พุทธอิสระ.....บอกว่า "ม็อบราชดำเนินทำถูกที่สุดในโลก" เฮ้อ!

กระทู้สนทนา
กู่ไม่กลับจริงๆ ชายไทยอาศัยผ้าเหลืองห่มตนนี้    คราวที่แล้วผมติงเรื่องอ้างของสูงนำเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามญาติทะเลาะกันมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของตนในตอนนี้   ในทำนองว่าพระพุทธเจ้ายังเคยทำมาแล้ว   แล้วพุทธอิสระทำไมจะทำไม่ได้   


ชายไทยห่มเหลืองตนนี้ยังชักแม่น้ำน้ำทั้งห้ามาอ้างเป็นเหตุที่ให้ต้องออกมาพูดบนเวทีราชดำเนิน  ชาวบ้านเขาเดือดร้อนจะนิ่งดูดายได้อย่างไร?   แถมแขวะพระสงฆ์รูปอื่นที่ไม่ออกมาว่าเปลืองข้าวสุกชาวบ้าน   และด่าพระที่ออกมาร่วม(แต่อยู่ฝ่ายเสื้อแดง)ว่าไม่ยึดพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์เป็นสรณะ    สันดาน“เอาดีใส่ตัว  ชั่วใส่คนอื่น”!!นี้เป็นคุณสมบัติฝ่ายใด   สาธุชนน่าจะทราบดี


เอาเรื่องหลักๆ ที่ต้องทำความเข้าใจกับพุทธอิสระตนนี้ก่อน     ผมขอสรุปคำพูดพุทธอิสระที่ปราศรัยบนเวทีราชดำเนินสั้นๆ ตามนี้...เมื่อชาวบ้านเขาเดือดร้อนเขาทะเลาะกันหรือโดนรัฐข่มเหงหรือรัฐฉ้อราษฏร์บังหลวงเองนั้น  เป็นหน้าที่พระที่ต้องออกมาชี้ผิดชี้ถูก.....แล้วพุทธอิสระบอกกับมวลชนที่ราชดำเนินว่าที่ออกมาชุมนุมกันในยามนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดในโลก!!    พุทธอิสระเชิญชวนให้คนออกมาชุมนุมเยอะๆ ในวันที่24  ....โยมที่จะไปฟังธรรมก็ให้มาชุมนุมแทนเพื่อขับไล่รัฐบาลเพื่อชำระล้าง.......และตรงนี้พุทธอิสระก็บอกว่าคำว่า “ธรรมะ”แปลว่า ชำระล้าง   แล้วชักชวนให้ญาติโยมออกมาชุมนุมชำระล้างตระกูลชินวัตร    ......มันก้อแปลของมันไปตามอำเภอใจตามสถานการณ์ซะงั้น!!      คราวที่แล้วก็ดึงพระพุทธเจ้ามาเทียบกับพฤติกรรมของตนเอง   คราวนี้ก็แปลคำว่า "ธรรมะ“ เข้าข้างตัวเอง    คำว่าธรรมะแปลตามอรรถะว่าดำรงอยู่ (ในสภาวะนั้นๆ)   ไม่ใช่แปลว่าชำระล้างอย่างที่พุทธอิสตระ


นอกจากดึงจะพระพุทธ  พระธรรมลงมาแล้ว  พุทธอิสระน้ำลายแตกฟองพาลไปด่าพระสงฆ์อีกว่ากินๆ นอนๆ ไม่ออกมาชี้ถูกชี้ผิดให้ชาวบ้านนั้นเปลืองข้าวสุก!!    เรียกได้ว่าหมอนี่พ่นน้ำลายใส่พระรัตนตรัยชนิดที่ชาวม็อบที่ราชดำเนินเห็นดีเห็นงามเป่านกหวีดขานรับด้วยทุกที   ถึงตรงนี้   นึกอยากจะยืมฝ่ามือหลวงพี่พยอมตบกะโหลกพุทธอิสระให้ตื่นจากภวังค์ก็เกรงว่าท่านพยอมจะลำบากไปด้วย   จึงขอชี้แจงพุทธอิสระด้วยความเห็นตามนี้

1.    ญาติโยมเขากำลังทะเลาะกันในด้านความคิดเห็น  การตีความที่แตกต่าง ...มันไม่ใช่กิจของสงฆ์เลยที่จะเข้าไปยุ่มย่าม  ชี้นำ  หรือยืนอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแล้วบอกว่าฝ่ายที่ตัวเองยืนอยู่กำลังทำถูกที่สุดในโลก    แม้ในสมัยพระพุทธกาล  พระสงฆ์ในเมืองที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ยังทะเลาะกันเรื่องการตีความพระวินัยเหมือนฝ่ายโลกที่ตีความกฏหมายในตอนนี้เด๊ะ.....พระฝ่ายหนึ่งเป็นพระนักปกครอง  อีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายพระวินัย...ตีความหมายพระวินัยไปคนละทางทะเลาะกันแทบจะถลกผ้าสบงเข้าห้ำหั่นกัน    พระพุทธเจ้าเกิดความระอา...จึงปลีกวิเวกไปประทับในป่าที่มีช้างป่าเลไลย์และลิงคอยปรนนิบัติ(ซึ่งเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์)    พระพุทธเจ้าผู้ทรงบัญญัติพระวินัยขึ้นมาด้วยพระองค์เอง   ยังไม่ทรงเข้าไปยุ่งในขณะที่พระสงฆ์ทะเลาะกัน    พระองค์ทรงปล่อยให้ทะเลาะกันจนชาวบ้านระอาไม่ยอมใส่บาตรให้   ต่อมาเมื่อสำนึกได้ว่าทะเลาะกันไปก็รังแต่จะเสีย   จึงไปขอขมาพระพุทธเจ้าพระองค์จึงทรงชี้ทางผิดถูกให้    แต่พุทธอิสระบอกว่า   ที่ต้องออกมาร่วมชุมนุมก็เพื่อต้องการชี้ทางผิดถูกให้ญาติโยม   แถมกำชับว่าม็อบราชดำเนินทำถูกที่สุดในโลก!!   เวอร์ซะไมมี!!


2.    บอกว่าพระสงฆ์ต้องเป็นที่พึ่งให้ญาติโยม   แล้วพาลไปด่าพระสงฆ์ที่กินๆ นอนๆ (ไม่ออกมร่วมชุมนุมที่ราชดำนเนิน)เสียๆ หายๆ เลี้ยงเปลืองข้าวสุกชาวบ้าน!!.....จุกไหม? ท่านกรรมการเถระสมาคมทั้งหลาย?   ถ้าจุกก็กรุณาลากคอพุทธอิสระกลับวัดทีขอรับ      ผมไม่รู้ว่าพุทธอิสระจบนักธรรมชั้นเอกแบบไหน   จนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าการเป็นที่พึ่งของญาติโยมนั้นหมายถึงเป็นที่พึ่งทางธรรม    ไม่ใช่เป็นการเสนอหัวโล้นๆ ไปที่พึ่งด้านการเมืองให้ฝ่ายหนึ่ง  แล้วโจมดีด่าอีกฝ่ายหนึ่ง    


3.    เรื่องการสมเด็จโตจุดเทียนเข้าวังประท้วงในรัชสมัยรัชกาลที่สี่นั้น     ฟังพุทธอิสระทีไรแกก็จะฉายแล้วเหตุการณ์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเพื่ออยากจะบอกว่าพระสงฆ์สามารถเข้ามายุ่งเรื่องบ้านเมืองได้    เรียกได้ว่าเอาสมเด็จโต  พรมรังสีเป็นไอดอล    โดยลืมข้อเท็จจริงรบางประกาว่า....จริงๆ แล้วสมเด็จโตเป็นพระประเภทไหนเป็นพระปฏิบัติหรือพระที่เน้นไสยสาสน์เครื่องรางของขลัง     เป็น “พระหลวง” หรือ “พระราษฏร์”  อย่าลืมว่าสมัยนั้นพระสงฆ์ได้แตกแยกเป็นสองฝักสองฝ่ายแล้วคือธรรมยุตินิกายและมหานิกาย  แม้แต่สถานะของวัดก็ยังถูกแบ่งแยกเป็นวัดราษฏร์วัดหลวง   และประการสุดท้ายก็คือระบอบการปกครองในสมัยนั้นคือสมบูรณาญาสิทธิราชย์    สมเด็จโตเป็นพระสหายของวชิรญาณรภิกขุ(รัชกาลที่สี่)เรื่องการทักท้วงโดยจุดเทียนเข้าวังนั้นจึงน่าจะพออลุ่มอล่วยได้     ผมสงสัยว่าถ้าเป็นพระรูปอื่นโดยเฉพาะสายมหานิกายทำอย่างสมเด็จโตบ้างผลจะออกมาอย่างไร?     ทั้งหมดทั้งมวลก็เพียงอยากจะบอกพุทธอิสระว่า  ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลย     การออกมาแล้วอ้างว่ามาเพื่อชี้ถูกชี้ผิดด้วยข้อมูลไม่เพียงพอ   ข้อมูลจากฝ่ายเดียว  ข้อมูลที่อิงแอบอคติ   ข้อมูลที่ทึกทักเอาเองสรุปเองอย่างนี้    มันไม่ต่างกับสาดน้ำมันใส่กองเพลิงเลย

ปล  ขออภัยสมาชิกท่านหนึ่งด้วยที่เคยบอกว่าอะไรที่เกี่ยวกับพุทธอิสระแท็กศาสนาอย่าเดียว  ขออนุญาตแท็กการเมืองด้วยครับ    ผมส่งกระทู้นี้เมื่อสิบนาทีที่ผ่านมา   แต่โดนลบ   ลองส่งใหม่...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่