คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
อ่านคร่าวๆแล้ว จขกท. คิดแบบนี้รึเปล่าครับ
1. ปล่อยกู้โดยเป็นผู้รับจำนอง หรือทำขายฝากโดยมีเจตนาที่จะให้กู้ยืมเงิน
2. นำรายรับดอกเบี้ยให้กู้ยืมไปเดินสเตรทเม้น ให้เป็นรายรับผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อให้เป็นรายรับของกิจการ
3.1 ผ่านไปซักหกเดือน ยื่นขอกู้จากธนาคาร แล้วนำเงินมาปล่อยกู้อีกครั้งเพื่อกินส่วนต่าง โดยขอสินเชื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่โฟกัสไปที่วงเงินจำนวนมากกับดอกเบี้ยที่ต่ำ เท่าที่อ่านผมคิดว่าคุณน่าจะเก็บดอกเบี้ยจริง ร้อยละ 2.5 - 3
3.2 หากธนาคารไม่โอเค คุณก็อยากนำไปคุยกับนายทุนอื่นในทำนองเดียวกัน แต่กลัวนายทุนไม่โอเค เลยต้องการหาหลักประกันอะไรซักอย่างหนึ่งเพื่อความสบายใจของนายทุนโดยที่ตัวคุณเองตอนนี้มั่นใจว่าสามารถหาเงินหมุนได้แบบนี้ทุกเดือน
4. คุณต้องการเปิดกิจการ (ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ก็แล้วแต่) โดยให้ตัวกิจการเป็นลูกหนี้ เพื่อจะได้กู้ยืมเงินนำมาขยายกิจการให้กู้ยืมต่อไป ซึ่งตอนนี้คุณมั่นใจเพราะคุณปล่อยกู้ได้โดยให้ราคาต่ำกว่าหลักทรัพย์มาก คาดว่าเจ้าของคงไม่อยากเสียทรัพย์สินตัวเองไป หรือต่อให้เสียมันก็ยังมีหลักทรัพย์ท่วมมูลหนี้อยู่ดี ดังนั้น คุณมองเห็นโอกาสที่จะขยายกิจการจึงต้องการเงินทุน
ประมาณนี้มั้ยครับ
1. ปล่อยกู้โดยเป็นผู้รับจำนอง หรือทำขายฝากโดยมีเจตนาที่จะให้กู้ยืมเงิน
2. นำรายรับดอกเบี้ยให้กู้ยืมไปเดินสเตรทเม้น ให้เป็นรายรับผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อให้เป็นรายรับของกิจการ
3.1 ผ่านไปซักหกเดือน ยื่นขอกู้จากธนาคาร แล้วนำเงินมาปล่อยกู้อีกครั้งเพื่อกินส่วนต่าง โดยขอสินเชื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่โฟกัสไปที่วงเงินจำนวนมากกับดอกเบี้ยที่ต่ำ เท่าที่อ่านผมคิดว่าคุณน่าจะเก็บดอกเบี้ยจริง ร้อยละ 2.5 - 3
3.2 หากธนาคารไม่โอเค คุณก็อยากนำไปคุยกับนายทุนอื่นในทำนองเดียวกัน แต่กลัวนายทุนไม่โอเค เลยต้องการหาหลักประกันอะไรซักอย่างหนึ่งเพื่อความสบายใจของนายทุนโดยที่ตัวคุณเองตอนนี้มั่นใจว่าสามารถหาเงินหมุนได้แบบนี้ทุกเดือน
4. คุณต้องการเปิดกิจการ (ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ก็แล้วแต่) โดยให้ตัวกิจการเป็นลูกหนี้ เพื่อจะได้กู้ยืมเงินนำมาขยายกิจการให้กู้ยืมต่อไป ซึ่งตอนนี้คุณมั่นใจเพราะคุณปล่อยกู้ได้โดยให้ราคาต่ำกว่าหลักทรัพย์มาก คาดว่าเจ้าของคงไม่อยากเสียทรัพย์สินตัวเองไป หรือต่อให้เสียมันก็ยังมีหลักทรัพย์ท่วมมูลหนี้อยู่ดี ดังนั้น คุณมองเห็นโอกาสที่จะขยายกิจการจึงต้องการเงินทุน
ประมาณนี้มั้ยครับ
แสดงความคิดเห็น
หากเรามีโฉนดโดยเรารับจำนอง และ ขายฝากมา รวมมูลค่าทรัพย์ 20 กว่าล้าน แต่เราใด้ปล่อยเงินไป 10 ล้าน
คำถามมีอยู่ว่า เราจะขยำรวมสัญญาทั้งหมดเป็นกิจจการ และเอากิจการไปขอกู้เงินอีกทีใด้ไหม ( เดิมเป็นผู้ให้กู้และไปขอทุนจากผู้ให้กู้อีกต่อ ^^)
ถ้าสมมุติใด้มีนายทุนมารับต่ออีกทีเราจะทำสัญญาอย่สงไรใก้แฟร์ ๆทั้งสองฝ่าย ซึ่งแน่นอนไม่สามารถทำจำนองซ้อนใด้อยู่แล้วที่กรมที่ดิน
หรืออาจจะทำสัญญาเงินกู้ตางหากโดยให้มีผลผูกพันในตัวกิจการที่เราทำอยู่
ปล สัญญาจำนอง ขายฝาก ระบุดอกร้อยละ 15% ถูกต้องตามกฎหมาย
และไม่ทราบมีนายทุนท่านใดสนใจคุยรายละเอียดบ้างไหม พร้อมทำสัญญาและยินดีรับเงื่อนใขทุกกรณี ( พอดีมีโปรเจคสำคัญต้องการทุนด่วน)
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาให้คำแนะนำนะครับ