ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
เหตุระเบิดที่ยะลา 22 กันยายน พ.ศ. 2520 เป็นเหตุการณ์ที่มีความพยายามลอบปลงพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดยะลา ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2520
คนร้ายได้ลอบวางระเบิด 2 ลูก บริเวณปะรำพิธีใกล้ลาดพระบาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, พระราชินี และพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน โดยกลวิธีในการวางระเบิดนั้น ได้วางไฟแช็คที่ต่อสายเอ็นไนลอนไว้กับวงจรของระเบิด หากมีคนหยิบไฟแช็คขึ้นมาก็จะเกิดระเบิดทันที และเมื่อประชาชนแตกตื่นก็จะเหยียบกับระเบิดลูกที่สองซึ่งจะทำให้ระเบิดลูกที่สองระเบิดขึ้นทันที
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระบรมราชินีนาถและพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ทรงประทับบนพลับพลาที่ประทับ ซึ่งมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จฯราว 30,000 คน ก็ได้มีราษฏรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯไปหยิบไฟแช็คดังกล่าวเป็นเหตุให้ระเบิดลูกแรกเกิดระเบิดขึ้น ราษฏรต่างพากันแตกตื่นและเหยียบกับระเบิดลูกที่สอง ทำให้ระเบิดลูกที่สองเกิดระเบิดขึ้น ระเบิดลูกแรกห่างจากพลับพลาที่ประทับ 60.15 เมตร ห่างจากลาดพระบาท 5.20 เมตร และระเบิดลูกที่สองห่างจากพลับพลาที่ประทับ 105.15 เมตร ห่างจากลาดพระบาท 6.00 เมตร แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก
ขณะเกิดเหตุนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยืนประทับอยู่กับที่และทอดพระเนตรมองเหตุการณ์ต่างๆพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ยืนรายล้อมถวายการอารักษา ในขณะที่พิธีการต้องหยุดชะงักชั่วครู่
ภายหลังเกิดเหตุ พระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่อไป โดยมิได้แสดงพระอาการปริวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีพระราชดำรัสให้ทุกคนมีจิตใจเข้มแข็งไม่ตื่นเต้นต่อสถานการณ์ เมื่อจบคำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ซึ่งประทับอยู่ในพลับพลาฯทรงนำเหล่าราษฎรร้องเพลง “เราสู้” และภายหลังเสร็จพระราชกรณียกิจ เวลา 18.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลจังหวัดยะลา โดยจากเหตุการณ์นี้ มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 47 คน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B2_22_%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99_%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2520
"พระสติที่ตั้งมั่นของในหลวงหลังเหตุระเบิดลอบปลงพระชนม์" โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
เป็นเรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำหลังจากที่ท่านได้เข้าเฝ้าพระองค์ ภายหลังเหตุการณ์ประมาณ 1 เดือน มีบางช่วงบางตอนที่กล่าวถึงการกำหนดพระสติให้จิตใจตั้งมั่นอยู่กับการงานปัจจุบัน ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้วหรือยังไม่เกิด ซึ่งพสกนิกรควรนำแบบอย่างนี้ มาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบันได้ดี
ขอขอบคุณคลิปจาก สถานีเสียงธรรม
ขออนุโมทนาบุญทุกๆท่านครับ
"พระสติที่ตั้งมั่นของในหลวงหลังเหตุวางระเบิดลอบปลงพระชนม์" โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
เหตุระเบิดที่ยะลา 22 กันยายน พ.ศ. 2520 เป็นเหตุการณ์ที่มีความพยายามลอบปลงพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดยะลา ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2520
คนร้ายได้ลอบวางระเบิด 2 ลูก บริเวณปะรำพิธีใกล้ลาดพระบาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, พระราชินี และพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน โดยกลวิธีในการวางระเบิดนั้น ได้วางไฟแช็คที่ต่อสายเอ็นไนลอนไว้กับวงจรของระเบิด หากมีคนหยิบไฟแช็คขึ้นมาก็จะเกิดระเบิดทันที และเมื่อประชาชนแตกตื่นก็จะเหยียบกับระเบิดลูกที่สองซึ่งจะทำให้ระเบิดลูกที่สองระเบิดขึ้นทันที
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระบรมราชินีนาถและพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ทรงประทับบนพลับพลาที่ประทับ ซึ่งมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จฯราว 30,000 คน ก็ได้มีราษฏรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯไปหยิบไฟแช็คดังกล่าวเป็นเหตุให้ระเบิดลูกแรกเกิดระเบิดขึ้น ราษฏรต่างพากันแตกตื่นและเหยียบกับระเบิดลูกที่สอง ทำให้ระเบิดลูกที่สองเกิดระเบิดขึ้น ระเบิดลูกแรกห่างจากพลับพลาที่ประทับ 60.15 เมตร ห่างจากลาดพระบาท 5.20 เมตร และระเบิดลูกที่สองห่างจากพลับพลาที่ประทับ 105.15 เมตร ห่างจากลาดพระบาท 6.00 เมตร แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก
ขณะเกิดเหตุนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยืนประทับอยู่กับที่และทอดพระเนตรมองเหตุการณ์ต่างๆพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ยืนรายล้อมถวายการอารักษา ในขณะที่พิธีการต้องหยุดชะงักชั่วครู่
ภายหลังเกิดเหตุ พระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่อไป โดยมิได้แสดงพระอาการปริวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีพระราชดำรัสให้ทุกคนมีจิตใจเข้มแข็งไม่ตื่นเต้นต่อสถานการณ์ เมื่อจบคำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ซึ่งประทับอยู่ในพลับพลาฯทรงนำเหล่าราษฎรร้องเพลง “เราสู้” และภายหลังเสร็จพระราชกรณียกิจ เวลา 18.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลจังหวัดยะลา โดยจากเหตุการณ์นี้ มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 47 คน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B2_22_%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99_%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2520
"พระสติที่ตั้งมั่นของในหลวงหลังเหตุระเบิดลอบปลงพระชนม์" โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
เป็นเรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำหลังจากที่ท่านได้เข้าเฝ้าพระองค์ ภายหลังเหตุการณ์ประมาณ 1 เดือน มีบางช่วงบางตอนที่กล่าวถึงการกำหนดพระสติให้จิตใจตั้งมั่นอยู่กับการงานปัจจุบัน ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้วหรือยังไม่เกิด ซึ่งพสกนิกรควรนำแบบอย่างนี้ มาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบันได้ดี
ขอขอบคุณคลิปจาก สถานีเสียงธรรม
ขออนุโมทนาบุญทุกๆท่านครับ