สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ที่ทำงานเก่าเรามีแต่พวกลูกคุณหนูเข้ามาทำงาน รวยๆกันทั้งนั้น ดีกรีนักเรียนนอก โปรไฟล์หรู
ส่วนตัวเราจบมหาวิทยาลัยรัฐในเมืองไทย จับพลัดจับผลูได้เข้าไปทำงานที่เดียวกะเค้าได้ยังไงก็ยังงงๆ
เพื่อนๆที่ทำงานในกลุ่มเดียวกัน สนิทกันก็เหมือนจะรวยๆกันทุกคน บ้านมีกิจการ จบมาหาประสบการณ์นอกบ้านก่อนอะไรทำนองนี้
เวลาพักกลางวัน ไปกินข้าวกันแบบธรรมดาของพวกเค้าก็ ฟูจิ เซน ร้านหรูแพงๆทั้งหลาย มื้อหนึ่งไม่ต่ำกว่าสามสี่ร้อย ไอ้เราก็คิดว่า เค้าคงจะนัดกินมื้อพิเศษมั้ง ที่ไหนได้ ไปมันได้บ่อยๆแบบธรรมดาเลยชียว ทุกครั้งที่เราไปด้วย เรานั่งนึกถึงพ่อแม่ที่บ้านนอก ว่ามื้อนี้ท่านจะกินอะไรนะ ดูลูกสิ นั่งกินมื้อละสี่ห้าร้อย มื้อเดียวพ่อแม่คงกินได้หลายวันทีเดียว
หลังจากที่ทนอึดอัดรับสภาพตัวเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเงินเดือนมากพอจะกินแบบนั้นได้ทุกมื้อ เราก็ไม่สบายใจอยู่ดี มันไม่ใช่ตัวตนของเรา เรามาจากบ้านนอก มาจากครอบครัวชาวนา วันหนึ่งตอนเพื่อนมาชวนไปกินข้าว เราก็เลยบอกเพื่อนๆไปว่า พรุ่งนี้เราจะไม่ไปกินด้วยแล้วนะ เราจะเอาข้าวมากินเอง เราเสียดายเงิน เรามีครอบครัวที่ต้องดูแล ไม่สบายใจที่ตัวเองใช้เงินเยอะคนเดียว แต่ก็ไม่ได้ว่าใครนะคะว่าเค้าฟุ่มเฟือย เราเข้าใจดีว่าพื้นฐานชีวิตคนแตกต่างกัน นั่นอาจจะเป็นเรื่องปกติของเค้าก็ได้และที่สำคัญเค้าไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน
แต่เชื่อมั้ยคะ ว่าเพื่อนๆไฮโซเหล่านั้น น่ารักมาก นางบอกว่า หรอ "โอเคๆๆ พรุ่งนี้เราจะเอาข้าวที่บ้านมากินด้วย" หลังจากนั้นทุกวันเพื่อนๆเหล่านั้นจะเอาข้าวที่บ้านมากินกะเราที่แพนทรี่ แทบทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์ซึ่งก็จะพากันออกไปกินข้างนอกซึ่งไม่ใช่ร้านแพงๆแล้ว จะเป็นพวก ก๋วยเตี๋ยว อะไรง่ายๆแทน แถมมีการส่งข้อมความมาบอกด้วยนะว่า พรุ่งนี้ไม่ทำกับข้าวนะ ที่บ้านเราทำ โน่น นี่ บลาๆๆ จะเอามาเผื่อด้วย
ไม่มีใครแสดงออกว่าเราต่ำต้อยกว่าเลยซักคน ซึ่งในความเป็นจริง เราก็ไม่เคยคิดว่าเราต่ำต้อยกว่าใครเลย เราภูมิใจในบรรพบุรุษของเรา ถึงแม้ไม่ร่ำรวยอะไร แต่ไม่เคยแร้นแค้นน้ำใจ ถามว่าเคยมีคนดูถูกไหม มีค่ะ มองด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะเราเป็นคนบ้านนอก ที่บ้านทำนา
แต่เราไม่สนใจหรอก ไม่ให้ราคาด้วยสำหรับคนอย่างนั้น ถ้าใครที่เข้ามารุ้จักแล้วดูถูกเรา ถึงแม้เราจะไม่เคยต่อว่ากลับไป แต่ให้รุ้เลยว่า คุณน่าสงสารมาก ที่วัดคุณค่าความเป็นคนไม่เป็น
คุณ จขกท อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจเลย เกิดมาเป็นคนนั้นยากยิ่งนัก เมื่อได้โอกาสนั้นแล้ว จงเลือกทางสว่างให้ตัวเองเถิด ไม่ว่าตอนเกิดเราจะมาแบบไหน จะมืดหรือสว่าง แต่เราเลือกทางไปให้สว่างได้ด้วยตัวเราเอง คนเรานั้นจะได้อะไร จะมีอะไร ในชีวิตขึ้นมานั้น เป็นมาจากสิ่งที่เรากระทำมาทั้งสิ้น อย่าไปเปรียบเทียบคนอื่นเลย เขาย่อมได้รับสิ่งที่เหมาะสมเนื่องจากผลแห่งการกระทำดีของเขา เขาจึงได้ จึงมีโอกาสนั้น ถ้าเราไม่ได้ ไม่มีเหมือนเขา แปลว่าเรายังทำดีไม่พอ ต้นทุนเราอาจน้อยกว่าเขา ดังนั้นจงหมั่นคิดดี ทำดี พูดดี ให้มากไว้ สิ่งเหล่านี้จะประกอบไปเป็นกุศลติดตาม จขกท ไปทุกหนทุกแห่งเอง อย่ามัวคิดน้อยใจในวาสนาของตัวเองอยุ่เลย มันทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง มืดหม่นไปเปล่าๆนะคะ
ส่วนตัวเราจบมหาวิทยาลัยรัฐในเมืองไทย จับพลัดจับผลูได้เข้าไปทำงานที่เดียวกะเค้าได้ยังไงก็ยังงงๆ
เพื่อนๆที่ทำงานในกลุ่มเดียวกัน สนิทกันก็เหมือนจะรวยๆกันทุกคน บ้านมีกิจการ จบมาหาประสบการณ์นอกบ้านก่อนอะไรทำนองนี้
เวลาพักกลางวัน ไปกินข้าวกันแบบธรรมดาของพวกเค้าก็ ฟูจิ เซน ร้านหรูแพงๆทั้งหลาย มื้อหนึ่งไม่ต่ำกว่าสามสี่ร้อย ไอ้เราก็คิดว่า เค้าคงจะนัดกินมื้อพิเศษมั้ง ที่ไหนได้ ไปมันได้บ่อยๆแบบธรรมดาเลยชียว ทุกครั้งที่เราไปด้วย เรานั่งนึกถึงพ่อแม่ที่บ้านนอก ว่ามื้อนี้ท่านจะกินอะไรนะ ดูลูกสิ นั่งกินมื้อละสี่ห้าร้อย มื้อเดียวพ่อแม่คงกินได้หลายวันทีเดียว
หลังจากที่ทนอึดอัดรับสภาพตัวเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเงินเดือนมากพอจะกินแบบนั้นได้ทุกมื้อ เราก็ไม่สบายใจอยู่ดี มันไม่ใช่ตัวตนของเรา เรามาจากบ้านนอก มาจากครอบครัวชาวนา วันหนึ่งตอนเพื่อนมาชวนไปกินข้าว เราก็เลยบอกเพื่อนๆไปว่า พรุ่งนี้เราจะไม่ไปกินด้วยแล้วนะ เราจะเอาข้าวมากินเอง เราเสียดายเงิน เรามีครอบครัวที่ต้องดูแล ไม่สบายใจที่ตัวเองใช้เงินเยอะคนเดียว แต่ก็ไม่ได้ว่าใครนะคะว่าเค้าฟุ่มเฟือย เราเข้าใจดีว่าพื้นฐานชีวิตคนแตกต่างกัน นั่นอาจจะเป็นเรื่องปกติของเค้าก็ได้และที่สำคัญเค้าไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน
แต่เชื่อมั้ยคะ ว่าเพื่อนๆไฮโซเหล่านั้น น่ารักมาก นางบอกว่า หรอ "โอเคๆๆ พรุ่งนี้เราจะเอาข้าวที่บ้านมากินด้วย" หลังจากนั้นทุกวันเพื่อนๆเหล่านั้นจะเอาข้าวที่บ้านมากินกะเราที่แพนทรี่ แทบทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์ซึ่งก็จะพากันออกไปกินข้างนอกซึ่งไม่ใช่ร้านแพงๆแล้ว จะเป็นพวก ก๋วยเตี๋ยว อะไรง่ายๆแทน แถมมีการส่งข้อมความมาบอกด้วยนะว่า พรุ่งนี้ไม่ทำกับข้าวนะ ที่บ้านเราทำ โน่น นี่ บลาๆๆ จะเอามาเผื่อด้วย
ไม่มีใครแสดงออกว่าเราต่ำต้อยกว่าเลยซักคน ซึ่งในความเป็นจริง เราก็ไม่เคยคิดว่าเราต่ำต้อยกว่าใครเลย เราภูมิใจในบรรพบุรุษของเรา ถึงแม้ไม่ร่ำรวยอะไร แต่ไม่เคยแร้นแค้นน้ำใจ ถามว่าเคยมีคนดูถูกไหม มีค่ะ มองด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะเราเป็นคนบ้านนอก ที่บ้านทำนา
แต่เราไม่สนใจหรอก ไม่ให้ราคาด้วยสำหรับคนอย่างนั้น ถ้าใครที่เข้ามารุ้จักแล้วดูถูกเรา ถึงแม้เราจะไม่เคยต่อว่ากลับไป แต่ให้รุ้เลยว่า คุณน่าสงสารมาก ที่วัดคุณค่าความเป็นคนไม่เป็น
คุณ จขกท อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจเลย เกิดมาเป็นคนนั้นยากยิ่งนัก เมื่อได้โอกาสนั้นแล้ว จงเลือกทางสว่างให้ตัวเองเถิด ไม่ว่าตอนเกิดเราจะมาแบบไหน จะมืดหรือสว่าง แต่เราเลือกทางไปให้สว่างได้ด้วยตัวเราเอง คนเรานั้นจะได้อะไร จะมีอะไร ในชีวิตขึ้นมานั้น เป็นมาจากสิ่งที่เรากระทำมาทั้งสิ้น อย่าไปเปรียบเทียบคนอื่นเลย เขาย่อมได้รับสิ่งที่เหมาะสมเนื่องจากผลแห่งการกระทำดีของเขา เขาจึงได้ จึงมีโอกาสนั้น ถ้าเราไม่ได้ ไม่มีเหมือนเขา แปลว่าเรายังทำดีไม่พอ ต้นทุนเราอาจน้อยกว่าเขา ดังนั้นจงหมั่นคิดดี ทำดี พูดดี ให้มากไว้ สิ่งเหล่านี้จะประกอบไปเป็นกุศลติดตาม จขกท ไปทุกหนทุกแห่งเอง อย่ามัวคิดน้อยใจในวาสนาของตัวเองอยุ่เลย มันทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง มืดหม่นไปเปล่าๆนะคะ
ความคิดเห็นที่ 9
จขกท. เคยเล่นเกมส์มั้ย ??
- บางคนเลือกที่จะใช้สูตรลัดต่างๆ โกงสารพัด เพื่อให้ผ่านด่านแบบสบายๆ แค่คลิกเดียวก็ได้เงินมาแบบง่ายๆโดยไม่ต้องคิดหรือทำอะไรให้เหนื่อยเลย แรกๆเราคงมีความสุข แต่พอผ่านไปสักระยะนึง เราจะเริ่มเบื่อเกมส์นั้นทันที ไม่รู้จะทำอะไรต่อไป เพราะทุกอย่างมันโรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่แรก และสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการเลิกเล่นไป..
- ต่างกับอีกคนนึง ที่พยายามเล่นด้วยความสามารถของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น กว่าจะผ่านไปแต่ละด่านมันอาจจะยากเย็นแสนเข็ญ ถึงแม้บางทีอาจจะมีแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่คุณค่าและความสนุกของเกมส์มันอยู่ที่การได้ผ่านประสบการณ์แปลกๆใหม่ๆ ได้หัดใช้ความคิด ใช้สมอง ตั้งใจ และใช้ความพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผ่านด่านเนี่ยแหละ
ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน มันก็มีความยากและความสนุกในแบบของมัน
ถ้าเรามัวคิดแต่อยากจะได้สูตรลัด เราก็จะไม่มีวันมองเห็นคุณค่า และความสนุกของชีวิตเลย
จขกท. อย่าอิจฉา หรือน้อยใจไปเลย แต่จงภูมิใจเถอะ
ที่เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างใครๆ
เพราะว่า ความจนเนี่ยแหละ ที่สอนให้เรารู้จัก "คุณค่าของชีวิต"
แถมได้เปรียบกว่าพวกคนรวย ที่ได้มาง่ายๆแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ^^
ปล. เราก็ไม่ได้รวยเหมือนกัน ไม่ได้ใช้ของแบรนด์ ปกติมีอะไรก็กินอย่างนั้น กินข้าวคลุกกับน้ำปลา หรือไม่ก็คั่วงาเปล่าๆเนี่ยแหละ คลุกข้าวสวยกินง่ายๆ ขูดข้าวก้นหม้อก็ทำมาแล้ว 555 เสื้อผ้าเราก็ซื้อใส่ตัวละ 150 ด้วยซ้ำ สมัยนี้มีแบบสวยๆเยอะเลย (จริงๆแล้วของถูกก็สวยได้นะ ถ้าเรารู้จัก mix and match เลือกใส่ให้เหมาะสม และดูดีเข้ากับบุคลิกของตัวเอง)
ทั้งๆที่มหาลัย รอบตัวเรามีแต่ลูกคนรวย ไฮโซ หิ้วหลุยส์ พราด้า กินข้าวตามห้าง แต่เราก็ยังไปเรียนและใช้ชีวิตได้แบบไม่แคร์ใคร
ยังจำคำแม่บอกได้ดีว่า.. "แม่พยายามหาเงินมาส่งให้ลูกได้เรียนตามที่ลูกหวัง อย่าน้อยใจที่บ้านเราจะไม่ร่ำไม่รวยเหมือนใครเค้า เรามาไกลถึงขนาดนี้ก็ดีกว่าคนอื่นๆอีกมากแล้ว ให้ตั้งใจพยายามเอาความรู้ให้คุ้มค่ามากที่สุดนะลูก" เฮ้ออ พูดแล้วก็คิดถึงแม่แฮะ.. อยากปิดเทอม อยากกลับบ้าน ; w ;
คห.เราอาจแลดูไร้สาระไปหน่อย 5555 แต่ไงก็ สู้ๆนะฮะ คุณจขกท. \(>w<)/
มาพยายามด้วยกันเถอะ สักวันเราจะต้องมีเหมือนคนอื่นให้ได้ด้วยตัวของเราเอง !
ถ้าชีวิตคนเรามีพร้อมทุกอย่างตั้งแต่แรก มันจะไปสนุกได้ยังไงกันล่ะ ?
คุณค่าของสิ่งของ มันอยู่ที่ความพยายาม ความตั้งใจ และพากเพียรพยายาม เพื่อที่จะให้ได้มาต่างหาก
" เพราะอะไรที่ได้มาง่ายๆ สุดท้ายแล้วมันก็ย่อมจะสูญเสียคุณค่าไปง่ายๆเช่นกัน "
คุณค่าของสิ่งของ มันอยู่ที่ความพยายาม ความตั้งใจ และพากเพียรพยายาม เพื่อที่จะให้ได้มาต่างหาก
" เพราะอะไรที่ได้มาง่ายๆ สุดท้ายแล้วมันก็ย่อมจะสูญเสียคุณค่าไปง่ายๆเช่นกัน "
จขกท. เคยเล่นเกมส์มั้ย ??
- บางคนเลือกที่จะใช้สูตรลัดต่างๆ โกงสารพัด เพื่อให้ผ่านด่านแบบสบายๆ แค่คลิกเดียวก็ได้เงินมาแบบง่ายๆโดยไม่ต้องคิดหรือทำอะไรให้เหนื่อยเลย แรกๆเราคงมีความสุข แต่พอผ่านไปสักระยะนึง เราจะเริ่มเบื่อเกมส์นั้นทันที ไม่รู้จะทำอะไรต่อไป เพราะทุกอย่างมันโรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่แรก และสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการเลิกเล่นไป..
- ต่างกับอีกคนนึง ที่พยายามเล่นด้วยความสามารถของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น กว่าจะผ่านไปแต่ละด่านมันอาจจะยากเย็นแสนเข็ญ ถึงแม้บางทีอาจจะมีแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่คุณค่าและความสนุกของเกมส์มันอยู่ที่การได้ผ่านประสบการณ์แปลกๆใหม่ๆ ได้หัดใช้ความคิด ใช้สมอง ตั้งใจ และใช้ความพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผ่านด่านเนี่ยแหละ
ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน มันก็มีความยากและความสนุกในแบบของมัน
ถ้าเรามัวคิดแต่อยากจะได้สูตรลัด เราก็จะไม่มีวันมองเห็นคุณค่า และความสนุกของชีวิตเลย
จขกท. อย่าอิจฉา หรือน้อยใจไปเลย แต่จงภูมิใจเถอะ
ที่เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างใครๆ
เพราะว่า ความจนเนี่ยแหละ ที่สอนให้เรารู้จัก "คุณค่าของชีวิต"
แถมได้เปรียบกว่าพวกคนรวย ที่ได้มาง่ายๆแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ^^
ปล. เราก็ไม่ได้รวยเหมือนกัน ไม่ได้ใช้ของแบรนด์ ปกติมีอะไรก็กินอย่างนั้น กินข้าวคลุกกับน้ำปลา หรือไม่ก็คั่วงาเปล่าๆเนี่ยแหละ คลุกข้าวสวยกินง่ายๆ ขูดข้าวก้นหม้อก็ทำมาแล้ว 555 เสื้อผ้าเราก็ซื้อใส่ตัวละ 150 ด้วยซ้ำ สมัยนี้มีแบบสวยๆเยอะเลย (จริงๆแล้วของถูกก็สวยได้นะ ถ้าเรารู้จัก mix and match เลือกใส่ให้เหมาะสม และดูดีเข้ากับบุคลิกของตัวเอง)
ทั้งๆที่มหาลัย รอบตัวเรามีแต่ลูกคนรวย ไฮโซ หิ้วหลุยส์ พราด้า กินข้าวตามห้าง แต่เราก็ยังไปเรียนและใช้ชีวิตได้แบบไม่แคร์ใคร
ยังจำคำแม่บอกได้ดีว่า.. "แม่พยายามหาเงินมาส่งให้ลูกได้เรียนตามที่ลูกหวัง อย่าน้อยใจที่บ้านเราจะไม่ร่ำไม่รวยเหมือนใครเค้า เรามาไกลถึงขนาดนี้ก็ดีกว่าคนอื่นๆอีกมากแล้ว ให้ตั้งใจพยายามเอาความรู้ให้คุ้มค่ามากที่สุดนะลูก" เฮ้ออ พูดแล้วก็คิดถึงแม่แฮะ.. อยากปิดเทอม อยากกลับบ้าน ; w ;
คห.เราอาจแลดูไร้สาระไปหน่อย 5555 แต่ไงก็ สู้ๆนะฮะ คุณจขกท. \(>w<)/
มาพยายามด้วยกันเถอะ สักวันเราจะต้องมีเหมือนคนอื่นให้ได้ด้วยตัวของเราเอง !
แสดงความคิดเห็น
(กระทู้ระบาย) อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนรวยกว่า
คือไม่สามารถซื้อแบรนด์เนม กินอาหารร้านหรูๆได้ทุกวัน หรือจะมีเงินมากพอที่จะไปเที่ยวต่างประเทศได้
มันทำให้เรารู้สึกอิจฉาพวกเขามากๆจนเกิดความคับแค้นใจว่าทำไมชีวิตเราถึงไม่เป็นอย่างพวกเขาบ้าง
เราดิ้นรนแทบตายกว่าจะมาถึงจุดๆนี้ได้ แต่บางคนแทบจะไม่ต้องทำอะไรกลับได้มันมาอย่างง่ายดาย
จนเรามีความคิดที่ว่าเราจะพยายามให้ถึงที่สุดให้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้
ทั้งๆที่เอาจริงๆแล้วชีวิตเราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ไม่ได้แย่อย่างคนที่เขาแย่จริงๆ คือตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เพื่อนใช้แบรนด์ เราก็ได้แต่มอง (ถ้าเราเก็บเงินจากค่าขนมเราก็ซื้อได้ แต่ไม่อยากสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะมีสิ่งที่อยากทำมากกว่า)
เพื่อนไปต่างประเทศเราก็ได้แต่นั่งดูรูป เพื่อนไปกินร้านอาหารอร่อยๆแพงๆก็ได้แต่นั่งน้ำลายไหล เพื่อนบอกทำไมถึงแต่งตัวไม่เป็นเลย(อาจจะเป็นเพราะเราแต่งตัวไม่เป็น+เราไม่อยากเสียเงินซื้อเสื้อผ้าแพงๆ) ทั้งๆที่เราก็อยากจะแต่งตัวสวยๆเหมือนกัน บางชุดเราเห็นแล้วชอบมากแต่เห็นราคาแล้วรีบวางไม่ทัน ถึงราคาจะไม่เกินหลักพันก็ตามที
ที่ระบายมาทั้งหมดเพราะไม่รู้จะจัดการความคิดแบบนี้ของตัวเองยังไงดี? ควรจะต้องปรับทัศนคติอย่างไร? มันมีหลายเหตุการณ์มากๆที่ทำให้เรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในฐานะของตัวเองทั้งที่แบบมีสาระและไม่มีสาระ ถึงขั้นจิตตกร้องไห้ออกมาง่ายๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราเอาแต่คิดอะไรแบบนี้แล้วเราไม่ทำอะไรนะคะ บางทีเราก็รู้สึกท้อแล้วก็เหนื่อยมากๆว่าทำไมต้องมานั่งพยายามอะไรขนาดนี้ เพราะพ่อแม่ก็ทำงานธรรมดาๆ ในขณะที่เพื่อนบางคนมีพรมแดงปูรอไว้พร้อมโรยกลีบกุหลาบ นั่งอยู่บนกองเงินกองทอง มีธุรกิจให้สานต่อ แต่เราต้องเริ่มทุกอย่างจากศูนย์
ขอบคุณนะคะที่นั่งอ่านที่เราระบายจนจบ : )
ป.ล.ขอโทษนะคะที่จัดหน้ากระดาษไม่ค่อยสวยเท่าไหร่