กระทู้นี้ตั้งมาเพื่ออวยหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะค่ะ...อาจจะมีกรี๊ดออกนอกหน้าไปบ้าง
วันนี้พึ่งจะมีเวลาได้ไปดูเรื่องนี้ค่ะ...เห็นชื่อผู้กำกับก็นึกถึง Nobody Knows เรียกน้ำตาไปมากเลยค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆสำหรับ Like Father Like Son
หนังไม่พยายามยัดเยียดฉากดราม่าให้น้ำตาไหลฟูมฟาย แต่มาทีละนิดๆให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละคร
ให้เราได้เรียนรู้นิสัยของตัวละครไปเรื่อยๆ
คุณพ่อเรียวตะ - ผู้มีชีวิตสมบูรณ์แบบ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
คุณแม่มิโดริ - แม่บ้านญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ
หนูเคตะ - ลูกชายที่พยายามเดินตามคุณพ่อ เป็นให้ได้อย่างที่คุณพ่ออยากให้เป็น เล่นเปียโนทั้งที่ไม่ชอบเพราะอยากให้คุณพ่อชมว่าเก่ง
คุณพ่อไซคิ - ตอนแรกเราไม่ชอบเอามากๆ เพราะเริ่มมาก็พูดถึงแต่เรื่องเงินเรื่องชดใช้ค่าเสียหายแต่ความน่ารักของเค้าก็ออกมาเรื่อยๆจนทำให้เราหลงรักได้เลยค่ะ
คุณแม่ยูคาริ - เป็นผู้หญิงที่แมนมากๆเลยค่ะ
หนูริวเซ - เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาหน้าตาเกเร แต่ทำให้เราโกรธไม่ลงเลยค่ะ ชอบเวลาน้องพูดว่า โอ้มายก็อด!!
นอกจากตัวละครหลักแล้วตัวละครเสริมทุกตัวล้วนมีความหมายมีความสำคัญทั้งนั้น...
ทั้งหัวหน้าของคุณพ่อเรียวตะ พ่อกับแม่เลี้ยงของเรียวตะ พยาบาลที่สลับตัวเด็ก ลูกเลี้ยงของพยาบาล
ทุกคนโผล่มาแล้วให้อะไรกับหนังกับตัวละครมากๆ
ฉากที่ประทับใจก็มีอยู่เยอะมากกกกกกกกกกกหนังเรื่องที่ภาพสวยฉากสวย ไม่พยายามสรรสร้างฉากขึ้นมาหลอกๆแต่ทุกฉากดูเข้ากับไปหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเริ่มน้ำตาคลอๆตั้งแต่ 10 นาทีแรกเลยค่ะ ฉากที่เคตะจับมือคุณพ่อกับคุณแม่มาถูๆกันแล้วบอกว่าใกล้กันๆ
(ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองมั๊ย เหมือนเคตะจะสื่อประมาณว่าคุณพ่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดเหมือนคุณแม่แต่เราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง)
ฉากไปแคมป์แล้วคุณพ่อเรียวตะคุยกับเคตะว่าครอบครัวนั้นเค้ารักเคตะมากเลยนะ แล้วเคตะก็ถามคุณพ่อว่ามากกว่าคุณพ่ออีกหรอ?
(ฉากนี้เราจุกแทนคุณพ่อ ร้องไห้แทนเคตะที่คุณพ่อบอกว่าใช่มากกว่า)
ฉากที่คุณพ่อเรียวตะบอกเคตะว่าให้ไปอยู่กับบ้านนู้นเพราะมันเป็นภารกิจแล้วเคตะถามว่า ภารกิจจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่
(ฉากนี้น้องหน้าตาไม่รู้อะไรแต่ดูเหงามากๆค่ะ)
ฉากคุณแม่เก็บของๆเคตะลงกระเป๋าจนหมดไม่เหลือแม้แต่รูปซักใบ
(เราแบบ...ไม่นะอย่าเอาของน้องไป ฮรืออออออออออ)
ฉากที่คุณพ่อเรียวตะนอนอยู่ที่โซฟาแล้วตื่นมาควานไปเจอดอกกุหลาบพังๆที่เคตะทำให้ แล้วก็พยายามควานหาส่วนที่เหลือ
(ถึงกับปาดน้ำตาเลยค่ะ เพราะว่าเหมือนจะเป็นของอย่างเดียวของเคตะที่เหลืออยู่ที่บ้าน)
ฉากที่คุณแม่บอกคุณพ่อว่า เริ่มจะรักริวเซขึ้นมาแล้วแต่ก็รู้สึกเหมือนทรยศเคตะ
(เราก็คิดแบบนี้เลยค่ะทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่เรากลับรู้สึกว่าหนูเคตะกำลังถูกทรยศ)
ฉากที่คุณพ่อเปิดกล้องดูรูปไปเรื่อยๆแล้วเจอรูปตัวเองที่เคตะเป็นคนถ่าย...
(ฉากนี้ทั้งจุก ร้องไห้ไปพร้อมๆกัน เหมือนกับเคตะเค้าเฝ้ามองพ่อของตัวเองตลอดเวลา)
ฉากคุณพ่อวิ่งไปง้อเคตะตอนจบคำพูดของคุณพ่อทุกๆคำย่งตอนที่บอกว่า ปาป๊าไม่ใช่พ่อของเคตะก็จริง แต่ก็เป็นปาป๊าของเคตะมาตั้ง 6 ปี
(ฉากนี้เราเอาใจช่วยคุณพ่อมากๆ เคตะวิ่งมาหาคุณพ่อเต๊อะ)
สุดท้ายแล้วจริงๆค่ะ...
หนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดูหนังเงียบๆ เดินไปเรื่อยๆ ติดจะเฉื่อยๆนิดนึง หลายฉากที่คนดูต้องเอาไปคิดเอาเอง
แต่หนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่าที่แสดงออกมา แฝงอะไรเอาไว้หลายๆอย่างจริงๆค่ะ เป็น 2ชม.ที่ได้อะไรมากกว่าการดูหนัง
ปล.รู้รึเปล่าว่าสไปเดอร์แมน จริงๆแล้วเป็นแมงมุม
Like Father'Like Son ตั้งกระทู้มาอวยโดยเฉพาะ...(ช้าไปขอโทษทีค่ะ) *มีสปอย
วันนี้พึ่งจะมีเวลาได้ไปดูเรื่องนี้ค่ะ...เห็นชื่อผู้กำกับก็นึกถึง Nobody Knows เรียกน้ำตาไปมากเลยค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆสำหรับ Like Father Like Son
หนังไม่พยายามยัดเยียดฉากดราม่าให้น้ำตาไหลฟูมฟาย แต่มาทีละนิดๆให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละคร
ให้เราได้เรียนรู้นิสัยของตัวละครไปเรื่อยๆ
คุณพ่อเรียวตะ - ผู้มีชีวิตสมบูรณ์แบบ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
คุณแม่มิโดริ - แม่บ้านญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ
หนูเคตะ - ลูกชายที่พยายามเดินตามคุณพ่อ เป็นให้ได้อย่างที่คุณพ่ออยากให้เป็น เล่นเปียโนทั้งที่ไม่ชอบเพราะอยากให้คุณพ่อชมว่าเก่ง
คุณพ่อไซคิ - ตอนแรกเราไม่ชอบเอามากๆ เพราะเริ่มมาก็พูดถึงแต่เรื่องเงินเรื่องชดใช้ค่าเสียหายแต่ความน่ารักของเค้าก็ออกมาเรื่อยๆจนทำให้เราหลงรักได้เลยค่ะ
คุณแม่ยูคาริ - เป็นผู้หญิงที่แมนมากๆเลยค่ะ
หนูริวเซ - เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาหน้าตาเกเร แต่ทำให้เราโกรธไม่ลงเลยค่ะ ชอบเวลาน้องพูดว่า โอ้มายก็อด!!
นอกจากตัวละครหลักแล้วตัวละครเสริมทุกตัวล้วนมีความหมายมีความสำคัญทั้งนั้น...
ทั้งหัวหน้าของคุณพ่อเรียวตะ พ่อกับแม่เลี้ยงของเรียวตะ พยาบาลที่สลับตัวเด็ก ลูกเลี้ยงของพยาบาล
ทุกคนโผล่มาแล้วให้อะไรกับหนังกับตัวละครมากๆ
ฉากที่ประทับใจก็มีอยู่เยอะมากกกกกกกกกกกหนังเรื่องที่ภาพสวยฉากสวย ไม่พยายามสรรสร้างฉากขึ้นมาหลอกๆแต่ทุกฉากดูเข้ากับไปหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายแล้วจริงๆค่ะ...
หนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดูหนังเงียบๆ เดินไปเรื่อยๆ ติดจะเฉื่อยๆนิดนึง หลายฉากที่คนดูต้องเอาไปคิดเอาเอง
แต่หนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่าที่แสดงออกมา แฝงอะไรเอาไว้หลายๆอย่างจริงๆค่ะ เป็น 2ชม.ที่ได้อะไรมากกว่าการดูหนัง
ปล.รู้รึเปล่าว่าสไปเดอร์แมน จริงๆแล้วเป็นแมงมุม