ตอนเด็กๆเรามักจะได้ยินผู้ใหญ่คอยบอกคอยสอนให้พวกเราหัดตื่นแต่เช้า เพื่อมาดูแสงเงิน แสงทอง ฟังเสียงนก เสียงกาออกหากิน ไม่ใช่มามัวนอนอยู่อย่างนี้ ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจถึงความหมายและเจตนาของท่านเท่าไรนัก
และเมื่อวันเวลาผ่านไปจากชีวิตวัยเด็ก เปลี่ยนเป็นวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน จนเริ่มย่างก้าวเข้าสู่วัยกลางคน และวัยชรา ความคิดที่มีก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่สะสมมา
ธรรมชาติจัดสรรให้คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคนไม่มีผิดเพี้ยน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้เวลานั้นไปประกอบกิจกรรมอะไรบ้างตามที่ตนเห็นสมควร บางคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักผ่อน การนอน การกิน การเที่ยว ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นกีฬา ส่วนบางคนก็ใช้เวลาไปกับกิจกรรมครอบครัว การงาน ธุรกิจห้างร้าน หรืออื่นๆตามหน้าที่ของตนที่พึงกระทำ
เราจะจัดสรรเวลาใน 24 ชั่วโมงของเราอย่างไรบ้าง ?
หากจัดสรรทุกอย่างได้อย่างพอเหมาะพอควร การตื่นเช้านั้นจะพึงมีประโยชน์และความได้เปรียบแก่ท่านผู้นั้น ในการได้เริ่มคิด เริ่มงาน หรือเริ่มกิจกรรมของท่านก่อนผู้อื่นอย่างมิต้องสงสัย
วันหนึ่งๆ เวลาผ่านไปเร็วมาก และในการที่เวลาผ่านพ้นล่วงไปในแต่ละวันอาจดูเหมือนว่าเรากำลังเติบโตขึ้น กล้าแข็งขึ้น ... แต่ในความเป็นจริงแล้วเรากำลังเดินหน้าก้าวไปสู่ความตายใกล้เข้าทุกขณะ
ชีวิตคนเราโดยเฉลี่ยมี 2 หมื่นวัน หากวันนี้เป็นวันเกิด พรุ่งนี้เราก็จะเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 19,999 วันเท่านั้นเอง
กิจการงานกุศล มักถูกปล่อยให้เป็นเรื่องราวของคนแก่คนเฒ่าอยู่เสมอ โดยให้เหตุผลว่ายุ่ง เหนื่อย ยังไม่พร้อม แต่พอถึงเวลานั้นเข้าจริงๆ บางท่านแม้มีทรัพย์อยู่มากโข มีเวลาว่างอยู่มากพอ ก็หาได้มีโอกาสกระทำได้ตามที่คาดหมายอันเนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกายที่ไม่อำนวยต่อการดั้นด้นแสวงหาบุญทานต่างๆ
"การไม่ประมาทในวัยและหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลเป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่เสมอตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่"
เราควรหมั่นระลึกถึง "มรณานุสติ" หรือ "ความตาย" อยู่เสมอ และหมั่นถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า "วันคืนล่วงเลยไป ความตายใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เรามัวทำอะไรอยู่"
- ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม -
Dawn of the Dead
ตอนเด็กๆเรามักจะได้ยินผู้ใหญ่คอยบอกคอยสอนให้พวกเราหัดตื่นแต่เช้า เพื่อมาดูแสงเงิน แสงทอง ฟังเสียงนก เสียงกาออกหากิน ไม่ใช่มามัวนอนอยู่อย่างนี้ ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจถึงความหมายและเจตนาของท่านเท่าไรนัก
และเมื่อวันเวลาผ่านไปจากชีวิตวัยเด็ก เปลี่ยนเป็นวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน จนเริ่มย่างก้าวเข้าสู่วัยกลางคน และวัยชรา ความคิดที่มีก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่สะสมมา
ธรรมชาติจัดสรรให้คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคนไม่มีผิดเพี้ยน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้เวลานั้นไปประกอบกิจกรรมอะไรบ้างตามที่ตนเห็นสมควร บางคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักผ่อน การนอน การกิน การเที่ยว ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นกีฬา ส่วนบางคนก็ใช้เวลาไปกับกิจกรรมครอบครัว การงาน ธุรกิจห้างร้าน หรืออื่นๆตามหน้าที่ของตนที่พึงกระทำ
เราจะจัดสรรเวลาใน 24 ชั่วโมงของเราอย่างไรบ้าง ?
หากจัดสรรทุกอย่างได้อย่างพอเหมาะพอควร การตื่นเช้านั้นจะพึงมีประโยชน์และความได้เปรียบแก่ท่านผู้นั้น ในการได้เริ่มคิด เริ่มงาน หรือเริ่มกิจกรรมของท่านก่อนผู้อื่นอย่างมิต้องสงสัย
วันหนึ่งๆ เวลาผ่านไปเร็วมาก และในการที่เวลาผ่านพ้นล่วงไปในแต่ละวันอาจดูเหมือนว่าเรากำลังเติบโตขึ้น กล้าแข็งขึ้น ... แต่ในความเป็นจริงแล้วเรากำลังเดินหน้าก้าวไปสู่ความตายใกล้เข้าทุกขณะ
ชีวิตคนเราโดยเฉลี่ยมี 2 หมื่นวัน หากวันนี้เป็นวันเกิด พรุ่งนี้เราก็จะเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 19,999 วันเท่านั้นเอง
กิจการงานกุศล มักถูกปล่อยให้เป็นเรื่องราวของคนแก่คนเฒ่าอยู่เสมอ โดยให้เหตุผลว่ายุ่ง เหนื่อย ยังไม่พร้อม แต่พอถึงเวลานั้นเข้าจริงๆ บางท่านแม้มีทรัพย์อยู่มากโข มีเวลาว่างอยู่มากพอ ก็หาได้มีโอกาสกระทำได้ตามที่คาดหมายอันเนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกายที่ไม่อำนวยต่อการดั้นด้นแสวงหาบุญทานต่างๆ
"การไม่ประมาทในวัยและหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลเป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่เสมอตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่"
เราควรหมั่นระลึกถึง "มรณานุสติ" หรือ "ความตาย" อยู่เสมอ และหมั่นถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า "วันคืนล่วงเลยไป ความตายใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เรามัวทำอะไรอยู่"
- ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม -