ขบถในตุรกีถูกจับกุม 2,839 คน ตาย 265 คน บาดเจ็บ 1,440 คน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Turkish military declares takeover of country (Special coverage)




Binali Yildirim นายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าวว่า
มีทหารและข้ารัฐการ  2,839 คน
ที่เกี่ยวข้องกับการกบฎเมื่อคืนถูกจับกุมแล้ว
ส่วนมากเป็นพลทหารและชั้นสัญญาบัตร

แกนนำจำนวน 20 คนที่วางแผนกบฎถูกฆ่าตายแล้ว
ส่วนอีกจำนวน 30 คนได้รับบาดเจ็บ
มีคนอย่างน้อย 265 ที่ถูกฆ่าตาย
เป็นผู้มีส่วนสนับสนุนกบฎ 104 คน

ฝ่ายประชาชนจำนวน 190 คนที่ถูกฆ่าตาย
และประชาชนอีก 1,440 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
จากลงมือก่อการขบถของทหารใน Istanbul กับ Ankara

" ทหาร 1,563 คนถูกจับกุม และทหาร 104 คน
ที่มีส่วนร่วมกบฎข้ามคืนถูกฆ่าตายในการปะทะกัน

ส่วนฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล  90 คนถูกฆ่าตาย  
เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 41 คน
ทหาร 2 คน ข้ารัฐการ  47 คน "

กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล
ได้เข้าควบคุมอาคารกองบัญชาการสูงสุดของกองทัพ
แต่ยังคงมีฝ่ายกบฎบางส่วนที่ยังต่อต้านอยู่
เจ้าหน้าที่รัฐตุรกี รายงานในวันเสาร์กับ  Reuters

นายพล  Hulusi Akar ผู้บัญชาการกองทัพบกตุรกี
ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากเงื้อมมือฝ่ายกบฎได้แล้ว
เขาเป็นทหารที่มียศสูงสุดที่ถูกจับกุมโดยฝ่ายกบฎ

ฝ่ายกบฎรายงานว่ามีเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจำนวนหลายลำลงมือก่อการขบถ
แต่ฝ่ายจงรักภักดีรัฐบาลได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ฝ่ายกบฎตกหนึ่งลำ
ขณะที่กำลังพยายามโจมตีอาคารของรัฐบาล

ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา  มีขบวนรถถังและเฮลิคอปเตอร์
ที่ก่อการกบฏได้เข้าปิดล้อมเส้นทางสัญจรไปมาระหว่าง
สะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus Strait
รถถังได้เข้าโจมตีสถานที่ราชการหลายแห่งรวมทั้งรัฐสภาตุรกี
ทำให้บรรดาฝ่ายนิติบัญญัติต่างต้องหนีตายและหลบซ่อนตัวอยู่ภายในอาคาร
สนามบินหลายแห่งถูกปิดตัวลง
และระบบเครือข่ายสื่อสารอินเตอร์เน็ตถูกบล็อกในชั่วโมงแรก
โทรทัศน์ TRT ของรัฐและสื่อมวลชน CNN ในตุรกี
ถูกยึดและให้ยุติการแพร่ภาพออกอากาศทันที

แต่พวกสมรู้ร่วมคิดดูเหมือนจะทำการล้มเหลว
เพราะไม่ได้จับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไว้เป็นตัวประกัน
และไม่สามารถเอาชนะใจประชาชน
และได้รับสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากพวกทหารตุรกี

ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan Recep
ได้เรียกร้องให้พลเรือนผู้สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
เดินทางเข้าไปร่วมต่อสู้ในท้องถนนที่ฝ่ายกบฎควบคุมอยู่

แม้ว่าฝ่ายกบฏจะมีคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านก็ตามแต่
จึงเห็นได้ชัดว่าคำสั่งนี้ไม่มีผลแต่อย่างใด
และเป็นการเปิดตัวสงครามเต็มรูปแบบในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี
ระหว่างฝ่ายพลเรือนกับทหารฝ่ายกบฎ

เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้กล่าวหาว่า Fethullah Gulen
อดีตนักเทศน์ที่ทรงอิทธิพล
ที่ได้เนรเทศตัวเองไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา
คือผู้ยุยงส่งเสริมการก่อการกบฎครั้งนี้

แม้ว่าครั้งหนึ่ง Gulen เคยเป็นพันธมิตรของ Erdogan
แต่ต่อมากลายเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ต่อต้านเขาอย่างแรง

ในปี 2013  รัฐบาลตุรกีถูกเขย่าด้วยเรื่องทุจริตที่อื้อฉาว
ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของรัฐบาล Erdogan
แต่ Erdogan อ้างว่าเรื่องดังกล่าวนี้สร้างขึ้นมาโดย Gulen
และเริ่มลงมือปราบปรามผู้สนับสนุน Gulen ด้วยตำรวจและตุลาการ

แม้ว่าดูเหมือน Erdogan จะยังคงรักษาอำนาจของตนไว้ได้
แต่ความพยายามทำรัฐประหารเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า
นโยบายบางเรื่องของเขาล้มเหลว
ตามที่ Sreeram Chaullia
จาก Jindal School of International Affairs ให้สัมภาษณ์กับ RT

" ภายใต้การปกครองของ Erdogan
ตุรกีได้ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายชาว Kurdish
ขณะเดียวกันก็มีส่วนสร้างความวุ่นวายในซีเรียกับอีรัค
ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกับรัสเซีย
และให้การสนับสนุนกองกำลัง NATO ในเวลาเดียวกัน

ผมรู้สึกว่ารัฐประหารครั้งนี้เชื่อมโยงกับ
วิกฤตการณ์ด้านการรักษาความมั่นคง
และการโจมตีของฝ่ายก่อการร้าย
ได้แสดงว่ารัฐบาลตุรกีไร้ความสามารถ
/ไร้น้ำยาในการหยุดยั้งการโจมตีดังกล่าว
มันแสดงออกถึงความโกรธของฝ่ายรักษาความมั่นคง
ที่คิดว่าพวกเขาสามารถทำได้ดีกว่าฝ่ายรัฐบาล
เพราะว่า Erdogan มักจะเล่นการเมืองในทุกเรื่อง ”

ตุรกีเป็นประเทศที่ทันสมัย/พัฒนาแต่ด้อยพัฒนา
​​มีการรัฐประหารเพียง 3 ครั้งที่ประสบความสำเร็จ
การรัฐประหารครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1980

ทหารตุรกีคือเสาหลักความมั่นคงของประเทศตุรกี
และอยู่ภายใต้การปกครองแบบมุสลิมของ Erdogan
มีผู้วิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีตุรพยายามที่จะนำประเทศ
ให้กลายเป็นรัฐอิสลามในฐานะผู้นำเผด็จการ
(เหมือนอยากเป็นกาหลิบแบบสมัยก่อน)

Erdogan ที่ได้รับการเลือกตั้ง  ตั้งแต่ปี 2002
เคยผ่านการเผชิญหน้ากับการถูกโค่นล้มโดยทหารมาก่อน
ใน Operation Sledgehammer
ปฏิบัติการก่อการขบถที่ล้มเหลวในปี 2010
มีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องถึง 300 คนส่งเข้าคุก
ด้วยข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการก่อการกบฏ

ตุรกีเป็นสมาชิกของ Nato และเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้
ด้วยการให้ใช้ฐานทัพอากาศสำหรับกิจกรรมทางด้านทหารอย่างต่อเนื่อง
ที่ปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้านซีเรีย  อีรัค
นอกจากนี้ยังเป็นที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา
รุ่น B61 ประมาณการว่ามีอยู่ถึง 50-90  ลูก ที่ฐานทัพ Incirlik
ซึ่งมีทหารสหรัฐประจำการพร้อมเครื่องบินรบ 1,500 คน





ที่มา  https://goo.gl/rd6Zx7



หมายเหตุ


ชนะคือ ราชา  แพ้คือ ขี้ข้า

ผู้ชนะย่อมมีสิทธิพิเศษเสมอ

ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์

คุก ทหาร ศาล ตำรวจ คือ
เครื่องมือปกครองและกดขี่ของรัฐ


ที่มา  https://goo.gl/EE5eDK




บิดาของตุรกี





Mustafa Kemal Atatürk   ที่มา  http://goo.gl/vZ63Q0  


บิดาของตุรกีได้รับเกียรติแต่งตั้งจากรัฐสภาตุรกี
ผู้นำกลุ่มยังเตอร์ก Young Turk
ผู้นำเหล่าทัพล้มล้างขับไล่กาหลิบเตอร์กในอดีต
ที่ปกครองอาณาจักรออตโตมันจนต้องหนีตายไปที่เซาว์ดี้
ผู้เปลี่ยนผ่านระบบการเมืองที่ศาสนามาเกี่ยวข้อง
ด้วยการแยกศาสนาออกจากการเมือง
ผู้เปลี่ยนภาษาอาหรับเป็นภาษาตุรกีแบบใหม่

ผู้ประกาศยกเลิกข้อบังคับในการแต่งกายมุสลิม
ผู้ชายไม่ต้องสวมหมวกแขก หรือโพกหัว
ผู้หญิงก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังใบหน้า
หรือสวมคลุมชุดดำตลอดเหมือนในอดีต
ด้วยการใช้กฎหมายบังคับอย่างเคร่งครัด
พร้อมจัดการพวกเคร่งศาสนาด้วยกฎหมาย
ที่ออกโดยรัฐสภาที่ท่านมีอำนาจในการควบคุม
ทำให้ตุรกีเจริญก้าวหน้าแบบตะวันตกอย่างมาก
และเจริญกว่าหลายชาติในกลุ่มอาหรับ

เรื่องสำคัญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตุรกี
คือ การไม่ยอมจำนนกับกาหลิบ
ที่กล่าวหาว่าท่านเป็นกบฎหลังจากรบชนะกรีซ
แม้ว่ากองทัพกรีซได้เข้ามายึดดินแดนตุรกีหลายครั้ง
กาหลิบเกรงว่าท่านจะได้รับความนิยมมากกว่า
และต้องการตัดทอนอำนาจของพวกทหารลง
ท่านจึงนำกองทัพเข้ารัฐประหารกาหลิบทันที

ผู้มีชัยในการรบกับกองทัพ อังกฤษ  ฝรั่งเศส
ที่บังคับให้ตุรกีเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 1
เพราะร่วมเป็นพันธมิตรกับฝ่ายเยอรมันนี
ผ่านความยินยอมเห็นชอบของกาหลิบเตอร์ก

กองทัพตุรกีรบอย่างห้าวหาญ/ไม่ยอมจำนน
จนต้องมีการเจรจายุติศึกลงทั้งสองฝ่าย
เพราะประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส
ต่างหมดเนื้อหมดตัวจากสงคราม
ต้องบูรณะบ้านเมืองครั้งใหญ่มาก
จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในชาติ



ที่มา http://goo.gl/uPw4VY


ตามตำนานทั้งเล่า/ทั้งยืนยันว่า
ท่านเป็นนักดื่มสุราตัวยง
ชอบดื่มสุราเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล้าประจำชาติ  Raki
แม้ว่าขัดกับหลักศาสนาอิสลาม

ทำให้ทหารและประชาชนตุรกี
ต่างหันมานิยมดื่มสุราในที่สุด
เพราะต่างเจริญรอยตาม/
อ้างว่ารำลึกเป็นเกียรติกับท่าน
ผู้เป็นบิดาของตุรกี


ข้อมูลเพิ่มเติม

http://goo.gl/iFFHFq
http://goo.gl/336L23
http://goo.gl/ppavYZ




นอกเรื่อง   "จับทหารกบฏ" เหตุเกิดในประเทศไทย



ภาพถ่ายจาก AFP มีคำบรรยายประกอบภาพว่า
เป็นการ "จับทหารกบฏ" ในเดือนกรกฎาคม 1951 (พ.ศ. 2494)
หลังเกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพเรือและกองทัพบกในกรุงเทพ
ซึ่ง จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นถูกจับเป็นตัวประกัน
โดยกองทัพอากาศเลือกที่จะอยู่ฝ่ายกองทัพบก

เหตุการณ์ดังกล่าวรู้จักกันดีในชื่อ "กบฏแมนฮัตตัน"
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494
ขณะที่ จอมพล ป. เดินทางไปร่วมพิธีรับมอบเรือขุดจากอเมริกันชื่อ "แมนฮัตตัน"
แต่ถูกทหารเรือจับเป็นตัวประกันและพาตัวไปกักขังไว้ที่เรือรบศรีอยุธยา
ซึ่งฝ่ายทหารเรือคาดว่า การจับจอมพล ป. เป็นตัวประกัน
จะช่วยให้พวกตนสามารถยึดอำนาจไว้ได้โดยง่าย  แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นดังหวัง

กองกำลังฝ่ายรัฐบาลนำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์
เลือกที่จะตอบโต้ฝ่ายกบฏอย่างรุนแรง เครื่องบินจากกองทัพอากาศ
ยังได้เข้าโจมตีถังเก็บน้ำมันและยิงกราดที่ตั้งของฝ่ายกองทัพเรือ
และยังทิ้งระเบิดใส่เรือ "ศรีอยุธยา" ที่จอมพล ป. ถูกจับเป็นตัวประกัน
(โดยไม่สนใจว่าตัวประกันซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีจะตายหรือไม่)

"จอมพล ป. จำต้องหนีออกมาจากเรือที่กำลังจะจม
และว่ายน้ำเอาตัวรอดในลักษณะที่หมดสง่าผ่าเผย
เมื่อเรือรบหลวงถูกทำลายลงแล้ว ฝ่ายกองทัพเรือจึงสิ้นหวัง
และความเป็นศัตรูกันก็สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว"
ทักษ์ เฉลิมเตียรณ ระบุใน "การเมืองระบบพ่อขุนอุปถัมภ์แบบเผด็จการ"
(ไม่มีข้อมูล คนเจ็บคนตายคนถูกจับกุมในเอกสารอ้างอิง)

หมายเหตุ

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ขบถครั้งนั้นเกี่ยวพันกับ นายปรีดี พนมยงค์
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากองทัพเรือก็ถูกลดบทบาทลง
มีการพัฒนาการช้ากว่ากองทัพบกและกองทัพอากาศ
รวมทั้งผู้บัญชาการสูงสุดนาน ๆ ครั้งจึงมาจากกองทัพเรือ

ที่มา Facebook ศิลปและวัฒนธรรม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่