ถามชาวพุทธครับ เรื่องวันมาฆบูชาในหนังสือพิมพ์แนวหน้า (15 กุมภาพันธ์ 2557)

การสอนกันผิด ๆ เกี่ยวกับวันมาฆบูชา



วันเสาร์นี้เป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ล่วงพ้นวันมาฆบูชามาแล้ว 1 วัน แต่เวรลงบทความมาตกเอาวันนี้ จึงจำเป็นอยู่เองที่จะต้องพูดถึงเรื่องราวของวันมาฆบูชาช้าไปวันหนึ่ง

ก็ต้องพูดกันไปเรื่อยๆทุกๆปี และปีนี้ก็จะพูดถึงการสอนกันผิดๆเกี่ยวกับวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายที่ประเทศไทยซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธศาสนาแต่มาสอนเรื่องสำคัญๆ  เกี่ยวกับพระพุทธศาสนากันอย่างผิดๆ และไม่ยอมแก้ไขกันเสียที

ปีนี้จึงต้องฝากบอกไปยังมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้พิจารณาทบทวนการสอนเรื่องวันมาฆบูชา เพื่อให้ถูกตรงตามที่ปรากฏความตามพระสูตร จะได้ไม่อับอายขายหน้าชาวพุทธในประเทศอื่น ๆ

เราสอนกันมาว่า วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่พระจันทร์เพ็ญเสวยมาฆะฤกษ์อย่างหนึ่ง เป็นวันที่พระอรหันต์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายอย่างหนึ่ง พระอรหันต์ที่มาประชุมกันนั้นเป็นพระสงฆ์สาวกที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบทให้ด้วยพระองค์เองอย่างหนึ่ง และเป็นวันที่พระบรมศาสดาทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์อย่างหนึ่ง รวมเป็นสี่ประการ

แล้วเรียกกันอย่างโก้เก๋ว่าเป็นมหาจาตุรงคสันนิบาต คือวันที่มีเหตุการณ์สำคัญยิ่งใหญ่บังเกิดขึ้นพร้อมกันในวันเดียว ซึ่งฟังแล้วก็ครึ้มอกครึ้มใจดี แต่แท้จริงเป็นเรื่องเหลวไหลไม่เป็นความจริง ไม่ใช่สิ่งสำคัญอันใด และสิ่งสำคัญอันเป็นเนื้อหาแท้จริงกลับไม่ยกย่องสรรเสริญให้มีความเด่นเป็นประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งหลาย

อันการที่พระจันทร์เสวยมาฆะฤกษ์ก็คือการที่พระจันทร์เพ็ญในกลุ่มดาวที่มีชื่อว่ามาฆะนั้นไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์อันใด ไม่มีความสำคัญใดๆเลย เป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกๆปี คือในช่วงเดือนสามหรือเดือนสี่สำหรับปีอธิกมาส จะมีช่วงหนึ่งซึ่งพระจันทร์เพ็ญและโคจรผ่านกลุ่มดาวที่มีชื่อว่ามาฆะ จึงมิได้มีความสลักสำคัญอันใดต่อพระธรรมคำสอนหรือพระพุทธศาสนาเลย

คำสอนที่ว่า พระอรหันต์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายเพราะเคยเป็นพราหมณ์มาก่อน วันนั้นเป็นวันศิวาราตรี ผู้ที่เป็นพราหมณ์มีความคุ้นเคยในการมาประชุมสังสรรค์กัน จึงมาประชุมกันตามปกติ เป็นเรื่องโกหกชนิดหน้าไม่อาย

พระอรหันต์ 1,250 รูปที่ว่านี้คืออดีตพระชฎิลสามพี่น้อง 1,000 รูป อดีตปริพาชกกลุ่มของพระโมคคัลลานะ สารีบุตร 250 รูป โดยพระสารีบุตรเป็นพระอรหันต์องค์สุดท้ายที่บรรลุพระอรหันต์ในวันเพ็ญ เดือน 3 นั้น ไม่มีรูปใดเป็นพราหมณ์มาก่อน และวันเพ็ญ เดือน 3 ของเดือนที่ 9 นับแต่ตรัสรู้นั้น ก็ไม่ใช่วันศิวาราตรีของพวกพราหมณ์

มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพึงสำรวจตรวจสอบข้อมูลต่างๆในเรื่องนี้ให้ชัดเจนก็ทำได้ไม่ยากไม่ลำบาก และจะปล่อยให้สอนกันผิดๆต่อไปทำไม อายเขาเปล่าๆ

ในส่วนที่ว่าพระอรหันต์ 1,250 รูป เป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทานั้นถูกต้อง แต่ที่ว่ามาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายนั้นผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะพระอรหันต์เหล่านั้นพำนักอยู่ที่วัดเวฬุวันอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้เดินทางมาจากไหนแบบต่างคนต่างมาแต่ประการใด ความข้อนี้ปรากฏชัดเจนในพระสูตร แต่ทำไมจึงปล่อยให้สอนผิดๆกันอยู่

เนื้อหาสาระของวันมาฆบูชาที่แท้จริงเห็นจะมีดังต่อไปนี้ และควรกำหนดใหม่ให้ถูกต้องเพื่อให้ชาวพุทธและเยาวชนทั้งหลายได้ศึกษาเรียนรู้อย่างถูกต้อง ว่าวันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร และพึงได้ประโยชน์อย่างไรในวันสำคัญนี้

ข้อแรก วันมาฆบูชาเป็นเหตุการณ์สำคัญในโพธิกาลของพุทธศาสนา เกิดขึ้นในเดือนที่ 9 หลังการตรัสรู้ และขณะนั้นมีพระอรหันต์บังเกิดขึ้นในโลก 1,340 รูป พระตถาคตเจ้าส่งไปประกาศพระธรรมวินัยในถิ่นอื่นแล้ว 2 ชุด ชุดแรก 60 รูป ชุดที่สอง 30 รูป จึงคงเหลืออยู่ 1,250 รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา นี่คือความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาที่เพียง 9 เดือนของการตรัสรู้ก็มีพระอรหันต์บังเกิดขึ้นจำนวนมาก

อยากจะแถมด้วยว่าพระอรหันต์ทั้งหมดเหล่านั้นไม่มีรูปใดจบเปรียญเก้าประโยค หรือมีสมณศักดิ์ไม่ว่าชั้นไหน ๆ แม้แต่รูปเดียว และไม่ปรากฏว่าจบการศึกษาชั้นปริญญาใดๆ เลย ซึ่งอาจเป็นปมเงื่อนแห่งการปฏิรูปการศึกษาพุทธศาสนากันใหม่

ข้อสอง เป็นวันที่พระตถาคตเจ้าประชุมพระอรหันต์ครั้งใหญ่ที่สุดโพธิกาลตามประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเพื่อวางหลักแบบแผนการปฏิบัติของชาวพุทธ โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ และเพื่อวางแบบแผนหลักการสอนพระธรรมวินัยให้เป็นแบบแผนเดียวกัน ซึ่งในสมัยพระพุทธเจ้าบางพระองค์ที่มีโพธิกาลนานมากเคยมีการประชุมพระอรหันต์ครั้งใหญ่มากกว่า 1 ครั้งก็มี แต่ในโพธิกาลของพระสมณะโคดมพุทธเจ้านั้นมีเพียงครั้งเดียวนี้

ข้อสาม เป็นวันที่ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับศีลปาติโมกข์ที่พระสงฆ์แสดงกันในโบสถ์ในวันอุโบสถ แต่เป็นส่วนของพระธรรม เพื่อเป็นหลักในการศึกษา ในการปฏิบัติ และในการสอนพระธรรมวินัยแห่งพระอริยเจ้า

ไม่ต้องเป็นจาตุรงคสันนิบาตอะไรดอก เอากันแค่ความสำคัญสามข้อนี้ และเนื้อหาของโอวาทปาติโมกข์ที่ทรงแสดงก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่ชาวพุทธแล้ว

ที่มา : การสอนกันผิด ๆ เกี่ยวกับวันมาฆบูชา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่