การที่ท่านพุทธทาสกล่าวหาว่าพระพุทธโฆษาจารย์เอาแนวคิดของลัทธิพราหมณ์มา นั้น เป็นความเห็นผิดของท่านพุทธทาสเอง

...ในการบรรยายของท่านพุทธทาส ที่มีตอนหนึ่งกล่าวหาพระพุทธโฆษาจารย์  (ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียงอรรถกถา และแปลพระไตรปิฏกจากภาษาสิงหลกลับมาเป็นบาลี) ว่า เพราะท่านพระพุทธโฆษาจารย์เคยเป็นพราหมณ์มาก่อนบวช   จึงติดเอาแนวความคิดลองลัทธิพราหมณ์หลายๆอย่างมาปะปนผสมใส่ในตำราของศาสนาพุทธ นั้น...

...การกล่าวหาแบบนี้ของท่านพุทธทาส เป็นการกล่าวหาที่ผิดอย่างยิ่ง  เพราะคงกล่าวไปตามแนวคิดที่ไม่สุขมรอบคอบของท่านพุทธทาสเอง นั่นแหละ...
...ทั้งนี้ เพราะว่า เราทราบกันอยู่แล้วตามที่ตำราระบุไว้ว่า พระพุทธโฆษาจารย์ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ๔

...ตามหลักธรรมคือ ถ้าผู้ใดบรรลุเป็นพระอริยะเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันเป็นต้นไป  ผู้นั้นจะละมิจฉาทิฏฐิผิดๆเก่าๆเดิมๆ ออกไปจากใจหมดสิ้นแล้ว  โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นพระอรหันต์ ยิ่งจะไม่มีแนวคิดผิดๆใดๆของลัทธิอื่นๆใดๆก่อนหน้านั้นหลงเหลือค้างคาในใจอีกแล้ว

...ในสมัยพุทธกาล เราก็เห็นอยู่แล้วว่า  พระภิกษุที่มาบรรลุธรรมเป็นพระอริยะเจ้าในสมัยนั้น  ท่านทั้งหมดนั้น ในอดีตก่อนจะมาเป็นพระ ท่านก็เคยเป็นผู้ถือลัทธิอื่นๆมาก่อนแล้วทั้งนั้น (ส่วนมากก็พราหมณ์ นั่นแหละ)  แต่หลังจากพวกท่านมาบรรลุธรรมในศาสนาพุทธ ท่านก็ละทิ้งแนวคิดและหลักคำสอน หรือ ทิฏฐิที่ผิดๆของศาสนาอื่นๆ เหล่านั้นไปหมดสิ้น  ...

...ดังนั้น   ก็ในเมื่อท่านพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นพระอรหันต์  แล้วท่านจะยังมีทิฏฐิเก่าๆเดิมๆของพราหมณ์เหลืออยู่ในใจอีกได้ยังไงกัน ????  และการที่ท่านจะไปเอาแนวคิดของพราหมณ์มาปะปนใส่ในหลักธรรมของศาสนาพุทธ ย่อมไม่อาจจะเป็นไปได้เลย  เพราะเหล่าบรรดานักปราชญ์ในศาสนาพุทธทั้งหลายอื่นๆ จะต่อต้าน จะไม่ยอมรับท่านเด็ดขาด  และท่านพระพุทธโฆษาจารย์ ย่อมมีความเคารพในพระรัตนตรัยอย่างยิ่ง แม้ถวายชีวิตก็คงยินยอม  แล้วท่านจะกล้าไปทำการล่วงละเมิดหลักธรรมของพระบรมศาสดา ด้วยการเอาหลักธรรมอื่นๆที่ผิดๆ มาปลอมปนใส่ลงไปได้ลงคอละหรือ????

...แต่ความจริงเรื่อง นรก สวรรค์ การเกิดใหม่ในชาติต่อๆไป  ที่ท่านพุทธทาสกล่าวหาว่า นี่เป็นแนวคิดของพราหมณ์ และถูกพระพุทธโฆษาจารย์แอบเอามาใส่สะสมปะปนกับหลักธรรมของพุทธ นั้น ..การกล่าวหาแบบนี้ของท่านพุทธทาส เป็นการกล่าวหาที่ ผิด สะเพร่า ขาดความสุขุม อย่างยิ่ง .. เพราะว่า การเกิดใหม่ในภพชาติต่างๆ  นรก สวรรค์  ผี เปรต เทวดา อะไรต่างๆเหล่านั้น เป็นความจริงของสากลโลก ซึ่งใครที่ฝึกจนได้อภิญญาย่อมสามารถรู้เห็นสิ่งเหล่านั้นได้ และมีผู้ที่ฝึกปฏิบัติจนรู้เห็นสิ่งเหล่านั้นมาเรื่อยๆ ทุกๆยุค ทุกๆสมัย  แม้ในสมัยปัจจุบันนี้ก็ตาม เอามาเปิดเผยบอกเล่ากันมาเรื่อยๆ.......ศาสนาอื่นๆ เช่น ศาสนาพราหมณ์เป็นต้น เขาก็มีคนที่ฝึกจนได้อภิญญาต่างๆมากมาย เช่น พวกฤาษี  ดาบส  นักพรตต่างๆเป็นต้น  เขาก็ย่อมเห็นได้  และเรื่องพวกนี้ พระในศาสนาพุทธยิ่งจะมีมากกว่าคนในศาสนาอื่นๆ ที่มีความสามารถไปรู้เห็นเรื่องพวกนี้ได้  เพราะในศาสนาพุทธก็เน้นการฝึกจิตเป็นหลักสำคัญของการปฏิบัติ....  ดังนั้น เมื่อไปเห็นตรงกัน ในสิ่งเดียวกัน ก็ย่อมเอามาพูดตรงกัน  ไม่ใช่ใครไปลอกเลียนของใครมา  ไม่จำเป็นเลย...ทำนองเดียวกับเรามองเห็นดวงจันทร์  พวกในป่าอะเมซอนก็สามารถเห็นดวงจันทร์เหมือนกัน  ถ้าต่างคนต่างพูดเรื่องดวงจันทร์  ก็ย่อมพูดได้ตรงกัน...ไม่ต้องไปพูดลอกเลียนกันหรอก..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่