มากะลาบิง มิงกะลาบา (Mingalar Par) ห่างหายไปนานเป็นเดือน ๆ กว่าจะระลึกชาติเขียนบทความย้อนอดีดปิดดีลสุดท้าย กับโปรเจคนี้ ตามคำสัญญากับตัวเอง ขอต้อนรับทุกท่านเยือนสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน ตั้นปีบินไปตามหาสิงโตพ่นน้ำที่
สิงคโปร์ ติดใจการได้ไปเจอโลกกว้าง พี่ที่ทำงานจัดทริปด่วนชวนไปซื้อแป้ง “ทานาคา” เราก็ไม่ลีลาตอบตกลง แต่ลืมไปเลยว่าที่ร้านป้าแช่มหน้าปากซอยก็มีขาย ไปกันต่อ พฤษภาคม 2560 (เงินเดือนน้อยนิดใช้ชีวิตร้อยล้าน)
1. Yangon
ที่นี่ประเทศ “ เมียนมาร์” บินลัดฟ้าข้ามเทือกเขาถนนธงชัยมาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ลงสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ทริปของเราครั้งนี้จองรถตู้คุณ Hein Htet หนุ่มหน้ามนคนพื้นที่มารับบทเป็นไกด์และสารถีพาเราตะเวน “ดินแดนแห่งแม่น้ำอิรวดี" เพราะเขาอัธยาศัยดีและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ทำให้เราสบายหายห่วง และที่สำคัญหน้าตาถูกใจป้า ๆ ในกรุ๊ปงั้นไป gogogo
2. Kyauk Taw Gyee Pagoda Myanmar
สถานที่แรกเปิดเรื่องเจิมทริปด้วยการไหว้พระกันก่อน สถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับ ทะเลสาบอินยา (Inya Lake) ในเมืองย่างกุ้ง สถานที่ที่พูดถึงก็คือ “วัดพระหินอ่อนพระหินขาว” หรือ “Kyauk Taw Gyee Pagoda” เมื่อเราเข้ามาถึงสิ่งแรกนั่งรอต้อนพวกเราอยู่แล้วคือ สิงห์คู่ ศิลปะแบบพม่าที่นั่งอ้าปาก ตัวใหญ่ตระหง่านอยู่หน้าทางเข้า 2 ตน
จุดไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจของที่นี่คือ ภายในวิหารจะมีพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวนั่งขัดสมาธิ หรือ พระพุทธรูปหยกขาว องค์ขนาดใหญ่มหึมามีความสูงถึง 37 ฟุต ขนาดกว้าง 24 ฟุต และที่สำคัญ ว่ากันว่าพระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักจากหินเพียงก้อนเดียวซึ่งนำมาจากภูเขาซะกิ่น (Sagyin Hill) ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ พระหัตถ์ขวา (มือขวา) ยกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์หันออกจากองค์พระ เป็นกุศโลบายเสมือนว่าไล่ศัตรู ประทานความเจริญรุ่งเรือง และปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป แต่ก่อนอื่นใครก็ได้ช่วยปัดขี้ธูปของคุณผู้หญิงข้าง ๆ ที่ทำหล่นลงมือข้าพเจ้าก่อน รู้ไหมมันร้อนครับเจ๊…
2.1 Swe Taw Myat Pagoda (စွယ်တော်မြတ်စေတီတော်)
สถานที่สองห่างจากที่หมายแรกออกมาประมาณ 3 ไมล์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมืองย่างกุ้ง ว่ากันว่ามีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาเจดีย์อนันดาแห่งพุกาม ตัวเจดีย์มีสีทองเหลืองอร่าม และมีลวดลายแกะสลักที่วิจิตรบรรจง ที่แห่งนี้มีชื่อว่า “Swe Taw Myat Pagoda” เจดีย์พระเขี้ยวแก้วแห่งเมืองย่างกุ้ง เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน และยิ่งข้างในตัวอาคารบอกเลยอลังการสุด ๆ แอบคิดเพิ่มนิดหน่อย พระเขี้ยวแก้วนี้มีอยุ่ในหลาย ๆ ประเทศเลยนะ เพราะตอนไปทริปสิงคโปร์ที่นั้นก็มีวัดพระเขี้ยวแก้วด้วยเช่นกัน
2.2 จากท่าเรือสู่เส้นทางศักดิ์สิทธิ์
ถ้าพูดถึงหาดนอร์มังดี ที่นั่นมีการยกพลขึ้นบกเพื่อทำสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สถานที่ถัดมาที่เราจะไปนั้น เป็นการยกพลเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำสงคราม เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีนานพอที่จะให้เราได้ชื่นชม ถนนหนทาง รถลา ตึกรามบ้านเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองย่างกุ้งบ้าง ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปนั้นอยู่บริเวณริมแม่น้ำย่างกุ้ง ที่แห่งนั้นคือ “เจดีย์โบตาทาวน์” (Botahtaung Pagoda) แปลว่า นายพลพันนาย ตามตำนานเล่าว่า เมื่อกว่าพันปีที่แล้ว กองเรือ 1,000 นายพลอัญเชิญพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามายังที่นี่ และสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุไว้ แต่กาลเวลาผ่านไปเจดีย์ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นชาวพม่าก็ร่วมกันบูรณะใหม่โครงสร้างใหม่
โดยฐานเจดีย์มีช่องทางเดินเขาซิกแซกคล้ายเขาวงกต ภายในเจดีย์ตกแต่งด้วยแผ่นทองคำแท้สีทองอร่ามสวยงามทั่วทั้งผนัง เมื่อแสงไฟสะท้อนกระทบกับทองคำช่างทำให้บรรยากาศดูเข้มขลังสุดๆ และความพิเศษของเจดีย์แห่งนี้ที่ต่างจากเจดีย์อื่นทั่วไปที่เปิดให้เราสักการะแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ที่นี่เปิดให้เข้าไปภายในเจดีย์ นอกจากความสวยงามอย่างที่บอกมาแล้ว หากสังเกตดีๆ คุณจะเห็น แท่นบูชาแก้วครอบพระเกศาธาตุ วางอยู่ตรงกลางห้องซึ่งเราสามารถเดินเวียนรอบองค์พระเกศาธาตุได้ด้วย
เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย အစ်မတော်မြနန်းနွယ်
พอออกจากตัวเจดีย์ เดินมาอีกนิดเราจะเจอกับอีกหนึ่งสถานที่ สายมู สายขอพรไม่ควรพลาด “เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย” เป็นหนึ่งใน "นัต" (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์) ที่ได้รับความเคารพนับถือในประเทศพม่า ว่ากันว่า เทพกระซิบเป็นธิดาของพญานาคที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เชื่อว่าถ้ากระซิบขออะไรแล้วจะสมหวังโดยเฉพาะเรื่อง โชคลาภ ความรัก และความสำเร็จ การขอพรจะทำโดยการกระซิบข้างหูของรูปปั้นเทพ ซึ่งเชื่อว่าเทพจะนำคำขอไปบอกกับนัตที่สูงกว่า
เทพทันใจ
สถานที่ถัดไปเราจพาไปมูกันต่อแบบ non stop เราจะไปไหว้
เทพทันใจ หรือ
นัตโบโบยี ซึ่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบตาทาวน์ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่เราควรแวะเป็นอย่างมาก เพราะตามความเชื่อว่าเมื่อเราอธิฐานแล้วเอาหน้าผากไปจิ้มกับนิ้วชี้ จะทำให้เราสมปรารถนารวดเร็วทันใจ ตามดั่งชื่อของ เทพทันใจ นั่นเอง (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมตื่นจากฝันและลงมือทำด้วยนะจะบอกให้) แต่ปีนั้นที่มาเหมือนเราจะต้องเสียค่าเข้าด้วยนะประมาณ 6,000 จ๊าต แต่ข่าวว่าเหมือนปัจจุบันไม่มีการเก็บค่าเข้าแล้วนะ (อันนี้ไม่แน่ใจ)
3. โบสถ์ที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศพม่า
ออกจากสถาปัตยกรรมแบบวัดของชาวพุทธ มาพบกับคำสอนอีกมุมหนึ่งที่พึงให้ทุกคนเป้นคนดีไม่แตกต่างกัน "มหาวิหารเซนต์แมรี" (St. Mary's Cathedral) นั้นสวยงามมากเกินกว่าจะบรรยาย โครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบโกธิก และการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบโกธิกและบาโรกที่งดงาม ประกอบกับกระจกสีสวยงามที่บอกเล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ หอคอยสูงและหน้าต่างกระจกสีที่ประดับลวดลายละเอียดอ่อน เมื่อเข้าสู่ภายในมหาวิหารเราจะได้พบกับเพดานโค้งที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง บอกได้เลยว่าทรงเสน่ห์ เสมือนมรเรื่องราวของกร รอการมาพบปะของผู้คน "หากความรักไม่เลือกเวลาเกิด"
4. เจดีย์ชเวดากอง
หนึ่งในศาสนสถานที่สำคัญที่สุดที่หนึ่งของประเทศพม่า สถานที่ท่องเที่ยวที่หากคุณไม่มาเสมือนว่ามาไม่ถึงประเทศนี้ สถานที่ที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า กาลเวลาถูกเก็บซ่อนเรื่องราวที่เรียงร้อยผ่านการบอกเล่ามาอย่างยาวนาน เจดีย์มีความสูงประมาณ 99 เมตร และถูกห่อหุ้มด้วยทองคำแท้ ทำให้ส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามอัสดง ทำให้ภาพเบื้องหน้าเหมือนถูกต้องมนสะกด “
เจดีย์ชเวดากอง” ศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่าขนานแท้ เป็นสถานที่หนึ่งที่เรารู้สึกว่า 8,000 จ๊าตในวันนั้นคุ้มค่ามาก ๆ ความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม เราว่าที่นี่ไม่แพ้ที่ใดแน่นอน
[CR] เที่ยวพม่า ย่างกุ้ง - หงสาวดี 2 วัน 1 คืน
ที่นี่ประเทศ “ เมียนมาร์” บินลัดฟ้าข้ามเทือกเขาถนนธงชัยมาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ลงสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ทริปของเราครั้งนี้จองรถตู้คุณ Hein Htet หนุ่มหน้ามนคนพื้นที่มารับบทเป็นไกด์และสารถีพาเราตะเวน “ดินแดนแห่งแม่น้ำอิรวดี" เพราะเขาอัธยาศัยดีและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ทำให้เราสบายหายห่วง และที่สำคัญหน้าตาถูกใจป้า ๆ ในกรุ๊ปงั้นไป gogogo
สถานที่แรกเปิดเรื่องเจิมทริปด้วยการไหว้พระกันก่อน สถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับ ทะเลสาบอินยา (Inya Lake) ในเมืองย่างกุ้ง สถานที่ที่พูดถึงก็คือ “วัดพระหินอ่อนพระหินขาว” หรือ “Kyauk Taw Gyee Pagoda” เมื่อเราเข้ามาถึงสิ่งแรกนั่งรอต้อนพวกเราอยู่แล้วคือ สิงห์คู่ ศิลปะแบบพม่าที่นั่งอ้าปาก ตัวใหญ่ตระหง่านอยู่หน้าทางเข้า 2 ตน
จุดไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจของที่นี่คือ ภายในวิหารจะมีพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวนั่งขัดสมาธิ หรือ พระพุทธรูปหยกขาว องค์ขนาดใหญ่มหึมามีความสูงถึง 37 ฟุต ขนาดกว้าง 24 ฟุต และที่สำคัญ ว่ากันว่าพระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักจากหินเพียงก้อนเดียวซึ่งนำมาจากภูเขาซะกิ่น (Sagyin Hill) ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ พระหัตถ์ขวา (มือขวา) ยกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์หันออกจากองค์พระ เป็นกุศโลบายเสมือนว่าไล่ศัตรู ประทานความเจริญรุ่งเรือง และปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป แต่ก่อนอื่นใครก็ได้ช่วยปัดขี้ธูปของคุณผู้หญิงข้าง ๆ ที่ทำหล่นลงมือข้าพเจ้าก่อน รู้ไหมมันร้อนครับเจ๊…
สถานที่สองห่างจากที่หมายแรกออกมาประมาณ 3 ไมล์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมืองย่างกุ้ง ว่ากันว่ามีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาเจดีย์อนันดาแห่งพุกาม ตัวเจดีย์มีสีทองเหลืองอร่าม และมีลวดลายแกะสลักที่วิจิตรบรรจง ที่แห่งนี้มีชื่อว่า “Swe Taw Myat Pagoda” เจดีย์พระเขี้ยวแก้วแห่งเมืองย่างกุ้ง เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน และยิ่งข้างในตัวอาคารบอกเลยอลังการสุด ๆ แอบคิดเพิ่มนิดหน่อย พระเขี้ยวแก้วนี้มีอยุ่ในหลาย ๆ ประเทศเลยนะ เพราะตอนไปทริปสิงคโปร์ที่นั้นก็มีวัดพระเขี้ยวแก้วด้วยเช่นกัน
ถ้าพูดถึงหาดนอร์มังดี ที่นั่นมีการยกพลขึ้นบกเพื่อทำสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สถานที่ถัดมาที่เราจะไปนั้น เป็นการยกพลเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำสงคราม เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีนานพอที่จะให้เราได้ชื่นชม ถนนหนทาง รถลา ตึกรามบ้านเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองย่างกุ้งบ้าง ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปนั้นอยู่บริเวณริมแม่น้ำย่างกุ้ง ที่แห่งนั้นคือ “เจดีย์โบตาทาวน์” (Botahtaung Pagoda) แปลว่า นายพลพันนาย ตามตำนานเล่าว่า เมื่อกว่าพันปีที่แล้ว กองเรือ 1,000 นายพลอัญเชิญพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามายังที่นี่ และสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุไว้ แต่กาลเวลาผ่านไปเจดีย์ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นชาวพม่าก็ร่วมกันบูรณะใหม่โครงสร้างใหม่
พอออกจากตัวเจดีย์ เดินมาอีกนิดเราจะเจอกับอีกหนึ่งสถานที่ สายมู สายขอพรไม่ควรพลาด “เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย” เป็นหนึ่งใน "นัต" (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์) ที่ได้รับความเคารพนับถือในประเทศพม่า ว่ากันว่า เทพกระซิบเป็นธิดาของพญานาคที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เชื่อว่าถ้ากระซิบขออะไรแล้วจะสมหวังโดยเฉพาะเรื่อง โชคลาภ ความรัก และความสำเร็จ การขอพรจะทำโดยการกระซิบข้างหูของรูปปั้นเทพ ซึ่งเชื่อว่าเทพจะนำคำขอไปบอกกับนัตที่สูงกว่า
สถานที่ถัดไปเราจพาไปมูกันต่อแบบ non stop เราจะไปไหว้ เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ซึ่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบตาทาวน์ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่เราควรแวะเป็นอย่างมาก เพราะตามความเชื่อว่าเมื่อเราอธิฐานแล้วเอาหน้าผากไปจิ้มกับนิ้วชี้ จะทำให้เราสมปรารถนารวดเร็วทันใจ ตามดั่งชื่อของ เทพทันใจ นั่นเอง (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมตื่นจากฝันและลงมือทำด้วยนะจะบอกให้) แต่ปีนั้นที่มาเหมือนเราจะต้องเสียค่าเข้าด้วยนะประมาณ 6,000 จ๊าต แต่ข่าวว่าเหมือนปัจจุบันไม่มีการเก็บค่าเข้าแล้วนะ (อันนี้ไม่แน่ใจ)
ออกจากสถาปัตยกรรมแบบวัดของชาวพุทธ มาพบกับคำสอนอีกมุมหนึ่งที่พึงให้ทุกคนเป้นคนดีไม่แตกต่างกัน "มหาวิหารเซนต์แมรี" (St. Mary's Cathedral) นั้นสวยงามมากเกินกว่าจะบรรยาย โครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบโกธิก และการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบโกธิกและบาโรกที่งดงาม ประกอบกับกระจกสีสวยงามที่บอกเล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ หอคอยสูงและหน้าต่างกระจกสีที่ประดับลวดลายละเอียดอ่อน เมื่อเข้าสู่ภายในมหาวิหารเราจะได้พบกับเพดานโค้งที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง บอกได้เลยว่าทรงเสน่ห์ เสมือนมรเรื่องราวของกร รอการมาพบปะของผู้คน "หากความรักไม่เลือกเวลาเกิด"
หนึ่งในศาสนสถานที่สำคัญที่สุดที่หนึ่งของประเทศพม่า สถานที่ท่องเที่ยวที่หากคุณไม่มาเสมือนว่ามาไม่ถึงประเทศนี้ สถานที่ที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า กาลเวลาถูกเก็บซ่อนเรื่องราวที่เรียงร้อยผ่านการบอกเล่ามาอย่างยาวนาน เจดีย์มีความสูงประมาณ 99 เมตร และถูกห่อหุ้มด้วยทองคำแท้ ทำให้ส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามอัสดง ทำให้ภาพเบื้องหน้าเหมือนถูกต้องมนสะกด “เจดีย์ชเวดากอง” ศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่าขนานแท้ เป็นสถานที่หนึ่งที่เรารู้สึกว่า 8,000 จ๊าตในวันนั้นคุ้มค่ามาก ๆ ความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม เราว่าที่นี่ไม่แพ้ที่ใดแน่นอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้