[CR] เที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน

หลังจาก series ย้อนอดีตกลับไปในวันนวานจบแล้ว เราพบว่ายังมีสถานที่ที่เคยไปนอกแผ่นดินแม่ ที่เป็นประสบการณ์สนุก ๆ อยู่อีก 2 ประเทศ เราเลยขอต่อยอดความคิดย้อนอดีตในต่างแดนแบบขำ ๆ ไว้ใน digital footprint สัก 2 บทความถ้าพร้อมแล้ว และยังไม่เบื่อกันงั้นเราเตรียมตัวออกเดินทางได้

1. หมอดูเขาบอกว่าเป็นคนชอบการเดินทาง

          การเดินทางออกไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากวิถีชีวิตเดิม ๆ นอกจากเป็นการได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ในด้าน IQ EQ และ AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการรับมือกับปัญหา หรือเราเรียกมันว่า “การด้นสด” เป็นการฝึกรอยหยักของสมอง และพัฒนาการตัดสินใจในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และถ้ายิ่งไปยังต่างถิ่น ต่างภาษาด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการเพิ่มความเข้มข้นให้กับกระบวนการดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

         หลังจากถูกชวนออกทริปเราก็ตัดสินใจไปด้วยแบบปั๊บปุบ บินลัดฟ้าตามหาสิงโตพ่นน้ำ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ปี 2560 แต่ก่อนอื่นเราต้องเบิกบานสำราญใจกับการเอาแต้มบัตรเครดิต หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่สะสมมาตลอดทั้งปีออกมาใช้เพื่อแลกของทานเล่นฟรีในร้านค้าภายในสนามบินหลังจากเข้า gate เพื่อรอเครื่อง take off (รู้สึกชนะยังไงก็ไม่รู้)
2.ต่างบ้านต่างเมือง

               หลังจากเครื่อง landing เหยียบแผ่นดินสิงห์ ท้องฟ้ายามราตรีก็เข้ามาแทนที่เป็นเรียบร้อย เราแลกเงินดอลล่าสิงคโปร์และซื้อตั๋วรถไฟฟ้าแบบรายวัน เพราะที่นี่การเดินทางรถไฟฟ้านั้นสะดวกมาก ๆ และราคาก็ถูกมากเช่นเดียวกัน  ในส่วนที่พักเราเลือกจองกันมาก่อนแล้ว (เพราะตม.จะถามว่าพักหรืออยู่ที่ไหน) ซึ่งเราก็เลือกแถวย่าน Lavender  ย่านที่เรียบง่ายและสงบ เป็นแบบ hostel ห้องน้ำรวม อีกเหตุผลสำคัญที่เราเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะย่อมเยาแล้ว ที่นี่สามารถเดินไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้าได้ไม่ไกลนัก สะดวกสุด ๆ
3.โง่หรือโง่

            ปกตินอกจากจะลืมตาตอนตื่นตอน บางทีเราก็อาจจะลืมโน้น ลืมนี่ หรือลืมนั่น แต่จะลืมอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับมาเที่ยวแบบนี้แล้วนั้น ดันลืมแท่นชาร์จแบตกล้องมา โง่ซ้ำสองกับเรื่องราวขของการลืม คือลืมเอาสายชาร์จแบตโทรศัพท์มาอีกด้วย อะไรกันครับเนี่ย… เคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่ชาร์จโทรศัพท์ของเพื่อนร่วมทริปก็ใช้กันคนละค่ายกับเราอีก "สุดท้ายธนบัตรเท่านั้น ที่ทำให้เราได้โบยบิน" เลือกเอาสักอย่างละกันว่าจะซื้ออะไร ว่าแต่เดี่ยวนะเราอยู่ตรงไหนแล้ว ?
4. สิงโตคำรามที่ Marina Bay

          เช้าวันแรก ณ ที่ต่างถิ่น A B C ที่เคยท่องมาได้ใช้งานอย่างดีเลยทีเดียว เพราะที่ประเทศนี้เขาใช้ภาษาอังกฤษกันเป็นส่วนใหญ่แต่ก็เป็น conversation ที่เราสามารถพูดและฟังกันรู้เรื่อง โปรแกรมวันนี้มีมากมายหลายที่ เพียงเราแค่ต้องเตรียมรองเท้าให้ดี และถอดสมอง follow ตามพี่ ๆ เขาไป
          จุดแรกเราจะไปยังสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศนี้ โดยขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานี Raffles Place MRT Interchange (EW14/NS26) และเดินทอดน่องต่อไปอีกประมาณ 650 เมตร เพื่อจะได้เพลิดเพลินชมบ้านเมืองของเขาที่จัดเป็นระเบียบสวยงามไปด้วยตึกรามสูงใหญ่ด้วย
              เดินกันเพลิน ๆ ในไม่ช้าเราก็จะถึงสถานที่เป้าหมาย คือเราจะมาถ่ายภาพคู่กับ "เมอร์ไลออน" (Merlion) รูปปั้นสิงโตพ้นน้ำ ที่หัวเป็นสิงโตส่วนลำตัวเป็นปลา ที่เมอร์ไลออนพาร์ค (Merlion Park) อยู่ทางเหนือของอ่าวมารีน่า เบย์ บริเวณหน้าโรงแรมฟุลเลอร์ตัน (Fullerton Hotel) ที่นี่ผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาถ่ายรูปชักภาพและแย่งชิงมุมมหาชนกันเป็นจำนวนมาก และเรานั้นก็ไม่ลืมที่จะแอคถ่ายท่ากรอกน้ำใส่ขวดเป็นที่ระลึกเก็บไว้ด้วยเช่นกัน แต่อยู่ดี ๆ ในขณะนั้นก็ต้องร้องว้าวตกใจ ที่นี่เขาจะมีงานบวชกันเหรอเพราะมี "นาค" กำลังว่ายน้ำเข้ามาทางเราด้วย…
              สถานที่ถัดไป เราออกเดินเท้าทอดน่องกันต่อไปตาม "สะพานเฮลิกซ์ (Helix Bridge)" สะพานเหล็กที่ออกแบบเป็นเกลียว พอลินิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) ไขว้คล้ายแบบโครงสร้าง DNA (เกือบวิชาการไปละ) ข้ามแม่น้ำเชื่อมระหว่าง Marina Centre กับ Marina South เราข้ามมาเพื่อไปซื้อตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ (ArtScience Museum) ตัวอาคารที่มีการจำลองเป็นรูปทรงคล้ายดอกบัวสีขาวโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล ภายในรวบรวมและอัดแน่นไปด้วยงานนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และผลงานศิลปะอื่นๆ เอาไว้ให้เราได้เยี่ยมชมกันแบบจุใจ 
              อีกหนึ่งที่สถานที่ที่เราจะพลาดไม่ได้ เดินและเดินไปอีกหน่อย เพื่อพบกับน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก (บันทึกสถิติโลกกินนิส ในปี 1998) ตั้งอยู่ตรงศูนย์การค้าซันเท็กซิตี และสถานที่เราพูดถึงก็คือ "น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง" (Fountain of Wealth) จุดหมายยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการอธิษฐานขอพรเสริมความโชคดี
5. เยาวราชเมืองสิงโต
          ท้องประท้วงร้องจ๊อก ๆ หากินอะไรค่อนข้างยากเพราะช่วงที่มาเป็นช่วงตรุษจีนพอดี (ร้านปิดเยอะ) สำหรับหมุดหมายของเรามื้อเที่ยงเราจะไปยัง ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown) เพื่อตามหาเมนูยอดฮิตอย่าง “ข้าวมันไก่” สูตรไหหลำ หรือชื่อเมนู “Hainanese Chicken Rice” ข้าวมันไก่ไห่หนาน ที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสแซ่บ 3 สูตร ไก่ที่ฉ่ำเด่ง เนื้อเนียนขาวอวบ ที่มาพร้อมกับข้าวมันที่เรียงเม็ดสวยเป็นระเบียบ บอกเลยบินลัดฟ้ามาหาเธอ
           ก่อนจะไปยังสถานที่ถัดไป เราแอบแวะเดินข้ามถนนไปตรงข้ามห้าง People's Park Centre เพื่อไปซื้อตั๋วสำหรับเข้าเครื่องเล่น Universal Studios ที่ร้าน Sea Wheel Travel ที่ชั้น 3 เพราะพรุ่งนี้เราจะไปกรีดร้องกันให้ลั่นเกาะ (ที่นี่ราคาถูกกว่าหน้างาน)
6.สายมูเตลู

           อิ่มท้องเติมบุญกันต่อ เพราะเราจะไปตามหาพระไตรปิฎก ณ วัดเขียวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) ซึ่งอยู่แถว ๆ ย่าน ไชน่าทาวน์ วัดพุทธที่มีศิลปกรรมแบบสมัยราชวงศ์ถัง สีแดงโดดเด่นสวยสดงดงามเห็นมาแต่ไกล อาคารจำนวน 4 ชั้น โดย 3 ชั้นจะมีการจัดแสดงศิลปะในแต่ละห้องที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม 
          ส่วนชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานของพระสารีริกธาตุที่ห้ามถ่ายภาพ หากใครแวะมาย่านนี้แนะนำว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ควรมาเช็คอิน เพราะในขณะที่เราอยู่ท่ามกลางความจอแจของย่านไชน่าทาวน์ สถานที่แห่งนี้กลับเป็นสถานที่ที่สงบร่มรื่นอย่างมาก (ถ้าคนไม่เยอะ) และอาคารนี้มีสวนอันเงียบสงบอยู่บนดาดฟ้าอีกด้วย เมื่อมาแล้วลองตั้งจิตอธิฐานดู เพราะพวกเรามาไกลท่านจะเห็นใจให้กลับไปสัก 3 ตัวตรง
7.หนึ่งวันพันเหตุการณ์

          นาฬิกาบอกบ่ายกว่าเกือบเย็นแล้ว สถานที่ต่อไปเราจะข้ามจากย่านจีนแผ่นดินใหญ่ไปทางเมือง Little India ใจหนึ่งก็ตั้งใจว่าจะมาหาแท่นชาร์จแบตกล้องเพราะย่านนี้มีศุนย์การค้าหลายแห่ง หลังออกจากสถานีรถไฟฟ้าเดินต่อไปตามถนน Serangoon ก็จะพบเห็นตึกรามต่าง ๆ ดูมีสีสันสุด ๆ และการผสมผสานของวัฒนธรรมที่หลากหลายและลงตัว เราว่าที่นี่เป็นย่านที่สวยงามมาก ๆ ย่านหนึ่ง
          เกือบเย็นเราหาอะไรรองท้องกันหน่อย ไหน ๆ มาถึงย่านนี้แล้วเราจะไม่สั่งถั่ว แต่จะลองสั่งโรตีมากินกับแกงเสียหน่อย สั่งอะไรไม่ถูกก็ “Can I have the same menu as the table next to us "ฉันขอลอกเมนูแบบโต๊ะข้าง ๆ ก็แล้วกัน" เมนูนั้นเป็นอะไรไม่รู้แต่ รูป กลิ่นน่าจะโอเค เหลือลองแค่รส และอื่มอร่อยกว่าที่คิดแหะ...

ปล.1 ตอนแรกมาถึงที่นี่ สิ่งที่ตกใจที่สุดคือเราไม่เห็นผู้หญิงแม้แต่คนเดียว คือเจอแต่ชายฉกรรจ์ล้วนยืนกันอยู่เต็มถนนคิดในใจเขาประท้วงกันหรือป่าวเนี่ย
ปล. 2 และแล้วเราก็ไม่ได้ที่ชาร์จแบตกล้อง ดังนั้นต่อจากนี้ภาพมือถือก็พอเนอะ i5s ก็เผ็ดได้ เพราะแบตกล้องตอนนี้กระพริบเหมือนแรงที่กำลังจะหมดลงเหมือนกันแล้ว
ชื่อสินค้า:   เที่ยวสิงคโปร์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่