เมื่อชื่อของในหลวงอยู่ในวงสนทนาของคน5เชื้อชาติ

อาจช้าไปที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ชาวพันทิปได้รับรู้

เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวซึ่งเรียนที่อังกฤษได้ทำงานกลุ่มตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ ในหัวข้อกฏหมายระหว่างประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จับกลุ่มกลุ่มละ5 คน ในชั้นนั้นมีชาวเอเชียแค่น้องสาวและคนอินเดียอีก1คน คณะนี้คนเอเชียค่อนข้างจะเรียนกันน้อยจึงเป็นที่มาให้จับกลุ่มไม่ซ้ำสัญชาติ ในกลุ่มมี น้องสาวซึ่งเป็นคนไทย คนอินเดีย แคนาดา เนเธอร์แลนด์และอังกฤษเจ้าของประเทศ

เมื่อแบ่งหน้าที่กันทำก็เอาข้อมูลมาถกกันไปมาร่วมชั่วโมง อยู่ๆเพื่อนชาวแคนาดาก็ถามขึ้นว่า

แคนาดา : ตอนนี้ประเทศไทยเป็นไงบ้าง เราได้ยินข่าวค่อนข้างซีเรียสนะ
อินเดีย : ใช่ เราก็ได้ยินมาเหมือนกัน
น้องสาวมองหน้าเพื่อนในกลุ่มทุกคนและทุกคนกำลังรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ

น้องสาว : ก็หนักหนาอยู่นะ คนทั้งประเทศก็เครียดเหมือนกันแหละ เราคิดว่านะ ขนาดเราอยู่ที่นี่ยังเครียดเลยเป็นห่วงประเทศตัวเอง
เนเธอร์แลนด์ : ไม่รู้นะ เราคิดว่ามันจะผ่านพ้นไปได้ แทบทุกประเทศก็เคยผ่านเหตุการณ์แย่ๆ
ทุกคน : ใช่ๆ
แคนาดา : เธออย่าคิดมากนะ ถึงยังไงในหลวงของเธอต้องไม่ยอมปล่อยให้ประเทศไทยแย่หรอก เรารู้
น้องสาว : เธอรู้ได้ยังไง(แปลกใจว่าทำไมเพื่อนๆรู้ดีจัง)
เพื่อนชาวแคนาดายังไม่อ้าปากพูดก็ถูกเพื่อนจากเนเธอร์แลนด์แทรก : เรารู้ว่าสุดท้ายในหลวงของเธอจะจัดการได้ เรายังอยากมีกษัตริย์เหมือนในหลวงของเธอเลย
เพื่อนชาวอังกฤษยืนยันเป็นเสียงหนักแน่น : ใช่ เราก็เหมือนกันเราอยากมีกษัตริย์เหมือนในหลวงของไทย

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยทั้งกลุ่ม ส่วนน้องสาวนิ่งไปชั่วขณะเพราะอึ้งเล็กน้อย

น้องสาว : เหรอ(เสียงเซอร์ไพรส์เหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง) กษัตริย์ของเราดียังไง
เนเธอร์แลนด์ : พระองค์ทรงงานหนักทรงทำทุกอย่างให้ประเทศไทยและประชาชนของพระองค์ เราไม่เคยเห็นกษัตริย์ที่ไหนทำงานหนักอย่างพระองค์มาก่อนแม้แต่..(ขอละไว้ เกรงว่าจะกระทบกับบุคคลเบื้องสูงของชาติอื่น)
อังกฤษ : ใช่และพระองค์ยังเข้าถึงประชานชนด้วย เราชอบคาแรคเตอร์ของพระองค์มาก เหมือนคนใจดี

ทุกคนพยักหน้ารับเสมือนยอมรับถ้อยความต่างๆในวงสนทนา น้องสาวมัวแต่อึ้งพูดอะไรไม่ออก มันตื้นตันใจจนพูดไม่ออก แล้วน้ำตานิดๆก็เอ่อที่ตาก่อนจะบังคับมันไม่ให้ไหลออกมา

เพื่อนชาวแคนาดาลูบที่ไหล่ : เราเข้าใจเธอนะ เธอและประเทศไทยโชคดีมาก ถึงแม้ประเทศของเราจะไม่มีกษัตริย์ แต่ถ้าจะมีเราก็ขอให้มีกษัตริย์เหมือนที่เธอมี
ทุกคนพยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนที่จะยิ้มให้กันและทำงานกลุ่มต่อไป

น้องสาวเล่าว่าถึงตอนนั้นพูดไม่ออกทั้งๆที่อยากจะพูดอยากจะสรรเสริญพระองค์และเล่าถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ให้ทุกคนได้รับรู้มากขึ้น ทำได้ก็แค่นิ่งฟังเพื่อนในกลุ่มกล่าวชมในหลวง และสะกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
น้องบอกว่าถือว่าเป็นของขวัญวันพ่อที่พ่อหลวงมอบให้เธอผ่านมุมมองและความคิดของชาวต่างชาติ


หวังว่าเรื่องเล่าเล็กๆน้อยๆจะทำให้คนที่เข้ามาอ่านมีรอยยิ้มนะคะ ตัวข้าพเจ้าเองเขียนเล่าไปก็แอบน้ำตาซึมไปตั้ง2ครั้ง

พวกเราชาวไทยโชคดีกว่าชาติไหนๆที่มีในหลวงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ขจัดทุกข์บำรงสุข พวกเราเจออะไรที่แย่ๆมาหลายครั้งหลายหน ก็ยังอุ่นใจที่รู้ว่าพวกเรามีในหลวง




หากเห็นว่าข้อความที่นำมาเปิดเผยเกรงว่าจะกระทบเป็นวงกว้างก็กดลบได้เลยนะคะ ก็กล้าๆกลัวๆเหมือนกัน คำพูดบางประโยคมันล่อแหลม
แต่ครั้นจะเก็บไว้คนเดียวมันก็กระไรอยู่ อยากให้หลายคนมีความรู้สึกเหมือนที่น้องสาวและ จขกท.เป็นอยู่ อยากทำอะไรเพื่อในหลวงบ้างแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยเปรียบไม่ได้กับสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อพวกเราคนไทยทุกคน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้จขกท.มีความสุขที่จะทำ

ปล.1 ขอบคุณน้องสาวที่นำเรื่องราวดีๆทรงคุณค่ามาเล่าสู่กันฟัง น้องคงไม่รู้ว่าพี่เอามาแชร์ต่อ พี่ขออนุญาตตรงนี้เลยละกันถ้าน้องรับรู้น้องก็คงปีติและดีใจเช่นกัน




แก้ไขคำสะกดผิดและเปลี่ยนภาษาพูดและสรรพนามของพระองค์ ขอบคุณท่านที่แนะนำทุกท่านค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่