ลาก่อน ริดซี่ที่รัก...........
จะมาเล่าประสบการณ์การผ่าตัดเอาริดซี่ออกนะคะ...โดยส่วนตัวแล้วเป็นริดซี่มานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เด็ก อาจเป็นเพราะคุณพ่อก็เป็นด้วย ก็เลยเป็นกรรมพันธุ์ มาบ้าง...ท้องผูกบ้าง ถ่ายเป็นเลือดตั้งแต่เด็กจนโต อยู่กับริดซี่มานาน จนคิดๆ ดูแล้วว่า วันนึงคงต้องได้ผ่าตัดเอามันออกแน่นอน......และแล้ววันนี้ก็มาถึงค่ะ
วันที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอ เพราะเนื่องจากว่า มันมีอาการมาได้ประมาณสองเดือนแล้วค่ะ ก็แอบกังวลอยู่ คิดว่า เดี๋ยวมันคงยุบไปเองเมือนคราวก่อน........แต่รอบนี้คิดผิดค่ะ !! 55555++ มันอยู่นาน อดทนและเจริญเติบโตดีมาก ขนาดท้องไม่ผูกนะคะ ถ่ายทีไร ไม่ต้องเบ่งมากมันก็ออกมายิ้มให้ค่ะ (คิดในใจเอาแล้วสิ ตรู..) ทำไงดี เลยตัดสินใจไปร้านขายยาก่อนค่ะ หาซื้อยามากิน ได้มาสองชนิด จากสองร้าน แต่กินทีละร้านนะคะ....ทดลองกินชนิดละ สองสัปดาห์ ...เมื่อเวลาผ่านไป มันไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ..มิหนำซ้ำ ตอนคลำๆ ดูยังพบว่า มันมีหัวเพิ่มขึ้นมาอีก !!! เวรกรรมอะไรของช้านนน............T___T
ลองมานั่งทบทวนดู ว่าจะรักษากับริดซี่ของตัวเองยังไงอยู่สองสามวันค่ะ ..กลัวการผ่าตัดมาก ...เรื่องอายนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไม่มียางอายเหลือแล้ว 5555++ ไปหาคุณหมอเลยค่ะ ศัลยแพทย์เท่านั้นที่ช้านปรารถนา..... คุณหมอ เจ้าประจำค่ะ ออกตรวจวัน อังคารกับพฤหัส เท่านั้น ส่วน จ พุธ ศุกร์ ก็มีค่ะ แต่เป็นคุณหมอผู้ชาย 555++ แต่แอบไปเสียเที่ยวค่ะ คุณหมอลางาน ไปเนปาล เฮ้อออ เศร้าใจมาก...ริดซี่มีกรรม ....อิอิ เลยตัดสินใจกลับบ้าน หาหนทางอื่นรอคุณหมอไปพลางๆก่อนค่ะ โดยการหาข้อมูลจากคนรู้จัก เพื่อนๆ รวมถึงพี่เกิ้ล ของเราด้วย....เห็นมีสมุนไพรอยู่ตัวนึง ที่ชื่อว่าเพชรสังฆาต ใช้บรรเทาอาการริดสีดวงทวารได้....เลยลองเสี่ยงดู อีกสักครั้ง ไหน ก็ไม่มีไรจะเสียแล้ว 555++ ไปตัดสินใจซื้อมากินค่ะ กระปุกละ 70 เม็ด 140 บาท กินวันสามเม็ด หลังอาหาร...ขอไม่บอกชื่อยี่ห้อนะคะ เดี๋ยวจะโดนเรียกเก็บค่าโฆษณา อิอิ ... เล่าเรื่องริดซี่ต่อค่ะ กินได้สองสามกระปุก ก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ เหมือนจะรู้สึกว่ามันหายไป ยุบลง (เอ๊ะ รึเราคิดไปเอง).......แต่มันไม่เจ็บจริงๆนะคะ แต่พอถ่าย มันก็ยังแอบออกมาเยาะเย้ยเราอยู่ดี.........ชิชิ. อดทนทรหดมากนะนังริดซี่ !!
พอถึงวันที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอค่ะ ดีใจมาก เหมือนพระมาโปรด เจอคุณหมอ แล้ว...เวลาที่เราป่วย เราไม่สบาย เจอหมอ เจ้าประจำที่เราไว้ใจ นี่มัน มีความสุข รู้สึก เหมือนพระมาโปรดจริงๆนะคะ...อิอิ (โอเวอร์ไปนะเรา )......ศัลยแพทย์มือหนึ่งเมืองสามหมอก ประสบการณ์การผ่าตัดนานมากกว่า 20 ปี .. เข้าห้องตรวจปุ๊บ ปิดประตู ไม่พูดพร่ำทำเพลงพี่เบิร์ดอะไร (เกี่ยวไรกันเนี่ย !) ถอดกางเกงขึ้นเตียง นอนตะแคงรอเลยค่ะ คุณหมอเอานิ้วทะลวงเข้าไปกวาดๆ ในรู อยู่หลายรอบ พร้อมกับสอบถามอาการ คุณหมอใส่เครื่องมือตรวจริดซี่ ที่เป็นเหมือนกระบอกลงไปส่องดู ...สักพัก ก็ตรวจเสร็จ ...คุณหมอวินิจฉัยว่า ไม่น่าใช่ริดซี่ (แอบคิดในใจ อ่าวแล้วตรูเปนไรเนี่ย แอบคิดว่าเปนริดซี่มาตั้งนาน ) คุณหมอ เขียนในใบประวัติ ว่าเนื้องอก !! คุณหมอ ถามว่า จะผ่าไหม รึ จะรอดูอาการไปก่อน ........ไม่ลงไม่รอแล้วค่ะ ผ่าเลยค่ะ คุณหมอเลยบอกว่า งั้น วันที่ สองนะ (เราไปหาคุณหมอวันที่ 28 พ.ย.)...เร็วไปไหมคะหมอ ..คิดไปคิดมา ถามคุณหมอว่า มีคิววันอื่นอีกไหมคะ หมอตอบว่า งั้นวันที่ หก นะ...โอเคค่ะ วันที่หก ก็ได้ค่ะ ...คุณหมอเขียนใบออเดอร์ผ่าตัด พร้อมใบนัดให้ไปหาพยาบาลหน้าห้องตรวจ(พอเดินออกมาจากห้องตรวจ แอบคิดในใจ ตรูตัดสินใจไรไปเนี่ยยยย) รู้สึกแปลก กับการตื่นเต้นกับการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตมาก...คิดวางแผนเป็นการใหญ่ จะอยู่ยังไง เดินยังไง ที่สำคัญ ต้องลางาน อย่างน้อยสักสองอาทิตย์เพื่อพักฟื้น แล้วจะบอกที่ทำงานว่าลาไปผ่าริดซี่เนี่ยนะ 555++ โอ้ววววว ...(อายตั้งแต่ยื่นใบนัดยันลางานเลย 5555)
พอถึงวันที่ห้า วันพ่อพอดีเลย...ต้องมาตรวจสุขภาพเบื้องต้นค่ะ ตรวจเลือด และ X-ray เบื้องต้น เรียบร้อยพร้อมจองห้องพิเศษ ตอนหลังผ่าตัด โชคเป็นของเราค่ะ มีห้องพิเศษว่าง สองห้อง...(มันเยี่ยมมากเลยจอร์ด 555+) ยื่นเอกสารการผ่าตัด และเข้าไปดูห้องเรียบร้อยช่วงเช้า ก็กลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บเสื้อผ้ามานอนค้างที่ รพ.ค่ะ ต้องนอนค้างคืนวันที่ 5 เพื่อเข้ารับการผ่าตัดวันที่ 6 ตอนเช้าค่ะ..เข้ามา รพ. ตอนเย็นๆ ประมาณ หกโมงเย็น บรรยากาศวังเวงมากค่ะ ได้ห้องเบอร์ 17 ค่ะ
มีอาหาร จาก รพ มาให้ หนึ่งชุด เลยจัดการซัดเรียบค่ะ...55555++ อารมณ์ประมาณว่า วันนี้คงได้กินอะไร อร่อย ตามใจปากเป็นวันสุดท้าย พยายามถ่ายคืนวันที่ 5 ให้ออกค่ะ เพราะไม่งั้น พรุ่งนี้ก่อนผ่าตัดคงต้องได้สวนทวารแน่ ...เลยกินๆๆ เข้าไปเยอะมากค่ะ แล้วก็ได้ผลจริงๆ สองทุ่ม ถ่ายออกมาค่ะ...แล้วก็งดน้ำงดอาหารเลย พยาบาลเข้ามาแจ้งไว้ค่ะ.......
ลาก่อนริดซี่ที่รัก.......
จะมาเล่าประสบการณ์การผ่าตัดเอาริดซี่ออกนะคะ...โดยส่วนตัวแล้วเป็นริดซี่มานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เด็ก อาจเป็นเพราะคุณพ่อก็เป็นด้วย ก็เลยเป็นกรรมพันธุ์ มาบ้าง...ท้องผูกบ้าง ถ่ายเป็นเลือดตั้งแต่เด็กจนโต อยู่กับริดซี่มานาน จนคิดๆ ดูแล้วว่า วันนึงคงต้องได้ผ่าตัดเอามันออกแน่นอน......และแล้ววันนี้ก็มาถึงค่ะ
วันที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอ เพราะเนื่องจากว่า มันมีอาการมาได้ประมาณสองเดือนแล้วค่ะ ก็แอบกังวลอยู่ คิดว่า เดี๋ยวมันคงยุบไปเองเมือนคราวก่อน........แต่รอบนี้คิดผิดค่ะ !! 55555++ มันอยู่นาน อดทนและเจริญเติบโตดีมาก ขนาดท้องไม่ผูกนะคะ ถ่ายทีไร ไม่ต้องเบ่งมากมันก็ออกมายิ้มให้ค่ะ (คิดในใจเอาแล้วสิ ตรู..) ทำไงดี เลยตัดสินใจไปร้านขายยาก่อนค่ะ หาซื้อยามากิน ได้มาสองชนิด จากสองร้าน แต่กินทีละร้านนะคะ....ทดลองกินชนิดละ สองสัปดาห์ ...เมื่อเวลาผ่านไป มันไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ..มิหนำซ้ำ ตอนคลำๆ ดูยังพบว่า มันมีหัวเพิ่มขึ้นมาอีก !!! เวรกรรมอะไรของช้านนน............T___T
ลองมานั่งทบทวนดู ว่าจะรักษากับริดซี่ของตัวเองยังไงอยู่สองสามวันค่ะ ..กลัวการผ่าตัดมาก ...เรื่องอายนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไม่มียางอายเหลือแล้ว 5555++ ไปหาคุณหมอเลยค่ะ ศัลยแพทย์เท่านั้นที่ช้านปรารถนา..... คุณหมอ เจ้าประจำค่ะ ออกตรวจวัน อังคารกับพฤหัส เท่านั้น ส่วน จ พุธ ศุกร์ ก็มีค่ะ แต่เป็นคุณหมอผู้ชาย 555++ แต่แอบไปเสียเที่ยวค่ะ คุณหมอลางาน ไปเนปาล เฮ้อออ เศร้าใจมาก...ริดซี่มีกรรม ....อิอิ เลยตัดสินใจกลับบ้าน หาหนทางอื่นรอคุณหมอไปพลางๆก่อนค่ะ โดยการหาข้อมูลจากคนรู้จัก เพื่อนๆ รวมถึงพี่เกิ้ล ของเราด้วย....เห็นมีสมุนไพรอยู่ตัวนึง ที่ชื่อว่าเพชรสังฆาต ใช้บรรเทาอาการริดสีดวงทวารได้....เลยลองเสี่ยงดู อีกสักครั้ง ไหน ก็ไม่มีไรจะเสียแล้ว 555++ ไปตัดสินใจซื้อมากินค่ะ กระปุกละ 70 เม็ด 140 บาท กินวันสามเม็ด หลังอาหาร...ขอไม่บอกชื่อยี่ห้อนะคะ เดี๋ยวจะโดนเรียกเก็บค่าโฆษณา อิอิ ... เล่าเรื่องริดซี่ต่อค่ะ กินได้สองสามกระปุก ก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ เหมือนจะรู้สึกว่ามันหายไป ยุบลง (เอ๊ะ รึเราคิดไปเอง).......แต่มันไม่เจ็บจริงๆนะคะ แต่พอถ่าย มันก็ยังแอบออกมาเยาะเย้ยเราอยู่ดี.........ชิชิ. อดทนทรหดมากนะนังริดซี่ !!
พอถึงวันที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอค่ะ ดีใจมาก เหมือนพระมาโปรด เจอคุณหมอ แล้ว...เวลาที่เราป่วย เราไม่สบาย เจอหมอ เจ้าประจำที่เราไว้ใจ นี่มัน มีความสุข รู้สึก เหมือนพระมาโปรดจริงๆนะคะ...อิอิ (โอเวอร์ไปนะเรา )......ศัลยแพทย์มือหนึ่งเมืองสามหมอก ประสบการณ์การผ่าตัดนานมากกว่า 20 ปี .. เข้าห้องตรวจปุ๊บ ปิดประตู ไม่พูดพร่ำทำเพลงพี่เบิร์ดอะไร (เกี่ยวไรกันเนี่ย !) ถอดกางเกงขึ้นเตียง นอนตะแคงรอเลยค่ะ คุณหมอเอานิ้วทะลวงเข้าไปกวาดๆ ในรู อยู่หลายรอบ พร้อมกับสอบถามอาการ คุณหมอใส่เครื่องมือตรวจริดซี่ ที่เป็นเหมือนกระบอกลงไปส่องดู ...สักพัก ก็ตรวจเสร็จ ...คุณหมอวินิจฉัยว่า ไม่น่าใช่ริดซี่ (แอบคิดในใจ อ่าวแล้วตรูเปนไรเนี่ย แอบคิดว่าเปนริดซี่มาตั้งนาน ) คุณหมอ เขียนในใบประวัติ ว่าเนื้องอก !! คุณหมอ ถามว่า จะผ่าไหม รึ จะรอดูอาการไปก่อน ........ไม่ลงไม่รอแล้วค่ะ ผ่าเลยค่ะ คุณหมอเลยบอกว่า งั้น วันที่ สองนะ (เราไปหาคุณหมอวันที่ 28 พ.ย.)...เร็วไปไหมคะหมอ ..คิดไปคิดมา ถามคุณหมอว่า มีคิววันอื่นอีกไหมคะ หมอตอบว่า งั้นวันที่ หก นะ...โอเคค่ะ วันที่หก ก็ได้ค่ะ ...คุณหมอเขียนใบออเดอร์ผ่าตัด พร้อมใบนัดให้ไปหาพยาบาลหน้าห้องตรวจ(พอเดินออกมาจากห้องตรวจ แอบคิดในใจ ตรูตัดสินใจไรไปเนี่ยยยย) รู้สึกแปลก กับการตื่นเต้นกับการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตมาก...คิดวางแผนเป็นการใหญ่ จะอยู่ยังไง เดินยังไง ที่สำคัญ ต้องลางาน อย่างน้อยสักสองอาทิตย์เพื่อพักฟื้น แล้วจะบอกที่ทำงานว่าลาไปผ่าริดซี่เนี่ยนะ 555++ โอ้ววววว ...(อายตั้งแต่ยื่นใบนัดยันลางานเลย 5555)
พอถึงวันที่ห้า วันพ่อพอดีเลย...ต้องมาตรวจสุขภาพเบื้องต้นค่ะ ตรวจเลือด และ X-ray เบื้องต้น เรียบร้อยพร้อมจองห้องพิเศษ ตอนหลังผ่าตัด โชคเป็นของเราค่ะ มีห้องพิเศษว่าง สองห้อง...(มันเยี่ยมมากเลยจอร์ด 555+) ยื่นเอกสารการผ่าตัด และเข้าไปดูห้องเรียบร้อยช่วงเช้า ก็กลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บเสื้อผ้ามานอนค้างที่ รพ.ค่ะ ต้องนอนค้างคืนวันที่ 5 เพื่อเข้ารับการผ่าตัดวันที่ 6 ตอนเช้าค่ะ..เข้ามา รพ. ตอนเย็นๆ ประมาณ หกโมงเย็น บรรยากาศวังเวงมากค่ะ ได้ห้องเบอร์ 17 ค่ะ
มีอาหาร จาก รพ มาให้ หนึ่งชุด เลยจัดการซัดเรียบค่ะ...55555++ อารมณ์ประมาณว่า วันนี้คงได้กินอะไร อร่อย ตามใจปากเป็นวันสุดท้าย พยายามถ่ายคืนวันที่ 5 ให้ออกค่ะ เพราะไม่งั้น พรุ่งนี้ก่อนผ่าตัดคงต้องได้สวนทวารแน่ ...เลยกินๆๆ เข้าไปเยอะมากค่ะ แล้วก็ได้ผลจริงๆ สองทุ่ม ถ่ายออกมาค่ะ...แล้วก็งดน้ำงดอาหารเลย พยาบาลเข้ามาแจ้งไว้ค่ะ.......