พลังงานดัน3ทางแก้ปาล์มล้น รอเคาะดีเซลบี7 ใช้กับรถยนต์

พลังงานดัน3ทางแก้ปาล์มล้น รอเคาะดีเซลบี7 ใช้กับรถยนต์
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีที่ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอล้นตลาด ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ ทางกระทรวงพาณิชย์จึงประสานมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อขอให้ช่วยระบายสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ นำไปใช้ในภาคพลังงาน เพื่อฉุดราคาผลปาล์มน้ำมันให้ขึ้นไป ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวทางกระทรวงพลังงาน มองการดำเนินงานไว้ 3 แนวทาง
โดยแนวทางแรกได้ประสานกับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แล้ว ซึ่งเบื้องต้น กฟผ. แจ้งว่าสามารถใช้ซีพีโอ เพื่อนำไปผสมกับน้ำมัน เตาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้ากระบี่ ได้ประมาณ 10% หรือประมาณ 1 พันตันต่อ ปี ของปริมาณการใช้น้ำมันเตาที่ 1 หมื่นตันต่อปี แต่ทั้งนี้ เนื่องจากโรงไฟฟ้ากระบี่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเป็นหลักการจะนำน้ำมันเตาที่ผสมซีพีโอมาใช้ต่อเมื่อเกิด การขาดแคลนปริมาณก๊าซและเป็นการช่วยระบายสต๊อกซีพีโอได้บางส่วนเท่านั้น
อีกทางหนึ่ง ทางบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้รับซื้อซีพีโอส่วนหนึ่ง ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ปตท. ได้สั่งซื้อซีพีโอจำนวน 1 หมื่นตัน เพื่อนำไปกลั่นเป็นไบโอดีเซลบี 100 ได้ในปริมาณ 10 ล้านลิตร สต๊อกไว้ใช้ในช่วงซีพีโอเกิดการขาดแคลน
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้มีแนวคิดที่จะเพิ่มส่วนผสมของน้ำมันไบโอดีเซลบี100 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% หรือดีเซลบี 5 เป็น 7% หรือดีเซลบี 7 ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการใช้ซีพีโอเพิ่มขึ้นอีก 2 หมื่นตันต่อเดือน เป็น 7 หมื่นตันต่อเดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 หมื่นตันต่อเดือน แต่ความพร้อมในการกำหนดนโย บายผสมเป็นดีเซลบี 7 ได้หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของค่ายรถยนต์เป็นหลัก เพราะหากค่ายรถยนต์ยืนยันว่าไม่สามารถใช้ดีเซลบี 7 ได้ กระทรวงก็ไม่สามารถกำหนดนโยบายดังกล่าวได้ เพราะ จะเกิดความเสียหายกับรถยนต์
อย่างไรก็ตาม กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) ได้ประสานกับทางค่ายรถยนต์ เพื่อต้องการความชัดเจนในการนำดีเซลบี 7 ไปใช้กับเครื่องยนต์ดังกล่าว โดยได้ขอเวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ ที่น่าจะมีความชัดเจนภายในปลายเดือนกุมภา พันธ์นี้ หากผลสรุปออกมาว่าค่ายรถยนต์ให้การยอมรับน้ำมันไบโอดีเซลบี 7 กระ ทรวงก็พร้อมดำเนินงานทันที ทั้งนี้คาดว่าภายหลังจากได้รับความชัดเจนจากทางค่ายรถยนต์แล้ว ธพ.จะต้องหารือร่วมกับค่ายรถยนต์และผู้ค้าน้ำมันอีกครั้ง
"ปัจจุบันในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และเยอรมนี มีการใช้น้ำมันดีเซลบี 10 แต่เป็นการใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น และเป็น การใช้แบบสมัครใจ แต่หากประเทศไทยจะใช้น้ำมันบี 7 ก็ต้องเป็นนโยบายแบบบังคับ ดังนั้นหากเกิดปัญหากับรถยนต์ ก็จะสร้างความเสียหายจำนวนมาก อย่างไร ก็ตามในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะได้รับคำตอบจากทางค่ายรถยนต์ว่าจะสามารถรองรับน้ำมันบี 7 ได้หรือไม่ ซึ่งทาง ธพ.จะต้องคุยรายละเอียดและหารือกับค่ายรถยนต์และผู้ค้าน้ำมันต่อไป" นายประพนธ์ กล่าว
แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่าการช่วยระบายสต๊อกซีพีโอ ทางกระทรวงพลังงานคงช่วยได้ไม่มากนัก ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ว่าจะผลักดันให้ส่งออก หรือช่วยชดเชยราคาซีพีโอได้หรือไม่
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เริ่มทดลอง ใช้น้ำมันดีเซลบี 7 เป็นการเฉพาะกลุ่มแล้ว แต่การส่งเสริมเป็นนโยบายของภาครัฐ คงต้องใช้ระยะเวลา เนื่องจากยังไม่เป็นที่ยอมรับของค่ายรถยนต์ อย่างไรก็ ตามหากสามารถเพิ่มสัดส่วนผสมเป็นน้ำ มันดีเซลบี 7 ได้ จะทำให้ความต้อง การใช้น้ำมันบี100 เพิ่มอีก 1 ล้านลิตรต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5 ล้านลิตรต่อวัน โดยปัจจุบันบางจากมีความต้องการใช้น้ำมันบี 100 อยู่ที่เกือบ 3 แสนลิตรต่อวัน
นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวัน ที่ 14 มกราคม 2556 ได้มีการประชุมคณะ กรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือ เกษตรกร (คชก.) ที่มีนายบุญทรง เตริยา- ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้อนุมัติรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บเข้าสต๊อกเพิ่มอีก 5 หมื่นตัน รวมกับของเดิมเป็น 1 แสนตัน ใช้งบประมาณจัดซื้อประมาณ 1.25 พันล้านบาท
โดยในที่ประชุม องค์การคลังสินค้า (อคส.) แจ้งว่าได้รับซื้อน้ำมันดิบจากโรงสกัดน้ำมันปาล์มไปแล้ว จำนวน 4.8 หมื่นตัน ยังเหลืออีก 2 พันตัน จึงได้อนุมัติเพิ่ม เพราะมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปิดโรงงานหลายแห่งหยุดรับซื้อปาล์ม เพราะสต๊อกเต็ม อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่ดีจากกฟผ. ที่จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปผสมกับน้ำมันเตาเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว แต่ต้องให้เวลาปรับเทคนิคบางอย่างเพื่อไม่ให้การ ผลิตไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง หรือต้องใช้แนว นโยบายให้รัฐอุดหนุนค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ให้ กระทบกับผู้บริโภคในการปรับค่าไฟฟ้า
นางวิวรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายบุญทรง ยังได้แต่งตั้งอนุกรรมการระบายขึ้นเพื่อค้นหาแนวทางการระบายสต๊อกขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการด้านการตลาด เพื่อติดตามราคาผลปาล์มเพื่อส่งออก มีกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพ และคณะอนุกรรม การด้านการผลิต เพื่อปรับปรุงประสิทธิ ภาพการผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ให้มีเปอร์ เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้น ซึ่งมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพ
สำหรับการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเวลานี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในตลาดโลกไม่จูงใจ เพราะราคาน้ำมันปาล์ม ดิบโลก (อิงตลาดมาเลเซีย) ณ วันที่ 15 มกราคม 2556 ราคากิโลกรัมละ 22-23 บาท ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบไทยอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท (ราคาผลปาล์ม อยู่ที่กิโลกรัมละ 3.50-3.70 บาท) จึงไม่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปต่างประเทศได้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งทางผู้ประกอบการกำลังรอดูในช่วงตรุษจีนว่า จีนจะเข้ามาซื้อน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากเข้ามาก็จะช่วยให้สถานการณ์การส่งออกน้ำมันปาล์มดีขึ้น ปัจจุบันสต๊อก ณ เดือนพฤศ จิกายน 2555 มีประมาณ 3.56 แสนตัน จากปกติไทยจะผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้เฉลี่ย 1.7 แสนตันต่อเดือน

เกษตรกรชาวสวนปาล์ม เห็นข่าวนี้คงยิ้มเล็ก แม้ว่าจะเป็นเพียงจุดตั้งต้น แต่ก็เป็นความหวังและเป็นแผนพัฒนาที่ดี หากภาคเอกชนผู้ผลิตรถยนต์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและไม่กระทบกับอุตสาหกรรมรถยนต์ และผู้ใช้ ก็คงได้รับการสนับสนุนในโอกาสต่อไป และคงจะเป็นผลดีทั้งตรงและทางอ้อมในการบริหารจัดการพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่