู้จักโลกกว้างกว่าที่เค้าเคยเจอเหมือนผม เด็กก็พูดในสิ่งที่เค้าอยากพูดเช่นกัน จริงๆผมอาจจะมีความรู้สึกเป็นเด็กประถมจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมเข้าใจเค้าและรักเด็กทุกคน เหมือนพี่น้องนะ
ผมอาจจะชอบบ่นในห้องชานเรือนบ่อยๆ เพราะบางครั้งการบ่น มันก็ทำให้เด็กพิเศษอย่างผมรู้สึกดีขึ้นเหมือนกัน และนี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้วด้วย ในปีหน้ายังต้องเจออะไรอีกหลายอย่างเลยละ
เรื่องเล่า เมื่อเด็กคนนึง มาบอกผมว่า พี่เชาว์อย่าจับปลาสองมือสิครับ
น้อง พี่เชาว์ครับ ทำไมวันนี้พี่เชาว์ดูหน้าตาเศร้าๆจัง
ผม พี่อาจจะเหนื่อยหน่อยละครับ
น้อง พี่เชาว์อย่าจับปลาสองมือสิครับ
ผม (ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจความหมายที่น้องเค้าพูด)
น้อง พี่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึ่งนะ พี่จะเรียนหนังสือหรือพี่จะทำงาน แต่ผมว่าพี่เชาว์เรียนหนังสือเถอะนะ
ผม เข้าใจนะ พี่ก็เหนื่อย แต่ถ้าพี่ไม่ทำ พี่จะเอาประสบการณ์ที่ไหนละ
น้อง ก็เห็นพี่เหนื่อยนี้นา ไปทุกวันเลย
ก็นะ ผมก็เหนื่อยจริงๆนั้นแหละ เป็นครูสอนพิเศษและเรียนมหาลัยด้วย ชีวิตของผมไม่มีวันที่ไม่ออกจากบ้านเลย 7 วัน ก็เรียนกับทำงานไปทุกวัน ทุกวัน เดินทางไปกลับวันละ 4 ชั่วโมง บางทีก็อยากบ่น อยากระบายบ้าง ทำงานเป็นครูติวเตอร์มันก็เครียดเหมือนกัน ความยากมันอยู่ที่ผมเป็นเด็กพิเศษเนี้ยแหละ เวลาสอนครั้งนึงใช้ความสามารถมากมาย ยิ่งเด็กดื้อ ไม่เชื่อฟังมันก็ยากด้วย บางทีใจจริงก็ไม่อยากทำนะ แต่ต่อไปมันต้องไปสอนเด็กๆจริงๆ และที่สำคัญอยากดูมีคุณค่าในสายตาครอบครัวบ้าง ที่เห็นเด็กออทิสติกแบบผมทำได้ หาเงินเองจากการทำงานกับคนอื่นได้ก็เท่านั้นเอง ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดี มีความในใจก็บอกคนที่ไว้ใจหมด แม้กระทั้งเด็กประถม มันทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้นนะ
เด็กๆที่ผมเจอมาแต่ละคน ผมก็ใช้ความจริงใจสอนเค้านะ ผมไม่สามารถหลอกเด็ก หรือโกหกกับความรู้สึกเด็กได้เลยจริงๆ อยากให้เป็นยังไงผมก็ทำ อยากให้เป็นอย่างนี้ อยากให้เป็นอย่างนั้น ผมแสดงความรู้สึกต่างๆ มากมาย อารมณ์เครียด โกรธ เกลียด เศร้า ผมเก็บไม่เป็นหรอก แต่บางครั้งเด็กๆ ก็เข้าใจในแบบที่เค้าเข้าใจ เด็กๆยังไม่รู้จักโลกกว้างกว่าที่เค้าเคยเจอเหมือนผม เด็กก็พูดในสิ่งที่เค้าอยากพูดเช่นกัน จริงๆผมอาจจะมีความรู้สึกเป็นเด็กประถมจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมเข้าใจเค้าและรักเด็กทุกคน เหมือนพี่น้องนะ
ผมอาจจะชอบบ่นในห้องชานเรือนบ่อยๆ เพราะบางครั้งการบ่น มันก็ทำให้เด็กพิเศษอย่างผมรู้สึกดีขึ้นเหมือนกัน และนี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้วด้วย ในปีหน้ายังต้องเจออะไรอีกหลายอย่างเลยละ