แล้วลูกตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็แว๊บเข้ามา... อ๋อ... ลูกไอ้บลูตัส อ้าว.. มาไม่ทันไร จะไปซะแล้ว...
ผมกลับมาบ้านอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่....
เสียงไอ้เปี๊ยดลอดออกมาตั้งแต่ผมยังไม่ก้าวเข้าบ้าน แต่เสียงนั้นดูแหบเครือ ไม่สดใสเหมือนเมื่อเช้า
อะไรวะ!!! ไอ้หมาเด็กนี่ร้องตั้งแต่เก้าโมงยันบ่ายสี่โมงเลยหรอเนี่ย...
แม่ผมดูกังวลขนาดหนัก ไอ้เปี๊ยกถูกแม่อุ้มอยู่ โดยแม่ใช้ผ้าห่อมันไว้แล้วแกว่งตัวมันไปมาเหมือนเด็กเล็กๆ
ไอ้เปี๊ยกหลับหูหลับตาร้องไม่ยอมหยุด น้ำมูกน้ำตาเปรอะไปหมด....
แม่รีบไปที่รถ บอกให้ผมรีบไปคลีนิคหน้าหมู่บ้าน เพราะเริ่มมีอาการสำลักสลับไปมา
ผมก็เข้าประจำที่คนขับ ใจก็แอบกังวลแทนแม่เล็กน้อย...
เสียงประตูรถปิด คงดึงความสนใจของหมาเด็ก เค้าลืมตาขึ้นเห็นผม และ....
หยุดร้อง........
และหางสีน้ำตาลขาวนั่น... มันส่ายไปมา ดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊ก.....
ผมแอบคร่ำครวญโหยหวนในใจ ด้วยว่าเริ่มเห็นชะตากรรมตัวเองลางๆแล้วสิ......
.........................................
อัลวินเดอะซีรี่ย์...7
แม่มองหน้าผมสลับกับไอ้ตัวเล็กไปมาแล้วทำหน้าแปลกๆ...
หน้าผมก็คงจะแปลกจริงๆนั่นแหล่ะในตอนนั้น.. แต่ผมก็รับเค้ามาอุ้มแต่โดยดี..
และไอ้ตัวเล็กก็ผล็อยหลับจนเกือบจะทันที... คงจะเหนื่อย... ร้องจนหมดแรง
หลังจากที่ผมออกมาจากบ้านในเช้านั้นแล้ว
แม่บ้านพม่าของผมก็พยายามสู้รบปรบมือกับอัลวิน แต่มันไม่ได้ผล อัลวินยังร้องไม่ยอมหยุด
ไม่กินน้ำ กินนม หรืออาหารหมาเด็ก จนกระทั่งแม่ผมกลับมาถึง เค้าก็ยังไม่ยอมกิน จนทุกคนหมดปัญญา
และเจ้าหมาพันธุ์นี้ มักจะมีปัญหากับหลอดลมของตัวเอง
คือหลอดลมเค้าจะเล็กมาก มักจะสำลักหรือหายใจไม่ทันอยู่บ่อยๆ( จนเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น ตอนที่เค้าดีใจมากๆ)ถ้าเค้าร้องหรือเห่านานๆ
มันจึงเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสยองขวัญให้กับทุกคนในบ้านมาก โดยเฉพาะผม
ผมยังไม่แต่งงาน และมันก็หมายความว่าผมยังไม่เคยมีลูก ยังไม่มีลูก ก็แปลว่าผมไม่เคยเลี้ยงเด็ก หรือจะหมาเด็กก็เถอะ
มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินไปกว่าที่ผู้ชายเสเพลอย่างผมจะรับผิดชอบชีวิตเล็กๆใดหนึ่งได้...
แต่ตอนนี้ ผมเจอเรื่องใหญ่กว่านั้น...
แม่ผมบอกว่า....
"อัลวิน" คงเข้าใจว่าผมเป็น................ "แม่"............ของมัน...
ใช่ครับ.. คุณอ่านไม่ผิดหรอก.. ผมถูกลูกหมาตัวนึงเข้าใจว่าผมเป็นแม่...
อย่ายิ้มครับ... ถ้าคุณไม่ใช่ผม คุณไม่เข้าใจผมหรอก ว่ามันปั่นป่วนในท้องขนาดไหน....
อัลวินเดอะซีรี่ย์...6
ผมกลับมาบ้านอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่....
เสียงไอ้เปี๊ยดลอดออกมาตั้งแต่ผมยังไม่ก้าวเข้าบ้าน แต่เสียงนั้นดูแหบเครือ ไม่สดใสเหมือนเมื่อเช้า
อะไรวะ!!! ไอ้หมาเด็กนี่ร้องตั้งแต่เก้าโมงยันบ่ายสี่โมงเลยหรอเนี่ย...
แม่ผมดูกังวลขนาดหนัก ไอ้เปี๊ยกถูกแม่อุ้มอยู่ โดยแม่ใช้ผ้าห่อมันไว้แล้วแกว่งตัวมันไปมาเหมือนเด็กเล็กๆ
ไอ้เปี๊ยกหลับหูหลับตาร้องไม่ยอมหยุด น้ำมูกน้ำตาเปรอะไปหมด....
แม่รีบไปที่รถ บอกให้ผมรีบไปคลีนิคหน้าหมู่บ้าน เพราะเริ่มมีอาการสำลักสลับไปมา
ผมก็เข้าประจำที่คนขับ ใจก็แอบกังวลแทนแม่เล็กน้อย...
เสียงประตูรถปิด คงดึงความสนใจของหมาเด็ก เค้าลืมตาขึ้นเห็นผม และ....
หยุดร้อง........
และหางสีน้ำตาลขาวนั่น... มันส่ายไปมา ดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊ก.....
ผมแอบคร่ำครวญโหยหวนในใจ ด้วยว่าเริ่มเห็นชะตากรรมตัวเองลางๆแล้วสิ......
.........................................
อัลวินเดอะซีรี่ย์...7
แม่มองหน้าผมสลับกับไอ้ตัวเล็กไปมาแล้วทำหน้าแปลกๆ...
หน้าผมก็คงจะแปลกจริงๆนั่นแหล่ะในตอนนั้น.. แต่ผมก็รับเค้ามาอุ้มแต่โดยดี..
และไอ้ตัวเล็กก็ผล็อยหลับจนเกือบจะทันที... คงจะเหนื่อย... ร้องจนหมดแรง
หลังจากที่ผมออกมาจากบ้านในเช้านั้นแล้ว
แม่บ้านพม่าของผมก็พยายามสู้รบปรบมือกับอัลวิน แต่มันไม่ได้ผล อัลวินยังร้องไม่ยอมหยุด
ไม่กินน้ำ กินนม หรืออาหารหมาเด็ก จนกระทั่งแม่ผมกลับมาถึง เค้าก็ยังไม่ยอมกิน จนทุกคนหมดปัญญา
และเจ้าหมาพันธุ์นี้ มักจะมีปัญหากับหลอดลมของตัวเอง
คือหลอดลมเค้าจะเล็กมาก มักจะสำลักหรือหายใจไม่ทันอยู่บ่อยๆ( จนเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น ตอนที่เค้าดีใจมากๆ)ถ้าเค้าร้องหรือเห่านานๆ
มันจึงเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสยองขวัญให้กับทุกคนในบ้านมาก โดยเฉพาะผม
ผมยังไม่แต่งงาน และมันก็หมายความว่าผมยังไม่เคยมีลูก ยังไม่มีลูก ก็แปลว่าผมไม่เคยเลี้ยงเด็ก หรือจะหมาเด็กก็เถอะ
มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินไปกว่าที่ผู้ชายเสเพลอย่างผมจะรับผิดชอบชีวิตเล็กๆใดหนึ่งได้...
แต่ตอนนี้ ผมเจอเรื่องใหญ่กว่านั้น...
แม่ผมบอกว่า....
"อัลวิน" คงเข้าใจว่าผมเป็น................ "แม่"............ของมัน...
ใช่ครับ.. คุณอ่านไม่ผิดหรอก.. ผมถูกลูกหมาตัวนึงเข้าใจว่าผมเป็นแม่...
อย่ายิ้มครับ... ถ้าคุณไม่ใช่ผม คุณไม่เข้าใจผมหรอก ว่ามันปั่นป่วนในท้องขนาดไหน....