กรมการค้าภายในเตรียมรับมือ “น้ำมันปาล์ม” ขาดตลาด หลังพบสต๊อกน้ำมันเหลือแค่2.3แสนตัน
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า กรมกำลังตรวจสอบสถานการณ์ผลผลิตปาล์มดิบ และตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อกำหนดแนวทางการดูแลและป้องกันปัญหาภาวะตึงตัว การรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น มีสต๊อกคงเหลือประมาณ 2.3 แสนตัน เพียงพอใช้ได้ประมาณ 2 เดือน และจะพอดีกับช่วงที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 แต่ยังติดตามสถานการณ์หลังราคาปาล์มขยับเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 6 บาท จึงห่วงเรื่องน้ำมันปาล์มบรรจุขวดตึงตัว
ส่วนเกษตรกรไม่น่าห่วง เพราะเป็นช่วงปลายฤดู ผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อย โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขณะนี้ หลังจากที่ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นเป็น กก.ละ 6 บาท ยอมรับว่าเริ่มตึงตัว เพราะต้นทุนปาล์มดิบที่ 6 บาท เท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มบรรจุขวด (ลิตร) ที่ 42 บาท เท่ากับราคาเพดานที่ให้จำหน่าย กรมจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน เพราะยังมีสต๊อกเก่าอยู่ และเชื่อว่าจะบริหารต้นทุนได้จนกว่าผลผลิตฤดูใหม่จะออกมา เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภค
“แต่หากมีความจำเป็นจริง จะเสนอให้นำน้ำมันปาล์มดิบที่กรมเคยซื้อไว้ และคงเหลืออยู่ประมาณ 1,650 ตัน มาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดธงฟ้า จะผลิตได้ประมาณ 1 ล้านขวดออกจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาขวดละ 38 บาท จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และจับตาว่าไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์จนเกิดความปั่นป่วน” นายสมชาติกล่าว
นายสมชาติกล่าวว่า หากพบว่าสถานการณ์น้ำมันปาล์มเริ่มไม่ปกติ กรมจะพิจารณามาตรการออกมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดการตึงตัว โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่การขอให้ชะลอการส่งออก การเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม และการขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อขอให้ชะลอการบังคับใช้น้ำมันปาล์มผสมในน้ำมันดีเซลจาก บี5 เป็น บี7 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ออกไปก่อน ส่วนราคาน้ำมันถั่วเหลืองยังอยู่ในระดับต่ำ ราคาจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปอยู่ที่ขวดละ 48-52 บาท จากราคาเพดานที่ 55 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบไม่ขยับสูงขึ้น
http://news.mthai.com/hot-news/293984.html
คราวก่อนตอนเป็นรัฐบาลก็ทำน้ำมันปาล์มขาดตลาดไปทีนึงแล้ว
ตอนนี้เป็น เลขา กปปส ก็ยังสามารถจะทำน้ำมันปาลม์ขาดตลาดได้อีก
สุเทพกำลังจะทำน้ำมันปาล์มขาดตลาดอีกแล้ว
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า กรมกำลังตรวจสอบสถานการณ์ผลผลิตปาล์มดิบ และตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อกำหนดแนวทางการดูแลและป้องกันปัญหาภาวะตึงตัว การรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น มีสต๊อกคงเหลือประมาณ 2.3 แสนตัน เพียงพอใช้ได้ประมาณ 2 เดือน และจะพอดีกับช่วงที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 แต่ยังติดตามสถานการณ์หลังราคาปาล์มขยับเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 6 บาท จึงห่วงเรื่องน้ำมันปาล์มบรรจุขวดตึงตัว
ส่วนเกษตรกรไม่น่าห่วง เพราะเป็นช่วงปลายฤดู ผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อย โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขณะนี้ หลังจากที่ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นเป็น กก.ละ 6 บาท ยอมรับว่าเริ่มตึงตัว เพราะต้นทุนปาล์มดิบที่ 6 บาท เท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มบรรจุขวด (ลิตร) ที่ 42 บาท เท่ากับราคาเพดานที่ให้จำหน่าย กรมจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน เพราะยังมีสต๊อกเก่าอยู่ และเชื่อว่าจะบริหารต้นทุนได้จนกว่าผลผลิตฤดูใหม่จะออกมา เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภค
“แต่หากมีความจำเป็นจริง จะเสนอให้นำน้ำมันปาล์มดิบที่กรมเคยซื้อไว้ และคงเหลืออยู่ประมาณ 1,650 ตัน มาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดธงฟ้า จะผลิตได้ประมาณ 1 ล้านขวดออกจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาขวดละ 38 บาท จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และจับตาว่าไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์จนเกิดความปั่นป่วน” นายสมชาติกล่าว
นายสมชาติกล่าวว่า หากพบว่าสถานการณ์น้ำมันปาล์มเริ่มไม่ปกติ กรมจะพิจารณามาตรการออกมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดการตึงตัว โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่การขอให้ชะลอการส่งออก การเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม และการขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อขอให้ชะลอการบังคับใช้น้ำมันปาล์มผสมในน้ำมันดีเซลจาก บี5 เป็น บี7 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ออกไปก่อน ส่วนราคาน้ำมันถั่วเหลืองยังอยู่ในระดับต่ำ ราคาจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปอยู่ที่ขวดละ 48-52 บาท จากราคาเพดานที่ 55 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบไม่ขยับสูงขึ้น
http://news.mthai.com/hot-news/293984.html
คราวก่อนตอนเป็นรัฐบาลก็ทำน้ำมันปาล์มขาดตลาดไปทีนึงแล้ว
ตอนนี้เป็น เลขา กปปส ก็ยังสามารถจะทำน้ำมันปาลม์ขาดตลาดได้อีก