เมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาพอดีได้มีโอกาสเกาะไปกับทริปพาเที่ยวเมืองมอญ มะละแหม่ง ที่ประเทศพม่า กับสายการบินนกแอร์ ทริปนี้เป็นการเดินทางที่ผมอยากไปมากอีกทริปนึงเลยก็ว่าได้ นอกจากเหตุผลที่ว่ายังไม่เคยไปพม่ามาก่อนแล้ว มะละแหม่งยังเป็นเมืองที่น่าสนใจมากๆสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่อย่างผม ด้วยความที่หารีวิวอ่านได้น้อยมากๆ เพราะส่วนใหญ่ถ้าไปเที่ยวพม่าเรามักจะได้ยินแต่ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พุกาม กันซะมากกว่าครับ



ยิ่งพอได้ตามค้นหาข้อมูล+รีวิเกี่ยวกับเมืองมะละแหม่งที่เป็นรีวิวเก่าๆเมื่อสัก 2-5 ปีที่แล้ว ก็ยิ่งอยากไปเที่ยวที่นี่ เพราะเมืองมะละแหม่งนั้นค่อนข้างจะเป็นเมืองชนบทที่ยังคงสภาพความเป็นอยู่แบบเดิมๆไว้ ยิ่งทำให้อยากไปมากขึ้นอีกครับ อารมณ์คล้ายๆกันกับไปเที่ยวเชียงคานอะไรทำนองนั้นล่ะครับ!

ก่อนจะพาเที่ยวเมืองมะละแหม่งขอเริ่มกันที่รายละเอียดต่างๆของที่เมืองนี้กันก่อนนะครับ



ลักษณะภูมิประเทศ ที่ตั้ง 

เมืองมะละแหม่ง หรือ เมาะลำไย หรือ เมาะลำเลิง Mawlamyine ตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศพท่า อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งอยู่ห่างออกไป 165 กม. ห่างจากเมืองทวายที่อยู่ทางใต้อยู่ลงไป 270 กม. และอยู่ห่างจากชายแดนแม่สอดของไทยแค่ประมาณ 110 กม. 

มะละแหม่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของพม่า เป็นรัฐของชาวมอญ ซึ่งในประเทศพม่าจะมีชนกลุ่มใหญ่ๆอยู่ 3 กลุ่ม คือ พม่า กระเหรี่ยง และ มอญ มีรัฐทั้งหมด 7 รัฐด้วยกัน 

เมืองนี้มีพื้นที่ประมาณ 4,748 ตารางไมล์ หรือ 12,300 ตรกม. มีประชากรพม่าน้อยกว่าคนมอญ ในปัจจุบันมีประชากร 350,000 คน แบ่งเป็นคนมอญ, พม่า, อินเดีย, จีน, ยะไข่ กะเหรี่ยง ปะโอ และ ไทยใหญ่ 



ภูมิประเทศของเมืองมะละแหม่งนั้น ตั้งอยู่ติดกับทะเลอันดามัน เป็นปากแม่น้ำที่บรรจบกันของแม่น้ำใหญ่ทั้ง 3 สายของพม่า แม่น้ำสาละวิน, แม่น้ำไจ (Kyaik) และแม่น้ำอัตตรัน (Attran) 

ปัจจุบัน เมืองมะละแหม่ง เป็นเมืองท่าที่เป็นเหมือนประตูส่แดนตะวันออกเฉียงใต้ของพม่า มีเส้นทางรถเชื่อมกับเมืองเมาะตะมะ (มักกะโท่ว) ด้วยสะพานตาละวิน ที่เป็นสะพานรถ+สะพานรถไฟ ข้ามแม่น้ำสาละวิน หรือที่นี่จะเรียกว่าแม่น้ำตาละวิน ที่ยาวที่สุดในประเทศพม่ามีความยาวกว่า 11,000 ฟิต หรือประมาณ 2-3 กม.



การเดินทาง
ทางรถยนต์ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาจากทางย่างกุ้งลงใต้มา ผ่านเมือง พะอัน Pa-an in Kayin State เชื่อมต่อกับเมืงอมะละแหม่งด้วยสะพานตาละวิน
ส่วนทางใต้ก็มีถนนเชื่อมต่อมาจากทางเมือง ทวาย Dewei และตะนาวศรี Tanintharyi Region เส้นทางนี้ยังไม่นิยมเพราะยังมีปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยอยู่
เส้นทางรถยนต์ที่ใกล้กับเมืองไทยที่สุดก็เป็นทางด่านแม่สอด จ.ตาก ห่างจากเมืองมะละแหม่งเพียง 110 กม.แต่ไม่นิยมเดินทางมาด้วยรถ เพราะถนนหนทางยังไม่พัฒนาครับ
ในตัวเมืองมะละแหม่งมีถนนสายหลักอยู่ 4 เส้น อัพเปอร์โรด มิดเดิ้ลโรด โลเวอร์โรด และสแตรนด์ ระบบขนส่งกึ่งสาธารณะที่ใช้กันในเมืองก็จะมี รถสองแถว, รถไซด์คาร์, รถม้า และ รถตู้
ใครที่เดินทางไปย่างกุ้ง จะมีนั่งรถบัสวิ่งวันละ 3 รอบ เช้า 8 โมงครึ่ง /บ่ายโมง / 2 - 3 ทุ่ม ใช้เวลา 8 ชม. มีรถนอน VIP ให้บริการครับ



เท่าที่ได้คุยกับคุณพี่นักธุรกิจชาวไทยที่นั่งที่นั่งเครื่องมาดูทำเลทำธุรกิจการค้าที่มะละแหม่งบนนถ.สแตรนด์ เลยได้ทราบข้อมูลว่าทางไทยและพม่าได้วางโครงการร่วมมือกันทำถนน.เชื่อมต่อระหว่างทางไทยเข้ามาสู่เมืองทวาย และตะนาวศรี ทางใต้ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งอีกประมาณ 5 ปี น่าจะแล้วเสร็จครับ (ข่าวล่าสุดเห็นว่ากำลังมีปัญหากันอยู๋เรื่องยกเลิกสัญญา กำหนดเวลาอาจจะล่าช้าต่างไปจากนี้นะครับ) แต่จนขณะนี้เส้นทางนี้ก็ยังคงไม่ปลอดภัย 100% นะครับ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ สามารถจับรถเช่า จากเมืองย่างกุ้งมาได้ ส่วนใหญ่จะนิยมเช่ารถกันมาหรือไม่ก็มากับทัวร์สะดวกกว่าครับ

ทางรถไฟ
ในเมืองมะละแหม่งมีสถานีรถไฟประจำเมืองอยู่เหมือนกัน เส้นทางนี้คนที่เลือกใช้ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว Backpacker ฝรั่ง หรือเป็นคนท้องถิ่นที่นี่มากกว่าครับ



ทางเครื่องบิน 

สนามบินที่เมืองมะละแหม่งมีสนามบินเล็กๆ มีเที่ยวบินในประเทศมาลงสัปดาห์ละครั้ง โดยเครื่องบินในประเทศของพม่าเขาจะไม่ได้บินไป-กลับแบบบ้านเราจะบินเป็นวงกลม จากย่างกุ้ง - มะละแหม่ง - ทวาย ทำการบินโดยสายการบิน MAI Myanmar Airlines International

ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศนั้น มีน้องนก สายการบิน นกแอร์  เปิดให้บริการเส้นทาง แม่สอด - มะละแหม่ง อยู่ครับ เส้นทางนี้ทำการบินโดยนกมินิ ใช้เครื่องบินลำเล็ก SAAB 340B Plusใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที  ถือเป็นครั้งแรกที่มีสายการบินต่างชาติไปลงที่สนามบินมะละแหม่งครับ



น้องนกบิน แม่สอด - มะละแหม่ง ด้วยเครื่องบินเล็ก SAAB 340B Plus ขนาด 34 ที่นั่ง บินวันละ 1 เที่ยวบิน ทุกวัน
DD4212 9:45 - 9:40 (เวลาพม่าต่างกับไทย 30 นาที)
DD4213 10:05 - 11:05 

อัตราค่าเงิน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา บาท  BAHT B > จ๊าด MMK Kจ๊าดพม่าเป็นสกุลเงินที่ใช้ในประเทศพม่า (พม่า, MM, MMR) สัญลักษณ์สำหรับ MMK สามารถเขียนได้ K. จ๊าดพม่า แบ่งออกเป็น 100 pyas. (อ้างอิงรายละเอียดและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 พย.56 จาก th.coinmill.com/MMK_THB.html)



ในอนาคตเวลาไปที่พม่าไม่จำเป็นจะต้องแลกเงินดอลล่าห์ไปใช้อย่างเดียวแล้วนะครับ เท่าที่ทราบจากไกด์มา พม่ากำลังปรับปรุงระบบการเงิน กำลังพยายามเปลี่ยนมาใช้เงินจ๊าดเป็นหลักแล้ว ต่อไปคงจะสามารถถือเงินจ๊าดไปใช้ได้
เวลาที่เราแลกเงินดอลล่าห์ไปใช้ที่พม่าต้องแลกแบงค์ใหม่ๆไปนะครับ เห็นว่าแบงค์เก่าที่นั่นจะไม่รับ แต่ถ้าเป็นเงินจ๊าดเก่าแค่ไหนก็ใช้กันครับ (ส่วนนี้ไม่ได้ไปทดลองใช้นะครับ ตอนที่ไปเราแลกเงินไทยกับไกด์นำทางเอาเองครับ)


เกร็ดเล็กๆน้อยๆและคำแนะนำในการไปเที่ยวเมืองมะละแหม่ง
- เวลาที่พม่าจะต่างกับที่เมืองไทย 30 นาทีนะครับ 
- ที่พม่าโทรศัพท์เป็นของแพงสำหรับคนที่นี่ใครที่จะใช้ต้องจ่ายค่าซิมการ์ดราคาเหยียบหมื่น หรือ 250,000 จ๊าดกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีสิทธิพิเศษซิมราคาถูกให้ใช้หมู่บ้านละ 10 ซิม แต่ต้องจับสลากกันครับ สำหรับอัตรค่าโทรฯถือว่าถูกนาทีละ 50 สตางค์
- Internet 3G ที่มะละแหม่งมีให้ใช้นะครับ ถ้าจะใช้ต้องเป็นดาต้าของเครือข่ายโทรศัพท์ในพม่านี้ เท่านั้น ส่วนดาต้าโรมมิ่งจากไทยอันนี้ไม่ได้ลองเปิดใช้บริการครับ
- ส่วนร้านอินเตอร์เนตภายในเมืองมีให้บริการ คิดราคา 1 นาที / 40 จ๊าด แต่เนตค่อนข้างช้ามาก
- ใครที่มาเที่ยวที่นี่ทำใจเรื่องไฟฟ้านิดนะครับ อาจจะมีไฟตกดับๆติดๆอยู่บ้างบางช่วง
- สัญญาณ Wi-Fi ในโรงแรม มีแต่ก็เหมือนไม่มี แนะนำว่าให้ลงมานั่งที่ล๊อบบี้ถึงจะพอใช้งานได้
- สำหรับคนที่นี่เวลาซื้อของ ที่นี่ไม่มีการผ่อน จ่ายสดอย่างเดียว เวลาคนพม่ามาไทยถึงได้ชอบใจกับโปรผ่อนของให้ซื้อ แถมค่าโทรศัพท์ที่ไทยค่าโทรศัพท์ยังถูกกว่าเยอะ

ช่วงเวลาเดินทาง
ที่เมืองมะละแหม่งถือเป็นเมืองตากอากาศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายๆแห่งครับ  
- ช่วงตั้งแต่ตค.-มีค.ขึ้นไป เป็นช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป
- ส่วนในช่วงเดือน มีค - เมยเป็นหน้าท่องเที่ยวตากอากาศของคนพม่า สำหรับปีที่แล้วมีจำนวนนักท่องเที่ยวฝรั่งมามะละแหม่งรวมทั้งปีประมาณ 8,000 กว่าคน
- ภายในเมืองมีโรงแรมที่พักอยู่ 4 แห่ง และเกสต์เฮ้าส์อีก 3 แห่ง มีห้องพักรวมๆกัน



ประวัติเมืองมะละแหม่ง
เมืองมะละแหม่ง หรือ เมาะลำเลิง เป็นชื่อเรียกสำหรับคนไทย ที่นี่คนพม่าจะเรียกเมืองนี้ว่า Moulmein หรือ Mawlamyine ออกเสียงคล้ายๆว่า เมาะลำไย ชื่อเมืองนี้มีที่มาจากชื่อในสมัยโบราณ ว่า Mot-Mua-Lum ที่แปลว่าสองตา ตามตำนานเล่าว่า ในสมัยของกษัติย์ มู่ปี้หย่าซา ตามตำนานเล่าว่าพระองค์เป็นกษัติย์ที่มี 3 ตา และเมื่อพระองค์ถูกลอบประทษร้ายจนตาที่สามบอดไป เลยเปลี่ยนชื่อเป็น มุดแมลิง และต่อมาเพี้ยนเป็น มะละแหม่ง หรือที่คนพม่าเรียกว่าเมาะลำไย

เสน่ห์ของเมืองมะละแหม่งนี้อยู่ที่อาคารบ้านเรือนแบบ โคโลเนียลสไตล์ ในสมัยเมืองท่ายุคอาณานิคมที่มีอยู่ทั่วไป บางที่เก่าทรุดโทรมมากๆแต่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่ และมีอีกหลายแห่งที่ถูกใช้เป็นสถานที่ราชการ 

มะละแหม่ง เริ่มมีความสำคัญในช่วงที่พม่าถูกอังกฤษยึดครองเป็นเมืองขึ้น โดยอังกฤษเลือกหมายตาเมืองเล็กๆแห่งนี้เอาไว้ ที่จากเดิมเป็นเมืองประมงเล็กๆ กลับกลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งแรกในช่วงหลังสงครามพม่า-อังกฤษครั้งแรก (คศ.1824) ที่อังกฤษสามารถยึดครองพื้นที่ตอนล่างของพม่าได้ ก่อนที่จะไปยึดเมืองมัณฑะเลย์ในปี 1852 และยึดครองประเทศพม่าได้สำเร็จในปี 1885 ในสมัยของกษัตริย์สีป่อ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า

เมาะลำไยจึงเป็นเมืองหนึ่งที่ได้รับอารายธรรมต่างๆแบบตะวันตกในช่วงแรกของยุคอาณานิคมระหว่าง ปี 1827 - 1852 มะละแหม่งหรือเมาะลำไย ถูกใช้เป็นเมืองท่าในการ เชื่อมต่อกับเมือง มะริด ทวาย ตะนาวศรี เพื่อใช้ในการขนส่งทางเรือ เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขนส่งสินค้าและกำลังทหารไปสู่ย่างกุ้งได้ง่าย และสามารถเดินเรือเข้าแม่น้ำอิรวดีเพื่อไปกลางประเทศพม่าได้สะดวกกว่าทางพื้นดิน

แต่ด้วยการที่เมืองมะละแหม่งมีคนมอญอยู่น้อย อังกฤษเลยนำเอาคนอินเดียมาอยู่เพื่อเป็นคนงาน เลยทำให้เมืองมะละแหม่งเป็นเมืองที่มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนาทั้ง คริสต์ 3 นิกาย คาธอลิค Angelist แองเจิลลิสต์ แบ๊บติสท์ พุทธ ฮินดู อิสลาม 

ในสมัยก่อนปี 1956 ที่ยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เมืองมะละแหม่งเจริญมากถึงขนาดที่ว่าคนไทยในภาคเหนือนิยมส่งลูกหลานมาเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ จนเกินตำนานรักของเจ้าน้อยศุขเกษม ทายาทของเจ้านครเชียงใหม่ กับ มะเมียะสาวมอญแม่ค้าขายบุหรี่ ที่จบลงด้วยความเศร้า ท่านเจ้าน้อยเสียชีวิตด้วยความตรอมใจและพิษสุรา ส่วนสาวมะเมียะนั้นได้บวชเป็นแม่ชีอยู่ในวัดที่เมืองมะละแหม่งจนมรณะภาพเมื่ออายุประมาณ 80 ปี

เกริ่นกันมาเยอะแล้วตอนนี้มาตามเที่ยวเมืองเก่ามะละแหม่ง กับทริปที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกันดีกว่าครับ 



สามารถติดตามอ่านรีวิว ตอนที่ 2 กันต่อได้ที่
เสน่ห์เมืองเก่าที่พม่า มิงกะลาบามะละแหม่ง [ตอนที่2]
http://ppantip.com/topic/31301846