สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - ภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ปรากฏต่อหน้าพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมข้าราชการทุกหมู่เหล่า และประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งคนไทยทั้งประเทศที่เฝ้ารอชมทางโทรทัศน์ ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2556 เป็นภาพที่สร้างความปลื้มปีติให้กับพสกนิกรทั้งประเทศอย่างหาที่สุดมิได้
เพราะภาพที่ปรากฏต่อเบื้องหน้าเราคนไทยทุกคนแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น
พระพักตร์อิ่มเอิบสดใส พระสุรเสียงแจ่มชัดกังวาน สองพระหัตถ์มั่นคงตลอดเวลาที่ทรงถือแผ่นกระดาษพระราชดำรัส
แม้พระราชดำรัสจะเป็นไปอย่างช้าๆ และบางครั้งหยุดนิ่งชั่วขณะ แต่ก็ดูคล้ายพระองค์กำลังพิจารณาข้อความพระราชดำรัสก่อนที่จะตรัสออกมา อันแสดงให้เห็นว่าพระองค์ยังทรงมีพระสมองและพระสติปัญญาเป็นปกติ
ในพระชนมพรรษา 86 พรรษา และในพระราชกรณียกิจมากมายที่ทรงตรากตรำทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของพระองค์มายาวนานกว่า 60 ปี และในพระราชภาระในฐานะพระประมุขของประเทศที่ทรงแบกรับปัญหาของประเทศและประชาชนมาอย่างหนักตลอดรัชกาล ทั้งจากปัญหาภายนอกประเทศ และปัญหาภายในประเทศ พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่ยืนยาวและแข็งแรงได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นบุญของชาติบ้านเมืองและคนไทยทุกคนแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่พระองค์ต้องประสบพบในช่วง 6-7 ปีมานี้ ที่ประชาชนส่วนหนึ่งมีความเข้าใจผิดในตัวพระองค์และกล่าวร้ายจาบจ้วงพระองค์ ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ลองคิดดูว่าพระองค์จะทรงเสียพระทัยขนาดไหนที่ประชาชนทำกับพระองค์ขนาดนี้
กำลังพระทัยและพระพลานามัยของพระองค์ในวันที่พระชนมพรรษามากขนาดนี้จะยิ่งถดถอยลงมากขนาดไหนเมื่อต้องมาประสบกับการกล่าวร้ายจาบจ้วงจากพสกนิกรของพระองค์
คนธรรมดาสามัญอย่างเราเมื่อเจอเรื่องผิดหวังเสียใจยังต้องทุกข์ใจทุกกาย แล้วความผิดหวังเสียพระทัยของพระองค์มากมายและยิ่งใหญ่ขนาดนั้น มีใครเคยเข้าใจและเห็นพระทัยพระองค์บ้างว่าพระองค์จะทนทุกข์ใจทุกกายขนาดไหน
แต่พระองค์ไม่เคยเรียกร้องความเห็นพระทัยจากพสกนิกรแม้แต่น้อย อย่างดีก็แค่ปรารภกับข้าราชบริพารใกล้ชิดถึงความเสียพระทัย
พระองค์ทรงกล้ำกลืนความเสียพระทัยไว้แต่ผู้เดียว พร้อมกับทรงอดทนต่อสู้กับพระอาการประชวรทางกาย
มีใครในโลกนี้บ้างที่เจ็บป่วยทางกายและใจยังต้องบอบช้ำที่ยังสามารถทำงานเพื่อประเทศชาติส่วนรวมและผู้อื่นได้
มีแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยพระองค์นี้เท่านั้น
พระราชดำรัสที่ทรงมีต่อคนไทยทั้งประเทศที่วังไกลกังวลในวันนี้ พระองค์ทรงเรียกร้องให้คนไทยทุกคนมีความเป็นปึกแผ่น และต่างบำเพ็ญกรณียกิจทำหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ ทรงขอให้คนไทยทุกคนควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้สมภาระและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย และทรงขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญตลอดไป
พระราชดำรัสล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า พระองค์ยังทรงคิดคำนึงถึงชาติบ้านเมืองและประชาชนของพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าภายในพระทัยของพระองค์จะบอบช้ำขนาดไหน
และที่สำคัญที่สุด พระองค์ยังทรงรักและปรารถนาดีต่อประชาชนของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง โดยทรงอวยพรให้คนไทยทุกคนในมหาสมาคมแห่งนั้นและทั้งประเทศมีความสุขความเจริญ
อันหมายรวมถึงคนไทยบางคนที่ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ด้วย
โดย – พูลเดช กรรณิการ์
5 ธันวาคม 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/hi-light-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/
Hi-Light // พระมหากษัตริย์ผู้ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - ภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ปรากฏต่อหน้าพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมข้าราชการทุกหมู่เหล่า และประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งคนไทยทั้งประเทศที่เฝ้ารอชมทางโทรทัศน์ ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2556 เป็นภาพที่สร้างความปลื้มปีติให้กับพสกนิกรทั้งประเทศอย่างหาที่สุดมิได้
เพราะภาพที่ปรากฏต่อเบื้องหน้าเราคนไทยทุกคนแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น
พระพักตร์อิ่มเอิบสดใส พระสุรเสียงแจ่มชัดกังวาน สองพระหัตถ์มั่นคงตลอดเวลาที่ทรงถือแผ่นกระดาษพระราชดำรัส
แม้พระราชดำรัสจะเป็นไปอย่างช้าๆ และบางครั้งหยุดนิ่งชั่วขณะ แต่ก็ดูคล้ายพระองค์กำลังพิจารณาข้อความพระราชดำรัสก่อนที่จะตรัสออกมา อันแสดงให้เห็นว่าพระองค์ยังทรงมีพระสมองและพระสติปัญญาเป็นปกติ
ในพระชนมพรรษา 86 พรรษา และในพระราชกรณียกิจมากมายที่ทรงตรากตรำทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของพระองค์มายาวนานกว่า 60 ปี และในพระราชภาระในฐานะพระประมุขของประเทศที่ทรงแบกรับปัญหาของประเทศและประชาชนมาอย่างหนักตลอดรัชกาล ทั้งจากปัญหาภายนอกประเทศ และปัญหาภายในประเทศ พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่ยืนยาวและแข็งแรงได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นบุญของชาติบ้านเมืองและคนไทยทุกคนแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่พระองค์ต้องประสบพบในช่วง 6-7 ปีมานี้ ที่ประชาชนส่วนหนึ่งมีความเข้าใจผิดในตัวพระองค์และกล่าวร้ายจาบจ้วงพระองค์ ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ลองคิดดูว่าพระองค์จะทรงเสียพระทัยขนาดไหนที่ประชาชนทำกับพระองค์ขนาดนี้
กำลังพระทัยและพระพลานามัยของพระองค์ในวันที่พระชนมพรรษามากขนาดนี้จะยิ่งถดถอยลงมากขนาดไหนเมื่อต้องมาประสบกับการกล่าวร้ายจาบจ้วงจากพสกนิกรของพระองค์
คนธรรมดาสามัญอย่างเราเมื่อเจอเรื่องผิดหวังเสียใจยังต้องทุกข์ใจทุกกาย แล้วความผิดหวังเสียพระทัยของพระองค์มากมายและยิ่งใหญ่ขนาดนั้น มีใครเคยเข้าใจและเห็นพระทัยพระองค์บ้างว่าพระองค์จะทนทุกข์ใจทุกกายขนาดไหน
แต่พระองค์ไม่เคยเรียกร้องความเห็นพระทัยจากพสกนิกรแม้แต่น้อย อย่างดีก็แค่ปรารภกับข้าราชบริพารใกล้ชิดถึงความเสียพระทัย
พระองค์ทรงกล้ำกลืนความเสียพระทัยไว้แต่ผู้เดียว พร้อมกับทรงอดทนต่อสู้กับพระอาการประชวรทางกาย
มีใครในโลกนี้บ้างที่เจ็บป่วยทางกายและใจยังต้องบอบช้ำที่ยังสามารถทำงานเพื่อประเทศชาติส่วนรวมและผู้อื่นได้
มีแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยพระองค์นี้เท่านั้น
พระราชดำรัสที่ทรงมีต่อคนไทยทั้งประเทศที่วังไกลกังวลในวันนี้ พระองค์ทรงเรียกร้องให้คนไทยทุกคนมีความเป็นปึกแผ่น และต่างบำเพ็ญกรณียกิจทำหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ ทรงขอให้คนไทยทุกคนควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้สมภาระและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย และทรงขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญตลอดไป
พระราชดำรัสล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า พระองค์ยังทรงคิดคำนึงถึงชาติบ้านเมืองและประชาชนของพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าภายในพระทัยของพระองค์จะบอบช้ำขนาดไหน
และที่สำคัญที่สุด พระองค์ยังทรงรักและปรารถนาดีต่อประชาชนของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง โดยทรงอวยพรให้คนไทยทุกคนในมหาสมาคมแห่งนั้นและทั้งประเทศมีความสุขความเจริญ
อันหมายรวมถึงคนไทยบางคนที่ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ด้วย
โดย – พูลเดช กรรณิการ์
5 ธันวาคม 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/hi-light-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/