วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งประสบมาสดๆร้อนๆค่ะ คือว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ย.57 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา ได้ไปผ่าคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่แพงที่สุดในเชียงราย ผลการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี คุณหมอบอกบอกลูกชายคลอดออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ เราดีใจมากค่ะ หลังจากคลอดยังไม่มีน้ำนม ทางโรงบาลจึงเอาลูกไปดูแล และเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าเลือกโรงพยาบาลผิดและเสียใจเริ่มขึ้นหลังจาก 10 ชั่วโมงนับจากที่ลูกคลอดออกมาค่ะ พยาบาลได้พาลูกมาให้ที่ห้องและบอกว่าให้นม(นมวัวชง)ลูกกินไปแล้วจำนวน 1 ออนซ์(30 ซีซี) ตอนนั้นคิดว่าลูกกินน้อยเพราะพยาบาลพูดว่า "กินไปแค่ 1 ออนซ์ค่ะ น้องกินไม่ค่อยเก่ง" เราเลยเข้าใจว่า 1 ออนซ์คือน้อยไปสำหรับเด็ก เค้าจะให้กินทุก 3 ชั่วโมง ครั้ะ 1ออนซ์ วันนี้ได้ลองศึกษาดู พบว่าเด็กแรกเกิด - 2 วัน มีความจุของกระเพาะเพีง 5-7ซีซี เท่านั้น
และเราเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำไมลูกถึงแหวะนมโดยตลอด เพราะนม 1 ออนซ์ (30ซีซี) ท้องลูกมีความจุ 5-7 ซีซี ให้กินมากกว่าความจุในกระเพาะถึง 4 เท่า มันก็ต้องมีอ้วกมีแหวะแน่นอน และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรากังวล เราจึงได้แจ้งให้พยาบาลทราบ ว่าเด็กแหวะนมโดยตลอด ตอนนั้นลูกมีอายุเพียง 23 ชั่วโมง (22 ก.ย.57 เวลา 22.00 น. กว่า)พยาบาลจึงมาพาลูกไป จากนั้นไม่ถึง 10 นาที พยาบาลโทรมาบอกว่า"คุณหมอมาตรวจพบว่าลูกท้องอืดมาก มีลมในท้อง อาการหนักมากๆ" ยิ่งทำให้เป็นกังวลมาก พยายามศึกษาจากเน็ต พบว่าเด็กแรกเกิดอวัยวะภายในยังทำงานไม่สมบูรณ์ และนมวัวย่อยยากกว่านมแม่ ฉันจึงพยายามปั๊มนมจนนมระบมไปหมด เพื่อจะได้ให้ลูกได้กินนมแม่ให้เร็วที่สุด จากนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมงสามีได้ลงไปเพื่อจะคุยกับหมอ พบว่าหมอกลับบ้านแล้ว ลูกอยู่ในความควบคุมของพยาบาล กว่าหมอจะมาอีกทีก็ตอน 8โมง ของวันรุ่งขึ้น สามีบอกว่าเห็นลูกถูกแทงเข็มใส่สายน้ำเกลือที่มือ มีสายยางสอดปากเพื่อระบายลมในท้องและเช็คดูนมที่ค้างในกระเพาะ น่าสงสารลูกมาก (น้ำตาจะไหล) แต่ที่เห็นลูกนอนหลับสนิท สีผิว หน้าตาไม่เหมือนเด็กป่วยเลย. ในวันรุ่งขึ้นรอคุณหมอมาตรวจลูกและมาแจ้งอาการลูก แต่หมอไม่มาสักที รอ รอ รอ หมอมาบ่ายสอง (ตกลงลูกชั้นอาการเป็นไงบ้างเนี่ย) มาถึงคุณหมอ...ไม่พูดชื่อดีกว่าเนอะ คือคุณหมอเข้ามาบอกว่าลูกมีอาการท้องอืดมาก กระเพาะไม่ย่อยน้ำนม แหวะนม อาจลำใส้อักเสบ อาจลำใส้อุดตัน อาจ ลำใส้เน่า เจาะเลือดลูกพบว่าเม็ดเลือดขาวสูงมาก (ปกติเด็กแรกเกิดควรมี 10,000 แต่ของลูกมี 21,000 ) มีความผิดปกติในกระเพาะแน่นอน กระเพาะอาจจะเน่า ต้องให้ยาและขอดูอาการที่โรงพยาบาลสัก 1 อาทิตย์ (รายจ่าย วันละ 10,000 กว่าบาท) ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องเงิน ขอแค่ลูกหายดีแข็งแรงเป็นพอ โดยให้งดนม ให้น้ำเกลืออย่างเดียว จะลองให้นมอีกครั้ง ตอน 6 โมงเช้า ของวันต่อไป วันนั้นมีคนมาเยี่ยมหลายคนแต่เจอแต่แม่ ลูกน้อยต้องขอดูผ่านกระจก ใครๆก้อบอกว่าสีหน้าอาการลูกไม่เหมือนเด็กป่วย ผิวมีสีแดงอมชมพู ปากแดง นอนหลับสนิทไม่มีอาการเหมือนท้องอักเสบแต่อย่างใด เพราะปกติถ้าท้องอักเสบหรือท้องเน่า เด็กอายุแค่ 2 วัน จะทนได้เหรอ คงต้องร้องงอแงตลอดแน่ จึงได้โทรถามพี่สาวของสามีที่ทำงานโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เป็นพยาบาลเกี่ยวกับเด็กแรกเกิด บอกรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับฟังมาจากคุณหมอคนนั้น และรายละเอียดอาการของลูก การดูแลของพยาบาลต่างๆ ให้พี่เค้าทราบ พี่เค้าจึงไปสอบถามคุณหมอเด็กให้ และแนะนำให้ย้ายลูกมาดูอาการที่โรงบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จะได้ดูแลหลานให้ สามีจึงตัดสินใจแจ้งขอย้ายลูกไปเชียงรายประชานุเคราะห์ ในวันนั้นเลย จากนั้นได้มีพยาบาลคนนึง อายุมากพอควร ท่าทางดี น่าเชื่อถือ เข้ามาดูลูก ตอนนั้นเราและสามีลงไปเยี่ยมลูกพอดี เข้ามาถามว่าจะย้ายเหรอ ย้ายทำไม ให้อยู่ดูอาการที่นี่แหละ เพราะดูแล้วอาการเด็กไม่หนักมาก ให้ยาและดูอาการหน่อยก็ดีขึ้น ไม่ต้องย้ายหรอก (ตกลงยังไงแน่หมอบอกอาการลูกหนักมาก พอบอกจะย้าย พยาบาลบอกไม่เป็นไรมาก น่าจะหายทัน ออกโรงพยาบาลพร้อมแม่ในวันที่ 24 ก.ย.) อีกแค่ 1 วัน เราและสามีก้อเลยอยู่ต่อ (เพราะว่าถ้าย้ายก็ย้ายได้แค่ลูก เราต้องนอนที่โรงพยาบาลศรีบุรินทร์เพื่อดูอาการตัวเองอีกวันนึง เลยขอสามีว่าให้ลูกอยู่ใกล้ๆจะได้ลงมาเยี่ยมได้). พอเวลา 3 ทุ่ม ของวันนั้น เราพยายามปั้มนม ดีใจมากปั้มได้ 1 ออนซ์ ลูกจะได้กินนมเราสักทีในมื้อแรก 6 โมงเช้า ที่หมอจะทดลองให้กินนมอีกครั้ง จึงให้สามีเอานมไปฝากพยาบาลไว้ ตกใจเลยพยาบาลบอกว่าหมอสั่งให้ลองกินนมตอน 6 โมงเย็นของวันนี้เลย โดยก้อยังปัอนนมวัว เหมือนเดิม ให้มา 2 มื้อละ (งงเลย แล้วนี่ตกลงเดี๋ยวก้อมาบอกอีกว่าเด็กท้องอืด นมไม่ย่อย )ฝากนมไว้ไม่รู้ว่าจะเอานมแม่ให้กินรึเปล่า รึว่าทิ้ง ถ้าทำอย่างนั้นขอบอก เ-ี้ยมาก กว่าจะปั้มได้น้ำตาไหลไม่รู้กี่รอบ เจ็บมาก เพื่อจะให้ลูกได้กินนมแม่ และก้อเป็นดังที่คิดไว้ในวันที่ครบกำหนดต้องออกจากโรงบาล 24 ก.ย. พยาบาลบอกเด็กท้องอืด แหวะนม อาการแย่ ต้องให้รักษาต่อ. แต่เรากับสามีตัดสินใจขอรีเฟอร์ ย้ายลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มาถึงโรงพยาบาลเชียงรายฯ หมอรับตัว ตรวจอาการ หมอบอกไม่เห็นเด็กจะเป็นอะไรเลย แต่ติดเหลืองนิดนึง หมอดูเอกสารการส่งตัวจากโรงพยาบาลศรีบุรินทร์ ถึงกับงง เพราะลงรายการเกินจริงท้องอืด ท้องอักเสบ ฯ เราก็สอบถามอาการลูกจากคุณหมอ เพราะห่วงลูก หมอบอกว่าบอกไม่ได้ เพราะอาการเด็กกับเอกสารที่ได้รับมามันแบบ..........เออ......เอาเป็นว่าขอตรวจร่างกายและดูอาการเด็กสักวันนึง ข้อสงสัยที่สอง ตกลงยังไง ทำไมอาการป่วยของลูก อยู่โรงบาลนึงอาการนึง พอมาอีกโรงบาลนึงก็อาการนึง ตกลงยังไง. และแล้วก็ได้คำตอบ รุ่งขึ้นพี่สาวที่เป็นพยาบาลโทรมาบอกว่า ดีใจด้วยนะหลานร่างกายแข็งแรงดีมาก แต่มีเหลืองนิดนึง แต่ยังให้กลับไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลที่แพงที่สุดได้ฉีดยาฆ่าเชื้อไปแล้ว ซึ่งยาดังกล่าวถ้าฉีดแล้วต้องฉีดให้ครบ 1 อาทิตย์ สุดท้ายลูกไม่ได้ป่วยเลย สุดท้ายนี้เราก้อไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกเราบ้าง อาจจะป่วยจริง แต่เป็นเด็กที่แข็งแรง จึงหายเร็วใช้เวลาเพียง 1 วัน ก้อหายจากโรคทุกโรค แต่เราและสามีลงความเห็นกันว่าจะไม่ไปเหยียบโรงพยาบาลแห่งนี้อีก. คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายแนะนำให้หาข้อมูลโรงพยาบาลก่อน จะได้ไม่เสียใจอย่างกับครอบครัวเรา ประสบการณ์เล็กๆ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่มาก (แก้วตาดวงใจของแม่กับพ่อ) โรงพยาบาล...คุณหมอ..... ขอร้องอย่าให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกเลย สงสารเด็ก พ่อแม่เด็กเถอะ
เลือกโรงพยาบาลผิด โคตรเสียใจ