เอาประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน ไม่ว่าจะรวย จะจน จะฉลาด หรือโง่ 1 เสียง คือ 1 สิทธิ์ เหมือนกัน
จะมาเปรียบเทียบ เชิงปริมาณ กับเชิงคุณภาพไม่ได้ วิธีการพูดมันก็สื่อได้อยู่แล้วว่า กำลังจะแสดงให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เสียงเพียงแค่ 3 แสนอาจจะดีกว่า เสียง 15 ล้านก็ได้
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ โดยไม่รักษากติกาของระบอบประชาธิปไตย ที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการออกเสียงเหมือนกัน
การนำเสนอเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ เราต้องยอมรับครับ คุณไม่มีสิทธิ์จะบอกว่า เป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เสียงส่วนน้อยอาจถูกก็ได้
ประชาธิปไตยมันตัองใช้เวลาในการพัฒนา มันถึงต้องมีกรอบระยะเวลา 4 ปี ในการเรียนรู้ว่ารัฐบาล หรือผู้นำที่เราเลือกคิดถูกหรือผิด ถ้าคิดผิด เรามีสิทธิ์เลือกคนใหม่ มีรัฐบาลไหนที่บริหารงานไม่มีผิดพลาดบ้าง เป็นทุกรัฐบาล
ถ้าเอะอะไม่ชอบก็ล้มรัฐบาล ไม่เป็นไปตามกรอบเวลา ประเทศไม่มีทางพัฒนา เพราะค่อยแต่ขัดแข้งขัดขากัน
คุณรอสิ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบคุณก็นำเสนอขัอเท็จจริง พอเลือกตั้งใหม่คุณก็นำเสนอสิ่งที่ดีกว่าให้ทุกคนตัดสินใจ แล้วรอเวลา ดูผลงาน มันต้องมีรอบ มีกรอบเวลาของมัน
อย่าเอาการซื้อเสียงมาดูถูกคะแนนเสียงครับ ทุกพรรคมีการซื้อเสียงหมด ประชาธิปไตยประชาชนต้องมีการเรียนรู้เองว่า การรับเงินมาโดยไม่ดูตัวบุคคล ดูนโยบายที่ผ่านมา ถ้าบริหารงานผิดพลาด เขาก็จะไม่เลือกอีกคราวหน้า เพราะมันไม่คุ้มกับเงินที่เขารับมา
หรือคิดว่ายังไงครับ
ประชาธิปไตย ปริมาณ หรือ คุณภาพดี
จะมาเปรียบเทียบ เชิงปริมาณ กับเชิงคุณภาพไม่ได้ วิธีการพูดมันก็สื่อได้อยู่แล้วว่า กำลังจะแสดงให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เสียงเพียงแค่ 3 แสนอาจจะดีกว่า เสียง 15 ล้านก็ได้
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ โดยไม่รักษากติกาของระบอบประชาธิปไตย ที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการออกเสียงเหมือนกัน
การนำเสนอเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ เราต้องยอมรับครับ คุณไม่มีสิทธิ์จะบอกว่า เป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เสียงส่วนน้อยอาจถูกก็ได้
ประชาธิปไตยมันตัองใช้เวลาในการพัฒนา มันถึงต้องมีกรอบระยะเวลา 4 ปี ในการเรียนรู้ว่ารัฐบาล หรือผู้นำที่เราเลือกคิดถูกหรือผิด ถ้าคิดผิด เรามีสิทธิ์เลือกคนใหม่ มีรัฐบาลไหนที่บริหารงานไม่มีผิดพลาดบ้าง เป็นทุกรัฐบาล
ถ้าเอะอะไม่ชอบก็ล้มรัฐบาล ไม่เป็นไปตามกรอบเวลา ประเทศไม่มีทางพัฒนา เพราะค่อยแต่ขัดแข้งขัดขากัน
คุณรอสิ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบคุณก็นำเสนอขัอเท็จจริง พอเลือกตั้งใหม่คุณก็นำเสนอสิ่งที่ดีกว่าให้ทุกคนตัดสินใจ แล้วรอเวลา ดูผลงาน มันต้องมีรอบ มีกรอบเวลาของมัน
อย่าเอาการซื้อเสียงมาดูถูกคะแนนเสียงครับ ทุกพรรคมีการซื้อเสียงหมด ประชาธิปไตยประชาชนต้องมีการเรียนรู้เองว่า การรับเงินมาโดยไม่ดูตัวบุคคล ดูนโยบายที่ผ่านมา ถ้าบริหารงานผิดพลาด เขาก็จะไม่เลือกอีกคราวหน้า เพราะมันไม่คุ้มกับเงินที่เขารับมา
หรือคิดว่ายังไงครับ