ความล่มสลายแห่งสยามประเทศ สถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์

" จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีม็อบ ค้าน พรบ.นิรโทษกรรม  วันแรกที่ ได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลจะออก พรบ.นิรโทษกรรม  ได้แต่อึ้งและสลดใจกับที่ปรึกษาของรัฐบาล  คิดในใจว่า "ทำไมรัฐบาลโง่ขนาดนี้ ใครเป็นที่ปรึกษา  ตอนนั้น ถ้าเปรียบมวยก็คือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยชนะขาดลอย แค่ประครองตัวเองไปเรื่อยๆ  พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีทางสู้  แต่พอออก พรบ.นิรโทษกรรม ก็เหมือนกับการเข้าไปแลกหมัดกับมวยที่ห่างชั้น แต่ว่า การแลกหมัดย่อมจะมีพลาดโดนน็อคได้    จากการที่รัฐบาลเร่ง ออก พรบ.นิรโทษฯ คงมีสาเหตุจาก 1 ประเมินสถานการณ์พลาด เพราะทุกๆครั้งที่พยายามก่อม็อบจากพรรคตรงข้าม ไม่เคยจุดไฟก่อม็อบติด  2 อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร คงจากประเทศไปนานจนคิดถึงบ้านมาก จนเลอะเลือนเร่งให้ออก พรบ. และคงฟังคำลิ่วล้อที่คอยเอาใจ จนลืมตัว นี่เรียกว่า บุญมีแต่กรรมบัง   จากสถานการณ์นั้น รัฐบาลถ้าอยากให้ อดีตนายกฯกลับบ้าน ก็ควรรอให้ตัดสินโทษอดีตนายกอภิสิทธิ์กับ คุณสุเทพ เสียก่อน จะติดคุก หรือ ประหารชีวิต ก็ตาม  เมื่อออก พรบ.แล้ว รับรองว่าฝ่ายประชาธิปัตย์ต้องยอมรับ  แต่การที่เร่งออกตอนนี้ ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ฝ่ายประชาธิปัตย์มีทางสู้ เพราะว่า ถ้าคุณเป็นอดีตนายกอภิสิทธิ์ คุณจะยอมรับ พรบ.เพื่อให้ตัวเองรอดหรือไม่ ถ้ายอมรับ อาจจะรอดแต่ว่า ไม่มีวันได้เชิดหน้าชูตาในวงการเมืองอีก และอาจจะเป็นเบี้ยล่างพรรคเพื่อไทยตลอดไป  ทางเดียวก็คือ เมื่อโอกาสมาถึง ก็ฮึดสู้ และล้มล้างกระบวนการตัดสินดีกว่า"   เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้  ก็เลยเกิดม็อบขนาดใหญ่เพื่อล้มล้างรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่างที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน  ขณะนี้ ม็อบคงกำลังได้ใจว่า กำลังได้รับชัยชนะ  พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เสื้อเหลืองและกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังดีใจและฮึกเหิม  ส่วนพรรคเพื่อไทยและกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังวางแผนเอาคืน  ..... ถ้าม็อบครั้งนี้สามารถล้มรัฐบาลได้ อะไรจะเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด... นี่คือจุดล่มสลายของประเทศไทยอย่างแท้จริง  เพราะว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกก็ตาม จะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายกพระราชทาน   พรรคเพื่อไทยและมวลชนเสื้อแดง จะต้องมาอีกเป็นหลักล้าน  ถึงเวลานั้น ใครจะรับมือกับม็อบได้  อาจจะมีการปะทะรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างดีที่สุดก็คือทหารออกมาปฏิวัติ จัดระเบียบประเทศ แต่ที่หนักกวานั้น อาจจะมีการแยกประเทศ เป็น เหนือ อีสาน ไทย และปัตตานี  ถ้าคิดอย่างลึกซึ้งโอกาสที่จะเกิดปัญหาใหญ่มีมาก เพราะนักการเมืองใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการศาสนา  ผู้ก่อการร้าย ก็คงหวังอยู่เช่นนั้นเหมือนกัน   ถึงเวลานั้น พวกนักวิชาการ นักศึกษา ประชาชนที่เป็นเหยื่อไปร่วมก่อม็อบ คงจะเสียใจ สำนึกได้ก็สาย เพราะเกิดการสูญเสียชีวิต อวัยวะ สูญเสียอาชีพการงาน ระบบเศรษฐกิจของประเทศแย่ เสียสุขภาพจิต และอาจจะสูญเสียเอกภาพของประเทศ  ความสูญเสียต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นแน่นอน   ทั้งหมดนี้ ก็มาจาก 1 นิสัยคนไทยทั้งหมด ที่ชอบอิสระ ขาดระเบียบวินัย ขาดสปิริต ยอมรับเรื่องอำนาจวาสนา ปล่อยปละละเลย ไม่สำนึกในสิทธิ์ของตน   2 ความเลวของพวกนักการเมืองทั้งปวง ณ ปัจจุบันนี้ อยากทราบว่า มีนักการเมืองคนไหนบ้าง ที่กล้าสาบานว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ใจซื่อมือสะอาด มีสปิริต ไม่เคยคดโกง   3 ความเลวของ ครอบครัวชินวัตร ที่โลภมากไม่รู้จักพอคดโกงมากเกินไป  ตอนแรก อดีตนายกทักษิณ คือวีรบุรุษ ผุ้ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เพราะนโยบายคิดใหม่ทำใหม่ และ บริหารแบบนักธุรกิจก้าวหน้า ผลสุดท้ายคุณก็ไม่สามารถก้าวพ้นคำว่า ทุจริต โลภ ไม่รู้จักพอ  ผลกระทบที่เห็นง่ายที่สุด เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะ ปตท. คนไทยใช้นำมันแพงกว่าชาวบ้าน เกินความเป็นจริง หุ้นของ ปตท.ส่วนมากเป็นของใคร ฯลฯ   และ ความเลวของ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่นๆ  ถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ดีหรือ ก็เลวไม่ต่างกัน เป็นรัฐบาลก็ไม่มีผลงาน ยาเสพติดครองเมือง คดโกง อย่างนายสุเทพ กรณี สปก 4-01 ถามว่า ถ้าเป็นนักการเมืองญี่ปุ่นป่านนี้เขายิงตัวตายไปแล้ว ถ้าเขาคดโกงแล้วโดนจับได้  แต่ที่นี่เมืองไทย นักการเมืองไม่มีคำว่า สปิริต    4 ความโง่งมงาย ของนักวิชาการ คนไทย ที่ไม่รู้จักรักษาสิทธิของตัวเอง ตกเป็นเครื่องมือของพวกนักการเมืองเสมอ       สถานการณ์ตอนนี้ นับว่าล่อแหลมที่สุด ขนาดพระบรมโอรสาธิราช  พระองค์ทรงพระขันติ ไม่เคยตรัสความเห็นทางการเมืองในหลายๆกรณีที่มีม็อบ  ครั้งนี้ พระองค์ก็ยังตรัสแสดงความห่วงใยต่อประเทศชาติ  ดังนั้น พี่น้อง ชาวไทยผู้ร่วมชะตากรรมกับผม  เราควรจะทำยังไงดี เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันจนสูญเสียอย่างหนัก หรือ จนทำให้ประเทศล่มสลายเพราะความเลวของนักการเมืองดังกล่าว.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่