'ไทม์' ชี้ประชาธิปัตย์ สร้างเงื่อนไข 'รัฐประหาร'

นิตยสารไทม์ชี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยสมกับชื่อพรรค เรียกร้องให้โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นำม็อบยึดสถานที่ราชการ หวังกองทัพเข้ายึดอำนาจ เล่นการเมืองแบบอันธพาล

เว็บไซต์ของนิตยสารไทม์ เสนอรายงานในวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ในชื่อ "พรรคประชาธิปัตย์ของประเทศไทยตั้งชื่อผิดอย่างน่าหัวร่อ" ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองสีเสื้อในเมืองไทยได้กลับมาปะทุอีกครั้ง เหล่าคนเสื้อเหลืองผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายึดกระทรวงต่างๆในเมืองหลวงและศาลากลางอย่างน้อยใน 19 จังหวัด

เมื่อวันอังคาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำการประท้วง ได้ตอกย้ำเสียงเรียกร้อง "การปฏิวัติประชาชน" เพื่อจัดตั้งสภาประชาชนของพวกรอยัลลิสต์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ไทม์ได้ชี้ถึงความดีเด่นดังของประเทศไทยหลายประการ เช่น  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปเยือนปีละหลายล้านคน, เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับต้นของโลก, มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประชาธิปไตยของไทยก็เป็นแบบอย่างให้แก่เพื่อนบ้านในพม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม

แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติในด้านระบอบประชาธิปไตยที่แย่ที่สุด พวกคนเสื้อเหลืองนับหมื่นกำลังเดินขบวนทั่วประเทศ แต่การเรียกร้องให้จัดตั้งสภาของพวกรอยัลลิสต์นั้น ยากที่จะเรียกว่าเป็นการปฏิวัติประชาชน



อำนาจประชาชนได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์แล้วโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้ง 15 ล้านคน ที่ได้โหวตเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยของเธอเมื่อปี 2554 พรรคการเมืองต่างๆที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพเมื่อปี 2549 ได้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างล้นหลามตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา

แน่นอน มหาเศรษฐีโทรคมนาคมผู้นี้ มีบาดแผลหลายอย่าง เช่น การทำธุรกิจของเขาในอดีต, สงครามปราบปรามยาเสพติดเมื่อปี 2546, การบงการการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่น่าประหลาดใจที่พรรคฝ่ายค้านไม่ได้โจมตีเขาด้วยเรื่องเหล่านี้

พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งครั้งหลังสุดเมื่อปี 2535 ฐานเสียงของพรรคคือ พวกนานทุนน้อยในกรุงเทพ พรรคนี้ไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนยากจนในภาคอีสาน ซึ่งเป็นที่มั่นของคนเสื้อแดง แต่แทนที่จะสร้างแนวนโยบายเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงจากคนยากจน พรรคนี้กลับยิ่งผลักไสผู้ออกเสียงเลือกตั้งกลุ่มใหญ่ ด้วยการเรียกร้องเชิญชวนให้พันธมิตรผู้มากอิทธิพล อย่างเช่น กองทัพหรือศาล ให้บ่อนทำลายคู่แข่งของตน

เวลานี้ได้กลายเป็นวงจรไปแล้ว เมื่อประชาชนเลือกพรรคที่ทักษิณสนับสนุนให้เป็นรัฐบาล พวกชนชั้นนำก็จะเข้าโค่นล้ม อาทิ กรณีการรัฐประหารเมื่อปี 2549, กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อปี 2551 เมื่อประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนนก็เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ จากนั้น พรรคที่ทักษิณสนับสนุนก็ชนะเลือกตั้งอีก

มีการโจมตีนโยบายต่างๆของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ ซึ่งทั้งสองได้ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายเนื่องจากสั่งปราบปรามคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ขณะเป็นรัฐบาล ก็ได้แพ้มติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี

หลายคนเคยหวังว่า  ความขัดแย้งของคนต่างสีเสื้อจะยุติลงหลังจากเหตุการณ์น่าสลดเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งคนเสื้อแดงได้ประท้วงการโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายสุเทพกำลังเรียกร้องอยู่ในเวลานี้

น่าเสียใจที่สัญญาณทุกอย่างล้วนชี้ว่า เหตุการณ์กลับกำลังจะบานปลายยิ่งขึ้น

วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวาคม กำลังใกล้เข้ามา เบนจามิน ซาแว็กกี ที่ปรึกษากฏหมายอาวุโสประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของคณะกรรมการนักกฎหมายระหว่างประเทศ บอกว่า นายสุเทพไม่ต้องการทำลายบรรยากาศของวันมหามงคลนี้ ดังนั้น เขาจะเร่งยกระดับการชุมนุม ด้วยความหวังว่าทหารจะทำรัฐประหาร หรือประกาศกฎอัยการศึกเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะถึงวันหยุดสำคัญนี้

"นี่เป็นการเมืองแบบอันธพาล"  รายงานของไทม์ระบุ.

ที่มา : TIME

ภาพ : Reuters

Link :  http://news.voicetv.co.th/thailand/89455.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่