ณ วันนี้ดูเหมือนเหตุการณ์ประเทศไทย กำลังเคลื่อนไปสู่จุดแตกหักที่ยากจะประสาน มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นทุกที
ความมีทิฐิที่จะเอาชนะกันดูเหมือนจะกำลังลุกลามขึ้นช้าๆอย่างมีนัยยะสำคัญ ต่างฝ่ายต่างสีต่างมีผู้บงการเบื้องหลัง
และกำลังลุกลามไปมากมายเกินที่จะเยียวยาหันหน้าเข้าเจรจาประนีประนอม พร้อมลุกขึ้นปะทะกันทุกเวลา
ดูแล้วคล้ายจุดเริ่มต้นในความขัดแย้งของประเทศซีเรีย ที่คนชาติเดียวกัน ต่างแสดงพลังข่มกันไปมาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกฏบ
สุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างคุยกันไม่รู้เรื่อง ใช้กำลังติดอาวุธเดินหน้าเข้าห่ำหันกันฆ่ากันเอง ยาวนานเกือบ 3 ปี ยังไม่มีทีท่าจะจบสิ้น
ต่างฝ่ายต่างแสดงความดีใจในชัยชนะของตน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนซากปรักหักพังของบ้านเมืองตนเอง บนศพญาติพี่น้องตน
ถึงวันนี้สหประชาชาติประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือนถึง 80,000 คน บาดเจ็บพิการ 5 แสน
ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน ต้องอพยพหลบหนีไปอาศัยประเทศเพื่อนบ้านหรือไปหลบตามภูเขาในทะเลทรายนอกเมือง
บางครอบครัวก็เลือกที่จะไม่หนี เพราะไม่มีที่ไป ขอตายในบ้านเรือนตนเอง จับอาวุธเข้าสู้รบกันต่อไป
บ้านเมืองพังพินาศจนไม่เหลืออะไร ไม่มีตลาดร้านค้า ไม่มีโรงพยาบาล โรงเรียน น้ำประปา ไม่มีกฏหมาย ไม่มีตำรวจ
มีแต่ทหารฝ่ายรัฐบาล กับประชาชนฝ่ายกฏบติดอาวุธรบกันอย่างเมามัน ใครอยากฆ่ากัน แย่งชิงปล้นสมดย์ เชิญตามสบาย
ชีวิตทุกนาทีอยู่บนความตาย คุยกันด้วยเสียงปืน และอาวุธทุกชนิดที่มีอยู่ นำออกมาฆ่ากันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
จนถึงวันนี้ พวกเขายังคงมุ่งสู่ชัยชนะของตนอย่างสุดติ่ง ไม่ฟังใคร มุ่งฆ่ากันให้ตายหมดไปข้างหนึ่งเท่านั้น
เป็นชัยชนะบนควมพ่ายแพ้ของคนทั้งชาติ เป็นความภาคภูมิใจ บนความโง่เขลาเบาปัญญาและป่าเถื่อนของมวลมหาประชาชน
เราอยากให้เมืองไทยเป็นแบบนั้นหรือ แล้วลูกหลานของเรา จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ???..
ชัยชนะบนความพ่ายแพ้ของคนทั้งชาติ
ความมีทิฐิที่จะเอาชนะกันดูเหมือนจะกำลังลุกลามขึ้นช้าๆอย่างมีนัยยะสำคัญ ต่างฝ่ายต่างสีต่างมีผู้บงการเบื้องหลัง
และกำลังลุกลามไปมากมายเกินที่จะเยียวยาหันหน้าเข้าเจรจาประนีประนอม พร้อมลุกขึ้นปะทะกันทุกเวลา
ดูแล้วคล้ายจุดเริ่มต้นในความขัดแย้งของประเทศซีเรีย ที่คนชาติเดียวกัน ต่างแสดงพลังข่มกันไปมาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกฏบ
สุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างคุยกันไม่รู้เรื่อง ใช้กำลังติดอาวุธเดินหน้าเข้าห่ำหันกันฆ่ากันเอง ยาวนานเกือบ 3 ปี ยังไม่มีทีท่าจะจบสิ้น
ต่างฝ่ายต่างแสดงความดีใจในชัยชนะของตน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนซากปรักหักพังของบ้านเมืองตนเอง บนศพญาติพี่น้องตน
ถึงวันนี้สหประชาชาติประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือนถึง 80,000 คน บาดเจ็บพิการ 5 แสน
ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน ต้องอพยพหลบหนีไปอาศัยประเทศเพื่อนบ้านหรือไปหลบตามภูเขาในทะเลทรายนอกเมือง
บางครอบครัวก็เลือกที่จะไม่หนี เพราะไม่มีที่ไป ขอตายในบ้านเรือนตนเอง จับอาวุธเข้าสู้รบกันต่อไป
บ้านเมืองพังพินาศจนไม่เหลืออะไร ไม่มีตลาดร้านค้า ไม่มีโรงพยาบาล โรงเรียน น้ำประปา ไม่มีกฏหมาย ไม่มีตำรวจ
มีแต่ทหารฝ่ายรัฐบาล กับประชาชนฝ่ายกฏบติดอาวุธรบกันอย่างเมามัน ใครอยากฆ่ากัน แย่งชิงปล้นสมดย์ เชิญตามสบาย
ชีวิตทุกนาทีอยู่บนความตาย คุยกันด้วยเสียงปืน และอาวุธทุกชนิดที่มีอยู่ นำออกมาฆ่ากันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
จนถึงวันนี้ พวกเขายังคงมุ่งสู่ชัยชนะของตนอย่างสุดติ่ง ไม่ฟังใคร มุ่งฆ่ากันให้ตายหมดไปข้างหนึ่งเท่านั้น
เป็นชัยชนะบนควมพ่ายแพ้ของคนทั้งชาติ เป็นความภาคภูมิใจ บนความโง่เขลาเบาปัญญาและป่าเถื่อนของมวลมหาประชาชน
เราอยากให้เมืองไทยเป็นแบบนั้นหรือ แล้วลูกหลานของเรา จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ???..