คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
ขอแชร์ประสบการณ์ตัวเองบ้าง
เรียนอินเตอร์เหมือน จขกท.ครับ สังคมเพื่อนรวยถึงรวยมาก สามารถหารถยุโรปหลากหลายรุ่นดุจดังงานมอเตอร์โชว์ได้ที่ลานจอดรถมหาลัย
อาหารการกินของเพื่อนคือตามซอยทองหล่อ เอกมัย ร้านอาหารนานาชาติบ้าง บุฟเฟ่ต์บ้างบางโอกาส
บางทีก็อยากไปกินนะ ถามเพื่อนแพงมั้ย กินครั้งนึงหมดไปเท่าไร เพื่อนตอบ.. ไม่แพงมากนะแก ไปสองคนกะแฟน ก็พันนิดๆ ตกคนละ 800ได้มั้ง
ตอนเย็นก็นั่งกินเหล้าแถวนั้นแหละ ทองหล่อบ้างเอกมัยบ้าง บางทีก็ขับไปบางนาตราด กม.26 แถวนั้นมีซอยๆนึง ร้านเหล้าเยอะ
ถ้าเป็นวันพิเศษ(ส่วนใหญ่ก็พิเศษเกือบทุกศุกร์) ก็จะไปนั่งร้านเบียร์นอก เบียร์อะไร แก้วนึงตั้ง 300 บาท กินครั้งนึง 4-5 แก้วต่อคน ไม่รวมอาหาร
บางทีไม่มีเรียนเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไปเที่ยวพัทยาบ้าง หัวหินบ้าง แล้วแต่อารมณ์
ที่มหาลัยใส่ไปรเวทได้ ไม่บังคับใส่ชุดนักศึกษา ก็จะมีเสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ หลากหลายรูปแบบ บางตัว 2-3 พัน ใส่มาแต่ละวันไม่ซ้ำชุด
กระเป๋าอย่างน้อยมี 5 ใบ ก็เปลี่ยนวันละใบ ใบนึง 6หมื่น++ บางใบเป็นแสน ยังไม่รวม accessories พวกข้อมือหนัง นาฬิกาหรู ต่างหูเพชร
เข็มกลัดตัวCไขว้กัน รองเท้าหมุดเยอะๆคู่ละ 2-3 หมื่น เครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์แบรนด์
ย้อนกลับมามองตัวเอง ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมเหมือนกันครับ แต่ใบนี้เป็น Hi-street ซื้อมาหมื่นนึง ใช้มาปีกว่าแล้ว และมีใบเดียวในชีวิตด้วย
ค่าเทอมที่มหาลัยสูงพอสมควรครับ แต่พ่อทำสวน ก็พอมีรายได้ส่งค่าเทอมให้ผมเรียนได้อยู่ ไม่ขัดสน แต่ไม่ถึงกับรวยมาก
ค่าใช้จ่าย พ่อส่งให้เดือนละ 25,000 ครับ แต่แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงิน
แบ่งเป็นค่าผ่อนรถที่ผมใช้อยู่ (รถB segment ธรรมดา ล้อกะทะ เอาไว้ขับไปเรียน เพราะที่พักค่อนข้างอยู่ไกลจากมหาลัย)เดือนละ 15,000 บาท
ค่าเช่าห้อง 6,000 บาท ที่เหลืออีก 4,000 บาท แม่เพิ่มให้อีก 2,000 เป็น 6,000 บาท โอนมาต้นเดือน ต้องบริหารเองให้พอ
เงิน 6,000 บาท หาร 30 วันแล้ว เฉลี่ยวันละ 200 บาท เดือนไหนมี 31 วัน เดือนนั้นคือนรก วันที่ 31 ก็หามาม่ามาตุนไว้ต้มกินเอง
ผมไม่เที่ยวกับเพื่อน ไม่กินเหล้า ไม่เข้าผับ เลิกเรียนเพื่อนเกาะกลุ่มไปกินข้าว ไปเที่ยวกัน
ผมจะปลีกตัวออกมา แล้วพุ่งกลับห้องอย่างเร็ว เพราะไม่มีเงิน 55555555555555
เรื่องค่าน้ำมันรถ ต้องทำงานในวันที่ไม่มีเรียน ไปทำเอกซ์ตร้าตัวประกอบละครบ้าง รับจ๊อบโบกธงหน้าคอนโด ทำงานสต๊าฟ
เด็กเสิร์ฟห้องอาหารโรงแรม เดินทรูปตามห้าง เป็นหน้าม้าตบมือตามรายการเกมส์โชว์ หาเงินจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆเอาเอง
ห้องที่อยู่ อยู่กับแฟน ผมออกค่าเช่าห้องอย่างเดียว แต่ค่าน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ต ของใช้ต่างๆ สบู่ ยาสีฟัน ซื้อของเข้าห้อง แฟนจะเป็นคนช่วยจ่าย
ย้อนกลับมาเงินที่ใช้ กำหนดวันนึงห้ามเกิน 200 บาท กินข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว 50 บาท 3 มื้อ ตกวันละ 150
เหลือเงิน 50 บาทก็ค่าทางด่วนบ้าง วันไหนไม่ขึ้นทางด่วนไปมหาลัยก็ ขนมเซเว่น ไม่ก็ลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโด 55555555555
ไม่มีบุฟเฟ่ต์ ไม่มีอาหารภัตตาคาร ไม่มีชอปปิ้ง ไม่มีร้านเหล้า เข้าผับ
ใช้ชีวิตลำบากครับ พยายามไม่ยึดติดกับเพื่อน เพื่อนรวยก็เรื่องของเพื่อน ไม่ทะเยอทะยานก็พอ
แต่เบื่อครับ กลายเป็นคนเหงา ขาดเพื่อน เลิกเรียนปุ๊ป ไม่มีฟีลเดินเล่นกับเพื่อนตามห้าง ไม่มีการซื้อของฟุ่มเฟือยใดๆ
กินข้าวกับเพื่อนนับครั้งได้ ถ้าเพื่อนกินอาหารในโรงอาหาร ถึงจะกินด้วยกันได้ นอกนั้นอย่าหวังว่าจะไปกินตามร้านอาหารแพงๆ
เรื่องเที่ยวกลางคืนไม่มีครับ ทำงานหาเงินเอง นัดกอง 7โมงเช้า เลิกกอง 3ทุ่ม ได้เงินแค่ 600-800 จ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียวก็หมดแล้ว
พอทำงานหาเงิน รู้ความลำบากกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท เลยไม่กล้าใช้เงินเยอะ
ทำงานวันนึง 10กว่าชั่วโมง ได้มา 600 นั่งร้านเหล้าแปปเดียว เงินหามาทั้งวันใช้หมด เสียดายครับ
เหนื่อยครับ ใช้ชีวิตกับสังคมดัดจริตของประเทศไทย 5555555555555
ขอนอกเรื่องนิดนึง ผมเป็นคนชอบดูซีรี่ย์ฝรั่ง รู้สึกชื่นชอบกับสังคมของเมืองนอก แบบนักแสดงในซีรี่ย์ผมก็ฟอล IG นะ
ในหนัง ขับรถกระบะเก่าๆไปเรียน ใช้กระเป๋าผ้าธรรมดา ไม่เห็นยึดติดอะไรกับของแบรนด์เนมเลย
ในIGพวกนักแสดงซีรี่ย์ ชีวิตแลดูชิวครับ อัพรูปแบบถ่ายปุ๊ปอัพ ไม่ต้องแต่งรูป ไม่ต้องฟรุ้งฟริ้ง ไม่ต้องดัดจริต
ค่านิยมของพวกฝรั่งดูดีงามอ่ะ สบายๆ ไม่ต้องมานั่งแข่งกันอวดรวย
แต่พอมาดูไทม์ไลน์พวกคนไทย กาแฟปาล์มมี่ กระเป๋าแบรนด์เนมเกือบแสน แคปชั่นอุ๊ย รถติดจัง แต่ถ่ายติดพวงมาลัยโลโก้รถยุโรป
ทั้งๆที่ GDP คนไทยต่ำตมเกือบจะที่สุดในโลก แต่ทุกคนแลดูรวย ชีวิตงดงาม สดใส โลกสวยมาก
พยายามทำความเข้าใจว่าเป็นไลฟ์สไตล์ คนเราชอบไม่เหมือนกัน
แต่เหนื่อยนะ ตามหัวกระทู้เลย วิถีชีวิตคนจนที่ต้องดำรงในสังคมคนรวยแบบคนไทย เหนื่อยเอ้าะะะะะะะะะ
เรียนอินเตอร์เหมือน จขกท.ครับ สังคมเพื่อนรวยถึงรวยมาก สามารถหารถยุโรปหลากหลายรุ่นดุจดังงานมอเตอร์โชว์ได้ที่ลานจอดรถมหาลัย
อาหารการกินของเพื่อนคือตามซอยทองหล่อ เอกมัย ร้านอาหารนานาชาติบ้าง บุฟเฟ่ต์บ้างบางโอกาส
บางทีก็อยากไปกินนะ ถามเพื่อนแพงมั้ย กินครั้งนึงหมดไปเท่าไร เพื่อนตอบ.. ไม่แพงมากนะแก ไปสองคนกะแฟน ก็พันนิดๆ ตกคนละ 800ได้มั้ง
ตอนเย็นก็นั่งกินเหล้าแถวนั้นแหละ ทองหล่อบ้างเอกมัยบ้าง บางทีก็ขับไปบางนาตราด กม.26 แถวนั้นมีซอยๆนึง ร้านเหล้าเยอะ
ถ้าเป็นวันพิเศษ(ส่วนใหญ่ก็พิเศษเกือบทุกศุกร์) ก็จะไปนั่งร้านเบียร์นอก เบียร์อะไร แก้วนึงตั้ง 300 บาท กินครั้งนึง 4-5 แก้วต่อคน ไม่รวมอาหาร
บางทีไม่มีเรียนเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไปเที่ยวพัทยาบ้าง หัวหินบ้าง แล้วแต่อารมณ์
ที่มหาลัยใส่ไปรเวทได้ ไม่บังคับใส่ชุดนักศึกษา ก็จะมีเสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ หลากหลายรูปแบบ บางตัว 2-3 พัน ใส่มาแต่ละวันไม่ซ้ำชุด
กระเป๋าอย่างน้อยมี 5 ใบ ก็เปลี่ยนวันละใบ ใบนึง 6หมื่น++ บางใบเป็นแสน ยังไม่รวม accessories พวกข้อมือหนัง นาฬิกาหรู ต่างหูเพชร
เข็มกลัดตัวCไขว้กัน รองเท้าหมุดเยอะๆคู่ละ 2-3 หมื่น เครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์แบรนด์
ย้อนกลับมามองตัวเอง ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมเหมือนกันครับ แต่ใบนี้เป็น Hi-street ซื้อมาหมื่นนึง ใช้มาปีกว่าแล้ว และมีใบเดียวในชีวิตด้วย
ค่าเทอมที่มหาลัยสูงพอสมควรครับ แต่พ่อทำสวน ก็พอมีรายได้ส่งค่าเทอมให้ผมเรียนได้อยู่ ไม่ขัดสน แต่ไม่ถึงกับรวยมาก
ค่าใช้จ่าย พ่อส่งให้เดือนละ 25,000 ครับ แต่แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงิน
แบ่งเป็นค่าผ่อนรถที่ผมใช้อยู่ (รถB segment ธรรมดา ล้อกะทะ เอาไว้ขับไปเรียน เพราะที่พักค่อนข้างอยู่ไกลจากมหาลัย)เดือนละ 15,000 บาท
ค่าเช่าห้อง 6,000 บาท ที่เหลืออีก 4,000 บาท แม่เพิ่มให้อีก 2,000 เป็น 6,000 บาท โอนมาต้นเดือน ต้องบริหารเองให้พอ
เงิน 6,000 บาท หาร 30 วันแล้ว เฉลี่ยวันละ 200 บาท เดือนไหนมี 31 วัน เดือนนั้นคือนรก วันที่ 31 ก็หามาม่ามาตุนไว้ต้มกินเอง
ผมไม่เที่ยวกับเพื่อน ไม่กินเหล้า ไม่เข้าผับ เลิกเรียนเพื่อนเกาะกลุ่มไปกินข้าว ไปเที่ยวกัน
ผมจะปลีกตัวออกมา แล้วพุ่งกลับห้องอย่างเร็ว เพราะไม่มีเงิน 55555555555555
เรื่องค่าน้ำมันรถ ต้องทำงานในวันที่ไม่มีเรียน ไปทำเอกซ์ตร้าตัวประกอบละครบ้าง รับจ๊อบโบกธงหน้าคอนโด ทำงานสต๊าฟ
เด็กเสิร์ฟห้องอาหารโรงแรม เดินทรูปตามห้าง เป็นหน้าม้าตบมือตามรายการเกมส์โชว์ หาเงินจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆเอาเอง
ห้องที่อยู่ อยู่กับแฟน ผมออกค่าเช่าห้องอย่างเดียว แต่ค่าน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ต ของใช้ต่างๆ สบู่ ยาสีฟัน ซื้อของเข้าห้อง แฟนจะเป็นคนช่วยจ่าย
ย้อนกลับมาเงินที่ใช้ กำหนดวันนึงห้ามเกิน 200 บาท กินข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว 50 บาท 3 มื้อ ตกวันละ 150
เหลือเงิน 50 บาทก็ค่าทางด่วนบ้าง วันไหนไม่ขึ้นทางด่วนไปมหาลัยก็ ขนมเซเว่น ไม่ก็ลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโด 55555555555
ไม่มีบุฟเฟ่ต์ ไม่มีอาหารภัตตาคาร ไม่มีชอปปิ้ง ไม่มีร้านเหล้า เข้าผับ
ใช้ชีวิตลำบากครับ พยายามไม่ยึดติดกับเพื่อน เพื่อนรวยก็เรื่องของเพื่อน ไม่ทะเยอทะยานก็พอ
แต่เบื่อครับ กลายเป็นคนเหงา ขาดเพื่อน เลิกเรียนปุ๊ป ไม่มีฟีลเดินเล่นกับเพื่อนตามห้าง ไม่มีการซื้อของฟุ่มเฟือยใดๆ
กินข้าวกับเพื่อนนับครั้งได้ ถ้าเพื่อนกินอาหารในโรงอาหาร ถึงจะกินด้วยกันได้ นอกนั้นอย่าหวังว่าจะไปกินตามร้านอาหารแพงๆ
เรื่องเที่ยวกลางคืนไม่มีครับ ทำงานหาเงินเอง นัดกอง 7โมงเช้า เลิกกอง 3ทุ่ม ได้เงินแค่ 600-800 จ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียวก็หมดแล้ว
พอทำงานหาเงิน รู้ความลำบากกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท เลยไม่กล้าใช้เงินเยอะ
ทำงานวันนึง 10กว่าชั่วโมง ได้มา 600 นั่งร้านเหล้าแปปเดียว เงินหามาทั้งวันใช้หมด เสียดายครับ
เหนื่อยครับ ใช้ชีวิตกับสังคมดัดจริตของประเทศไทย 5555555555555
ขอนอกเรื่องนิดนึง ผมเป็นคนชอบดูซีรี่ย์ฝรั่ง รู้สึกชื่นชอบกับสังคมของเมืองนอก แบบนักแสดงในซีรี่ย์ผมก็ฟอล IG นะ
ในหนัง ขับรถกระบะเก่าๆไปเรียน ใช้กระเป๋าผ้าธรรมดา ไม่เห็นยึดติดอะไรกับของแบรนด์เนมเลย
ในIGพวกนักแสดงซีรี่ย์ ชีวิตแลดูชิวครับ อัพรูปแบบถ่ายปุ๊ปอัพ ไม่ต้องแต่งรูป ไม่ต้องฟรุ้งฟริ้ง ไม่ต้องดัดจริต
ค่านิยมของพวกฝรั่งดูดีงามอ่ะ สบายๆ ไม่ต้องมานั่งแข่งกันอวดรวย
แต่พอมาดูไทม์ไลน์พวกคนไทย กาแฟปาล์มมี่ กระเป๋าแบรนด์เนมเกือบแสน แคปชั่นอุ๊ย รถติดจัง แต่ถ่ายติดพวงมาลัยโลโก้รถยุโรป
ทั้งๆที่ GDP คนไทยต่ำตมเกือบจะที่สุดในโลก แต่ทุกคนแลดูรวย ชีวิตงดงาม สดใส โลกสวยมาก
พยายามทำความเข้าใจว่าเป็นไลฟ์สไตล์ คนเราชอบไม่เหมือนกัน
แต่เหนื่อยนะ ตามหัวกระทู้เลย วิถีชีวิตคนจนที่ต้องดำรงในสังคมคนรวยแบบคนไทย เหนื่อยเอ้าะะะะะะะะะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ผมจน...แต่ผมมีศักดิ์ศรี..ที่ผมภูมิใจมากๆ..อยู่ครับ..
ไม่ขอเงินใคร...ไม่มีคือไม่กิน...ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..
เห็นคนลำบากกว่า...ต้องช่วยเหลือ...
แต่...สิ่งที่ผมรู้คือ..
เพื่อนไม่ได้ฟังคนที่รวยกว่า...เพื่อนไม่ได้รังเกียจคนจน...เพื่อนต้องกล้าเตือนกัน...
แต่เพื่อนที่ไม่มีใครคบ....คือคนที่แต่งเรื่องราว...ได้เป็นร้อยอย่างที่จะเอาเปรียบผู้อื่น...
เมื่อหลายปีก่อน...ผมช็อตเงิน..จำนวนนึง...เพื่อนที่รวยมาก...โอนเงินมาให้แทบจะในทันที..เพราะเค้ากลัวเราลำบาก...
น้ำตาแทบจิไหล..แบบว่า..ปากบอกว่าไม่รับ ไม่รับ.อย่า อย่า...แต่ในใจตะโกน..รอดแหล่ว...ๆ...
ไม่ขอเงินใคร...ไม่มีคือไม่กิน...ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..
เห็นคนลำบากกว่า...ต้องช่วยเหลือ...
แต่...สิ่งที่ผมรู้คือ..
เพื่อนไม่ได้ฟังคนที่รวยกว่า...เพื่อนไม่ได้รังเกียจคนจน...เพื่อนต้องกล้าเตือนกัน...
แต่เพื่อนที่ไม่มีใครคบ....คือคนที่แต่งเรื่องราว...ได้เป็นร้อยอย่างที่จะเอาเปรียบผู้อื่น...
เมื่อหลายปีก่อน...ผมช็อตเงิน..จำนวนนึง...เพื่อนที่รวยมาก...โอนเงินมาให้แทบจะในทันที..เพราะเค้ากลัวเราลำบาก...
น้ำตาแทบจิไหล..แบบว่า..ปากบอกว่าไม่รับ ไม่รับ.อย่า อย่า...แต่ในใจตะโกน..รอดแหล่ว...ๆ...
ความคิดเห็นที่ 27
ชอบคำนี้จัง ประหยัดเงินยังไงมันก็ไม่ทำให้รวยขึ้น
ผมว่า จขทก มี balance ในชีวิตที่ดีนะครับ คือไม่ได้เว่อร์ประหยัดหรือฟุ่มเฟือยทางใดทางหนึ่งมากเกินไป อย่างไปสังสรรค์กับเพื่อนก็กล้าที่จะใช้บ้าง ส่วนพวกเสื้อผ้า ก็เลือกที่ไม่ต้องแบรนด์ก็ดูดีได้
ใช้เงินมันไม่ได้น่ากลัวหรอกครับ บางครั้งเราอยู่ในสังคมก็ต้องใช้บ้าง การสังสรรค์ การไปเที่ยว บางครั้งมันได้ connection หรือ ไอเดีย ที่จะไปต่อยอดได้อีกเยอะ เพียงแต่ต้องไม่ใช้ไร้สาระจนเกินไป การใช้จ่ายควรใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่ใช้ให้น้อยที่สุด
ผมว่า จขทก มี balance ในชีวิตที่ดีนะครับ คือไม่ได้เว่อร์ประหยัดหรือฟุ่มเฟือยทางใดทางหนึ่งมากเกินไป อย่างไปสังสรรค์กับเพื่อนก็กล้าที่จะใช้บ้าง ส่วนพวกเสื้อผ้า ก็เลือกที่ไม่ต้องแบรนด์ก็ดูดีได้
ใช้เงินมันไม่ได้น่ากลัวหรอกครับ บางครั้งเราอยู่ในสังคมก็ต้องใช้บ้าง การสังสรรค์ การไปเที่ยว บางครั้งมันได้ connection หรือ ไอเดีย ที่จะไปต่อยอดได้อีกเยอะ เพียงแต่ต้องไม่ใช้ไร้สาระจนเกินไป การใช้จ่ายควรใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่ใช้ให้น้อยที่สุด
ความคิดเห็นที่ 34
ได้ใช้เดือนละหมื่นบอกว่าจน....
อย่างพี่นี่คงเลยจุดนั้นไปไกล
หาเงินใช้เอง(ทุกอย่าง)ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย อยู่ม.เอกชนที่แพงที่สุดที่นึง ดีว่าไม่ต้องจ่ายค่าเทอม เพื่อนรวยมั้ยคงไม่ต้องบอกนะคะ กินมาม่า ไม่ก็นมแทนข้าวทุกวัน
เพื่อนน่ะ ถ้าเค้ารับเราไม่ได้ว่าจน ก็คงเรียกว่าเพื่อนไม่ได้นะคะน้อง
พี่เรียนจบป.ตรีโดยไม่เคยไปกินข้าวกะเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไม่เคยเที่ยวกลางคืน ใช้เงินวันละไม่เกิน60บาท(รวมข้าว3มื้อ แต่กินแค่วันละมื้อ2มื้อเพราะไม่มีเงิน รวมค่ารถ) มือถือใช้เครื่องเก่าตอนม.ปลายจนจบปี4 ไม่ใช่พี่ไม่อยากได้นะ แต่มันไม่มีนี่นา หนังสือเรียนไม่ซื้อเพราะแพงมาก ยืมห้องสมุดบ้าง รุ่นพี่ให้มาบ้าง ไม่เคยกินข้าวห้าง วันไหนมีเงินกินข้าวแกงก็หรูละ นอกจากหาเงินใช้เองแล้วต้องเลี้ยงพ่อแม่อีก
อันนี้ความเห็นส่วนตัว
พี่ว่าน้องปรับทัศนคติก็ดีนะคะ
ได้เงินเดือนละ "ตั้ง"10,000บาทไม่ใช่"แค่"10,000บาท
ในโลกนี้มีคนลำบากกว่าน้องอีกเยอะมากๆ
ปล.แต่พี่ก็ชื่นชมน้องนะคะ ที่ยังมีความคิดและความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง มีการเริ่มประหยัดอดออม ขอให้น้องประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้านะคะ
อย่างพี่นี่คงเลยจุดนั้นไปไกล
หาเงินใช้เอง(ทุกอย่าง)ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย อยู่ม.เอกชนที่แพงที่สุดที่นึง ดีว่าไม่ต้องจ่ายค่าเทอม เพื่อนรวยมั้ยคงไม่ต้องบอกนะคะ กินมาม่า ไม่ก็นมแทนข้าวทุกวัน
เพื่อนน่ะ ถ้าเค้ารับเราไม่ได้ว่าจน ก็คงเรียกว่าเพื่อนไม่ได้นะคะน้อง
พี่เรียนจบป.ตรีโดยไม่เคยไปกินข้าวกะเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไม่เคยเที่ยวกลางคืน ใช้เงินวันละไม่เกิน60บาท(รวมข้าว3มื้อ แต่กินแค่วันละมื้อ2มื้อเพราะไม่มีเงิน รวมค่ารถ) มือถือใช้เครื่องเก่าตอนม.ปลายจนจบปี4 ไม่ใช่พี่ไม่อยากได้นะ แต่มันไม่มีนี่นา หนังสือเรียนไม่ซื้อเพราะแพงมาก ยืมห้องสมุดบ้าง รุ่นพี่ให้มาบ้าง ไม่เคยกินข้าวห้าง วันไหนมีเงินกินข้าวแกงก็หรูละ นอกจากหาเงินใช้เองแล้วต้องเลี้ยงพ่อแม่อีก
อันนี้ความเห็นส่วนตัว
พี่ว่าน้องปรับทัศนคติก็ดีนะคะ
ได้เงินเดือนละ "ตั้ง"10,000บาทไม่ใช่"แค่"10,000บาท
ในโลกนี้มีคนลำบากกว่าน้องอีกเยอะมากๆ
ปล.แต่พี่ก็ชื่นชมน้องนะคะ ที่ยังมีความคิดและความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง มีการเริ่มประหยัดอดออม ขอให้น้องประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้านะคะ
แสดงความคิดเห็น
วิธีของคนจนที่ต้องดำรงในสังคมคนรวย (ใช้สอยเงินอย่างประหยัดกันเถอะ)
หลายคนที่ฐานะไม่ดีเลือกที่จะโทษดวง โทษฟ้า หรือบางทีเลือกที่จะโทษพ่อแม่ตัวเองด้วยซ้ำที่เราไม่มีเหมือนคนอื่นเขา แต่เรากลับไม่เคยคิดกันเลยว่า ถ้าพ่อแม่เราไม่มี เราก็มีแทนสิ้ ถ้าพ่อแม่เราเคยทำแบบนี้แล้วมันพลาด ทำไมเราไม่หาวิธีใหม่ แล้วรวยด้วยตนเอง หรือถ้าพ่อแม่เราไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำงานแล้ว ทำไมเราไม่ทำเองล่ะ?
เราเป็นคนนึงที่ฐานะทางบ้านเคยดีมาก แต่เนื่องด้วยเราเป็นลูกคนสุดท้อง พอเราเข้ามหาลัยพ่อแม่ก็เกษียณแล้ว เงินที่ได้หลังเกษียณคุณพ่อก็หมดเร็วมากเพราะท่านติดเหล้าและให้บ้านอีกหลัง(เมียน้อย) ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เหลือแต่คุณแม่ที่ต้องส่งเราเรียนให้จบ พี่ๆ ก็แยกย้ายไปมีครอบครัว ถ้าจะมาช่วยส่งเราเรียนอีกพวกเขาก็ไม่ไหวเพราะเขาก็มีลูกของเขาเอง และมหาลัยก็เป็นอะไรที่เราโตพอจะอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว เราอยู่ภาคอินเตอร์ แน่นอนว่าค่าเทอมไม่ใช่น้อย แม่บอกเสมอว่า เงินเกษียณ หมายความว่าไม่ได้อีกแล้ว ใช้อย่างประหยัดเท่านั้น ซึ่งเราแอนตี้ท่านมากเรื่องนี้ เรามั่นใจว่า ประหยัดเงินยังไงมันก็ไม่ทำให้รวยขึ้น ยังไงเงินที่เราประหยัดมันก็ต้องหมดลงสักวันหากเราไม่ลงทุนอะไรกับเงินก้อนนั้น แต่เนื่องด้วยคุณแม่ของเราเขาเป็นพวก risk averse คือกลัวความเสี่ยงทุกอย่าง เราจึงไม่อยากเถียงท่านมาก แต่ด้วยคณะที่เราเรียนนั้นคือคณะเศรษฐศาสตร์ ของมหาลัยแห่งนึง ซึ่งเต็มไปด้วยลูกเจ้าหลานเธอลูกคนรวยลูกเจ้าของโรงแรมลูกเศรษฐีและชาวต่างชาติเต็มไปหมด เงินที่จะใช้ในชีวิตประจำวันถ้าจะคบกับเพื่อนเหล่านี้แบบไปไหนไปกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะฐานะตอนนี้เรา consider ตัวเองว่าจน (ย้ำว่าตัวเรา ไม่ใช่พ่อแม่)
-เมื่อเข้าเรียน ปี1 ทุกคนรู้ดีว่าเป็นปีของการสังสรรค์ เมากันทุกวันไม่มีเบื่อ ค่าเหล้าไม่ใช่ถูกๆ จะไม่ไปด้วยเพื่อนก็งอน
-เลิกเที่ยงไปหาอะไรกินดี
-เครื่องสำอางค์/เสื้อผ้า ออกใหม่ คอลเลคชั่นนี้ซื้อยัง?
-รถรุ่นใหม่
-ไอโฟนหกออกแล้วนะ ใครมีแล้วบ้าง?
-รถเมล์หรอ? นั่งไม่เป็นอะ
-มอไซค์หรอ? ผมเสียอ้ะแกร
สิ่งที่พูดมาทั้งหมดบอกได้เลยว่าเจอจริงๆ ในสังคมที่เราอยู่ และอาจจะสังคมของคนอื่นๆ ด้วย
แต่จะให้เราทำยังไง?
สำหรับเราที่ได้เงินเดือนละ 10,000 บาท (เพื่อนส่วนใหญ่ได้เดือนละ 20,000-50,000) จะต้องใช้สอยยังไงให้ไม่ลำบากพ่อแม่ และยังเข้ากับสังคมเพื่อนรวยๆ ได้ มาดูกันค่ะ
เราได้เดือนละ 10,000 บาท แต่จะหัก 1,000 บาท เข้าธนาคารเลยค่ะ เพื่อที่จะเหลือ 9,000 จะได้ตีง่ายๆ ใช้วันละ 300 บาทเท่านั้น
-ไปมหาลัยยังไง
รถเมล์ อากาศดีก็ธรรมดา อากาศร้อนก็รถปรับอากาศ (เฉลี่ย 7-13 บาท)
-อาหารเช้า
ข้างทาง ตามสั่งทั่วไป หรือในเซเว่น (เฉลี่ย 35-50 บาท)
-ข้าวเที่ยง (เป็นมื้อที่ส่วนใหญ่ทานกับเพื่อน)
ร้านอาหารในห้างทั่วไป (เฉลี่ย 150-200)
จากนั้นเราก็จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
-กลับบ้าน
รถเมล์ อากาศดีก็ธรรมดา อากาศร้อนก็รถปรับอากาศ (เฉลี่ย 7-13 บาท)
ชีวิตประจำวันของเราจะใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 199-276 บาท
ถ้าเพื่อนชวนไปร้านเหล้า เราต้องปฏิเสธบ้าง หรือถ้าไป ไม่ทานค่ะ หรือเลือกสั่งอันที่ถูก
สินค้าเครื่องสำอางค์เลือกเป็น drug store ซะส่วนใหญ่ ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ
เสื้อผ้า เนื่องด้วยเราเชื่อว่าถ้าหุ่นดีใส่อะไรก็ดูดีเราเลยไม่ mind กับเรื่องนี้มากเท่าไหร่
หรือบางทีเราก็ mix&match เสื้อผ้าที่มีอยู่ให้ดูดีเหมือนมันแพงก็ได้ค่ะ
เห็นได้ว่าเวลาอยู่กับเพื่อน เราก็จะใช้เงินตามเพื่อนปกติแต่ต้องมีสติ ไม่ซื้อตามทุกอย่าง หรือซื้อในสิ่งที่ถูกกว่า หรือคล้ายๆ กัน
ถ้าอยู่คนเดียว เดินได้เป็นเดิน ประหยัดอะไรได้ก็ประหยัด กลับมาทานข้าวที่บ้านได้ก็จะมาเลยค่ะ
เงินที่บอกตอนแรกว่าหัก 1000 ทุกเดือนเข้าธนาคาร ก็เก็บไว้ลงทุนหุ้นในอนาคต หรือไว้ใช้ยามวิกฤต
ตั้งใจเรียนให้ถึงที่สุด มั่นใจว่าในหลายมหาลัยนั้นมีทุนนักเรียนเรียนดี เราก็จะได้เงินเพิ่มมาอีก
ทำงานพาร์ทไทม์หากมีเวลาว่าง ขายของตามไอจีอะไรแบบนี้ก็ได้ค่ะ
จุดประสงค์หลักจริงๆ คือไม่อยากให้ฟุ่มเฟือยกันตั้งแต่ตอนที่ยังหาเงินด้วยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำค่ะ ถ้ารวย ถ้าเหลือใช้ จะทำอะไรก็ได้ค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนมีวิธีประหยัดเงิน ออมเงินหรือลงทุน แชร์กันได้นะคะ