ช่วงก่อน รธน. 40

สมัยนั้น การเมืองวุ่นวายมาก  
การตั้งรัฐบาล ตั้งยากมาก  เพราะพรรคเล็กพรรคน้อย ยิบย่อย

ตอนตัวบิ๊กจิ๋วลาออกเพราะพิษลอยค่าเงิน  ตอนนั้นประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน
แต่สภายังอยู่ ทำให้ สส ใน สภาต้องเลือกนายกใหม่

พรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ก็ฝันหวานว่า แค่พี่จิ๋วออกคนเดียว
ยังไงเราก้ยังมีเสียงข้างมาก นึกว่าจะยังได้เป็นรัฐบาลต่อ คุยกันตกผลึกว่าจะ
ยกมือให้ชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายก

ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลายกมือ
ชวน หลีกภัย ได้เป็นนายก
เกิดอะไรขึ้น!!!

ประชาธิปัตย์ แอบไปคุยกับกลุ่ม สส.13 คนนำโดยวัฒนา อัศวะเหม  
ให้ยกมือสวนมติหัวหน้าพรรคประชากรไทย (ตอนนั้นกฏหมายอนุญาตให้ สส. มีเอกสิทธิ์ ยกมือยังไงก็ได้ พรรคเอาผิดไม่ได้)
ไปๆมาๆ 13 เสียง กลายเป็นผู้กำหนดชะตากรรมว่า ใครจะได้เป็นนายก

เสียงส่วนน้อยยิบย่อย กลับได้เป้นคนตั้งรัฐบาล
สส. 13 คนนั้นเลยถูกสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค เรียกว่า กลุ่มงูเห่า

ประชาธิปัตย์ ไป...ฉก 13 งูเห่ามา
ทำให้ชวนได้เป็นรัฐบาลจากอิทธิพลเสียงข้างน้อย



ตอนนั้น สภาร่าง รธน.40 เขาก็มองดูการเมืองแล้วก็คิดว่า
1. ระบบหลายพรรคมันไม่ดี มันไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะเสียงข้างน้อยดันเป็นคนตั้งรัฐบาล
2. แล้วระบบหลายพรรคนี่มันทำให้การเมืองไม่มีเสถียรภาพ
เพราะ 2.1 การต้องตั้งรัฐบาลผสม ทำให้แต่ละพรรคก็แบ่งกระทรวงกันไป นโยบายก็เลยเสปะสะปะ กลายเป็นว่า เข้ามาดูด เข้ามาสูบ
2.2 พอเป็นรัฐบาลผสม กลายเป็นว่า อภิปรายไม่ไว้วางใจที ก้ยุบสภาที แป๊บๆก็เปลี่ยนรัฐบาล
ในประวัติศาสตร์ไทย ไม่เคยมีพรรคไหนอยู่ได้ครบ 4 ปีเลย
เลยมองว่า นี่ วงจรอุบาทว์

หันมองหน้ากันแล้ว หลอดไฟนีออนวงกลมก็สว่างสไวอยู่บนหัวท่านเหล่านั้น
Be hold!  ดูกรประชาชนทั้งหลาย!
ดู! จงดุอเมริกาสิ!

เพราะอเมริกามีแค่ 2 พรรค  มีการเมืองเข็มแข็งมาก
จึงอยากให้ประเทศไทยเป็นระบบพรรคใหญ่ ****!!!


สภาร่างจึงคิดว่า เราต้องทำให้การเมืองเข้มแข็ง
ต้องออกแบบให้พรรคการเมืองเป็นระบบพรรคใหญ่

พอได้ประกาศใช้ รธน.40 ได้มีการเลือกตั้งครั้งแรก
ก็ได้รัฐบาลทักษิน 1 เข้ามา ด้วยเสียง 378/500
เราได้เห็นปรากฏการณ์พรรคเล็กยุบหายหมด หนีตายหมดเลย พรึบ
กลายเป็นพรรคใหญ่ 2 ขั้วอย่างที่เห็นๆกันอยู่



พรรคไทยรักไทย คือผลผลิตและความตั้งใจของ รธน.40
และที่เป็นแบบนี้ เพราะก็พรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละ ที่มีส่วนอย่างสำคัญ ที่ทำให้เกิดพรรคอย่างพรรคไทยรักไทย

สิ่งที่ รธน.40 ตั้งใจไว้ มันก็ได้ผลจริงๆ
พรรคไทยรักไทยทำสถิติประวัติศาสตร์ 2 อย่าง
1. เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เสียงข้างมาก
(นโยบายทุกอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหมด ปรากฏการณ์แบ่งเค้กตั้งรัฐบาล หรือพรรคเล็กตั้งรัฐบาล หรือปรากฏการณ์ สส งูเห่า  ........... หายหมด)

2. เป็นรัฐบาลแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่อยู่ครบเทอม 4 ปี

เป็นไปตามเจตนารมย์แห่งการออกแบบ รธน. ทุกประการ

ลืมกันไปแล้วหรือ
ทักษินไม่ได้เขียน รธน. 40 และ 50  
เขาไม่มีส่วนด้วยซ้ำไป

ตอนนี้ประชาธิปัตย์มาโวย กล่าวหาทักษินว่าเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
หาว่าทักษินมีอำนาจล้นฟ้าเพราะไปทุจริตมา ซื้อมา
ทั้งๆที่ทักษินได้อำนาจนั้นมา ก็เพราะ รธน.40 มอบอำนาจล้นฟ้าให้ทักษิน
เอาไว้เป้นไม้กันหมา รับมือกับพรรคการเมืองร้อยเลห์พันมายา

รัฐธรรมนูญนั่นแหละที่ต้องการให้รัฐบาลเข็มแข็ง
ก็ประชาชนนั่นแหละที่ต้องการให้ทักษินเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
จะได้ไม่ต้องมาแบ่งเค้ก ไม่ปล่อยให้พรรคการเมืองยุคเก่า มาทำนิสัยเสียๆ  

แล้วเราก็เห็นแล้วว่า เพราะการเป็นเผด็จการเสียงข้างมากนั่นแหละ
ทำให้ทักษินสามารถผลักดันนโยบาย มีอำนาจชี้เด็ดชี้ขาดให้ใครทำอะไรไม่ทำอะไร
หมดยุคแบ่งเค้ก ทักษินสั่งได้ว่าจะให้ใครเป็น รมต. ไม่ต้องไปง้อพรรคไหน
มันจึงเกิดอะไรต่อมิอะไรขึ้นมาเป็นประโยชน์มากมายผิดหูผิดตากับระบอบประชาธิปัตย์  ....


อีกอย่างหนึ่ง
โดยธรรมชาติของ ประชาธิปไตย มันก็เป็น เผด็จการเสียงข้างมากอยู่แล้ว
กล่าวคือ เอาเสียงข้างมากลากไปอยู่แล้ว
ทำไมไม่คิดมุมกลับว่า ถ้าเสียงข้างมากต้องมาชะงักเพราะเสียงข้างน้อยไม่ยอม
อย่างนี้มันคือเผด็จการเสียงข้างน้อยไม่ใช่หรือ

ทุกคนต้องเตือนความจำตนเองว่า รธน. 40  เราต้องการแก้การเมืองแบบหลายพรรค
แต่วันนี้ ประชาธิปัตย์โหยหาวันเก่าๆที่พวกเขาเป็นต่อ
พวกเขารังเกียจระบบพรรคใหญ่และการเลือกตั้ง ที่จะการันตีความอดอยากปากแห้งในฐานะฝ่ายค้านไปตลอดกาล
พวกเขาจึงไม่อยากเลือกตั้งในระบบพรรคใหญ่ และกำลังเดินผลักดันแผนการร้ายด้วยการบีบให้รัฐบาลเข้าสู่ภาวะสู่สุญญากาศทางการเมือง เพื่อให้อำนาจพิเศษเข้ามาช่วยอุ้มพวกเขาให้เป็นรัฐบาลอีกเหมือนที่เคยทำได้

และพวกเขาจะฉวยโอกาสนี้  สร้างองค์กรประเภท คตส.2 เพื่อตัดแข้งตัดขาและทำลายความเข้มแข็งของฝ่ายตรงข้าม เพื่อช่วยให้พวกเขาขนะการเลือกครั้งถัดไป การเลือกตั้งที่ในกติกาที่จะกลับไปสู่ยุคพรรคเล็ก รัฐบาลผสม การเมืองไร้เสถียรภาพ การแบ่งเค้ก และผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพื่อจะได้ใช้นิสัยแบบเก่า เกมส์แบบเดิม ที่พวกเขาถนัด

สิ่งที่ต้องกำจัดแบบขุดรากถอนโคนนั้น
อาจจะไม่ใช่ระบอบทักษิน
แต่เป็นระบอบประชาธิปัตย์