S&P ปรับลดอันดับเครดิตของ Thaibev ลงสู่ "BB+" จากเดิม "BBB-" และมีมุมมอง "stable"

การที่ S&P ลดเกรดหุ้น Thaibev ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนมุมมองใหม่เป็นการมองภาพรวมทั้งกลุ่มแทนที่จะมองเฉพาะหุ้น Thaibev ตัวเดียว ซึ่งเป็นการให้ความเห็นต่อเนื่องจากครั้งก่อนที่ให้แนวโน้ม “เป็นลบ” ซึ่งหมายถึงว่าในอนาคตอาจพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตลงได้ ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่หุ้น Thaibev ถูกลดอันดับเครดิตเนื่องจาก S&P พิจารณาถึงความสามารถในการจ่ายชำระหนี้เป็นหลัก หลังจาก Thaibev เข้าซื้อ F&N ด้วยการก่อหนี้ทำให้ภาระหนี้ (leverage) สูงขึ้น ซึ่ง S&P มองว่ากระทบกระเทือนต่อความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต
ต่อผลกระทบของหุ้นในกลุ่มเสี่ยเจริญ ได้แก่ BJC, UV, GOLD, SSC, OISHI ซึ่งความเกี่ยวข้องกับหุ้น Thaibev แตกต่างกัน
OISHI มี Thaibev ถือหุ้นใหญ่ 80%
SSC ถือหุ้นใหญ่โดย ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก 64%
BJC ถือหุ้นใหญ่โดย TCC Holding 70%
UV ถือหุ้นใหญ่โดย บจ. อเดลฟอส 58% ซึ่งถือหุ้นโดยทายาทตระกูลสิริวัฒนภักดี
GOLD ถือหุ้นใหญ่โดย UV 51%

ดังนั้น มีเพียง OISHI ตัวเดียวที่ถือหุ้นใหญ่หุ้นสายตรงโดย Thaibev ตัวเดียวใน SET ซึ่งอาจได้รับผลกระทบในการมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นหากมีการกู้เงินเพิ่ม โดยปัจจุบันมี D/E Ratio 1.57 เท่า สูงกว่ากับค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มอาหารอยู่ที่ 1.47 เท่า ส่วนหุ้นตัวอื่นๆไม่น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงต่อกรณีที่หุ้น Thaibev ถูกลดเกรด