ช่วงนี้ฟังเพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่งบ่อยๆ รู้สึกดีกับเพลงให้กำลังใจเพลงนี้ครับ
พอดีเหลือบไปเห็นบทความในเฟสบุ๊คของคุณจิตอัจฉริยะ Genius7 แล้วน่าสนใจและน่าเทิดทูนมากครับ
#####################################
:::เวคา...เรือน้อยสอนชีวิต:::
เรื่องราวที่คนไทย..ควรรับรู้และระลึกถึงตลอดไป...
..นิยามแห่งเรือเล็กควรออกจากฝั่งของจริง..
....เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รักยิ่งของพวกเรา
ที่พระองค์ทรงใช้ความพยายามและมุ่งมั่นในการทรงเรือใบลำเล็ก ๆ
ข้ามอ่าวไทยด้วยพระองค์เองเป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙
...จากหน้าหาดพระราชวังไกลกังวล หัวหิน จนถึง
หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รวมระยะทางประมาณ ๖๐ ไมล์ทะเลหรือ ๑๑๑ กิโลเมตร
โดยมีเรือใบที่แล่นตามเสด็จไปด้วยเพียงลำเดียวเท่านั้น.....
...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงออกแบบเรือใบ ต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง
ทรงเลื่อยไม้ ทรงใช้กบไสไม้ และนำไม้เหล่านั้นมาประกอบเรือด้วยพระองค์เองแทบทั้งสิ้น
และทรงตั้งชื่อลำนี้ว่า เรือ "เวคา" เป็นชื่อ ดาวเวคา (VEGA) ที่สุกสว่างสดใสบนท้องฟ้า
...หลังจากต่อเรือเสร็จแล้วก็ทรงนำเรือลงน้ำ เพื่อทดสอบการใช้งานจริง...
ทรงฝึกฝนวิธีการบังคับใบเรือ และประคับประคองเรืออย่างไร เรือใบจึงจะแล่นไปข้างหน้าได้
ทรงเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่ผู้เล่นเรือใบพึงต้องใช้ การดูทิศทางลม กระแสคลื่น ดวงดาว และสิ่งต่าง ๆ
... เมื่อการเตรียมการต่าง ๆ พร้อม รวมทั้งได้มีการฝึกซ้อมจนชำนาญและเกิดความเชี่ยวชาญดีแล้ว..การเดินทางที่ท้าทาย และยาวไกลครั้งสำคัญก็ได้เริ่มต้นขึ้น
...เช้ามืดของวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแล่นเรือใบหลวง "เวคา" ลำนี้ ออกจากหน้าหาดพระราชวังไกลกังวล หัวหิน เมื่อเวลา ๐๔.๒๘ นาที พร้อมกับเรือใบของนายทหารที่ติดตามไปด้วย อีก ๑ ลำ โดยกำหนดเวลาว่า จะถึง หาดเตยงาม อ.สัตหีบ ในเวลา ๑๖.๐๐ น. ของวันเดียวกัน...เพื่อปักธงหน้ากองบัญชาการนาวิกโยธิน...
....ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนพอสมควร มีเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงลำพังบนเรือใบหลวง กับเกลียวคลื่น สายลม และท้องฟ้า ...ทำให้เวลาเนิ่นนานออกไปเกินกว่าหมายกำหนดการ จากสี่โมงเย็น จนฟ้ามืดมิด ก็ยังไม่ปรากฏเห็นเรือใบหลวงเวคามาที่จุดหมายที่สัตหีบเลย...ทำให้คณะที่รอรับเสด็จเป็นกังวลมาก...ด้วยเปลวแดดที่ร้อนแรงทั้งวัน กับพระวรกายที่อาจจะอ่อนล้า อาจจะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมาได้....แต่ทุกคนก็ยังเฝ้ารอด้วยความหวังต่อไป....
...และแล้วเมื่อเวลา ๒๑.๒๘ น. เรือใบหลวง "เวคา" พร้อมด้วยเรือติดตามก็ปรากฏขึ้น ณ หาดเตยงาม อ.สัตหีบ ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก้าวลงมาจากเรือพร้อมด้วยธงที่เตรียมไว้ ปักลงตรงหน้ากองบัญชาการนาวิกโยธิน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของคณะรับเสด็จทั้งปวง...
...หลังจากนั้น จึงทรงมีพระราชดำรัสอันควรยิ่งที่ชาวไทยเราทุกคนจะรับใส่เกล้ามาเป็นหลักให้ชีวิต ความว่า...
"....การเล่นเรือ สอนให้คนคิดเอง ทำเอง
เพราะเมือเราลงไปเล่นเรือแล้ว เรือไม่วิ่งจะไม่มีใครมาคอยสอน
เราต้องคิดเอง ทำเอง ว่าลมมาทางไหน
ลมแรงขนาดนี้ เราสู้ไหวไหม ถ้าไหวเราก็สู้
ถ้าไม่ไหว แล้วเรายังสู้ เรือก็คว่ำ
ถ้าลมเบา เราจะต้องทำอย่างไร เรือจึงจะวิ่ง
แล้วถ้าไม่มีลมเราจะทำอย่างไร
เราก็ควรจะนั่งรอสักครู่ ให้ลมมา
ถ้าเราเล่นเรือเป็น ดูทิศทางลมเป็น
ถ้าเราเป็นตัวนี้ เด็กไทยเป็นตัวนี้ แล้วนำมาใช้ในชีวิต
นำมาใช้ในกิจการงานได้ ไม่มีทางขาดทุน
เพราะเรารู้เทคนิคการใช้ชีวิต
เด็กไทยจะรู้จักและเข้าใจการคิดเอง ทำเอง ..."
...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ สามารถพาเรือน้อยที่ทรงต่อขึ้นเองขนาดเล็กเพียง ๑๓ ฟุต ....ข้ามฝั่งทะเลด้วยพละกำลังของพระองค์เอง ท่ามกลางเกลียวคลื่น สายลม และเปลวแดด ได้เป็นผลสำเร็จ...
....หากยามใดที่เราต้องการกำลังใจก็จงมองดูเรือใบหลวง "เวคา" ลำนี้เถิด ให้เรือน้อยนี้แล่นนำทางเรือแห่งชีวิตของเรา ทะยานแล่นออกจากฝั่งแล้วมุ่งไปสู่ความสำเร็จที่มุ่งหวังอย่างเต็มที่
...ด้วยพลังของเราเองอย่างเต็มภาคภูมิ...
:::จิตอัจฉริยะยกกำลังสอง:::
################################################
เครดิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Genius7Book
กราบแทบพระบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
นิยามแห่งเรือเล็กควรออกจากฝั่งของจริง..
พอดีเหลือบไปเห็นบทความในเฟสบุ๊คของคุณจิตอัจฉริยะ Genius7 แล้วน่าสนใจและน่าเทิดทูนมากครับ
#####################################
:::เวคา...เรือน้อยสอนชีวิต:::
เรื่องราวที่คนไทย..ควรรับรู้และระลึกถึงตลอดไป...
..นิยามแห่งเรือเล็กควรออกจากฝั่งของจริง..
....เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รักยิ่งของพวกเรา
ที่พระองค์ทรงใช้ความพยายามและมุ่งมั่นในการทรงเรือใบลำเล็ก ๆ
ข้ามอ่าวไทยด้วยพระองค์เองเป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙
...จากหน้าหาดพระราชวังไกลกังวล หัวหิน จนถึง
หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รวมระยะทางประมาณ ๖๐ ไมล์ทะเลหรือ ๑๑๑ กิโลเมตร
โดยมีเรือใบที่แล่นตามเสด็จไปด้วยเพียงลำเดียวเท่านั้น.....
...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงออกแบบเรือใบ ต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง
ทรงเลื่อยไม้ ทรงใช้กบไสไม้ และนำไม้เหล่านั้นมาประกอบเรือด้วยพระองค์เองแทบทั้งสิ้น
และทรงตั้งชื่อลำนี้ว่า เรือ "เวคา" เป็นชื่อ ดาวเวคา (VEGA) ที่สุกสว่างสดใสบนท้องฟ้า
...หลังจากต่อเรือเสร็จแล้วก็ทรงนำเรือลงน้ำ เพื่อทดสอบการใช้งานจริง...
ทรงฝึกฝนวิธีการบังคับใบเรือ และประคับประคองเรืออย่างไร เรือใบจึงจะแล่นไปข้างหน้าได้
ทรงเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่ผู้เล่นเรือใบพึงต้องใช้ การดูทิศทางลม กระแสคลื่น ดวงดาว และสิ่งต่าง ๆ
... เมื่อการเตรียมการต่าง ๆ พร้อม รวมทั้งได้มีการฝึกซ้อมจนชำนาญและเกิดความเชี่ยวชาญดีแล้ว..การเดินทางที่ท้าทาย และยาวไกลครั้งสำคัญก็ได้เริ่มต้นขึ้น
...เช้ามืดของวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแล่นเรือใบหลวง "เวคา" ลำนี้ ออกจากหน้าหาดพระราชวังไกลกังวล หัวหิน เมื่อเวลา ๐๔.๒๘ นาที พร้อมกับเรือใบของนายทหารที่ติดตามไปด้วย อีก ๑ ลำ โดยกำหนดเวลาว่า จะถึง หาดเตยงาม อ.สัตหีบ ในเวลา ๑๖.๐๐ น. ของวันเดียวกัน...เพื่อปักธงหน้ากองบัญชาการนาวิกโยธิน...
....ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนพอสมควร มีเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงลำพังบนเรือใบหลวง กับเกลียวคลื่น สายลม และท้องฟ้า ...ทำให้เวลาเนิ่นนานออกไปเกินกว่าหมายกำหนดการ จากสี่โมงเย็น จนฟ้ามืดมิด ก็ยังไม่ปรากฏเห็นเรือใบหลวงเวคามาที่จุดหมายที่สัตหีบเลย...ทำให้คณะที่รอรับเสด็จเป็นกังวลมาก...ด้วยเปลวแดดที่ร้อนแรงทั้งวัน กับพระวรกายที่อาจจะอ่อนล้า อาจจะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมาได้....แต่ทุกคนก็ยังเฝ้ารอด้วยความหวังต่อไป....
...และแล้วเมื่อเวลา ๒๑.๒๘ น. เรือใบหลวง "เวคา" พร้อมด้วยเรือติดตามก็ปรากฏขึ้น ณ หาดเตยงาม อ.สัตหีบ ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก้าวลงมาจากเรือพร้อมด้วยธงที่เตรียมไว้ ปักลงตรงหน้ากองบัญชาการนาวิกโยธิน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของคณะรับเสด็จทั้งปวง...
...หลังจากนั้น จึงทรงมีพระราชดำรัสอันควรยิ่งที่ชาวไทยเราทุกคนจะรับใส่เกล้ามาเป็นหลักให้ชีวิต ความว่า...
"....การเล่นเรือ สอนให้คนคิดเอง ทำเอง
เพราะเมือเราลงไปเล่นเรือแล้ว เรือไม่วิ่งจะไม่มีใครมาคอยสอน
เราต้องคิดเอง ทำเอง ว่าลมมาทางไหน
ลมแรงขนาดนี้ เราสู้ไหวไหม ถ้าไหวเราก็สู้
ถ้าไม่ไหว แล้วเรายังสู้ เรือก็คว่ำ
ถ้าลมเบา เราจะต้องทำอย่างไร เรือจึงจะวิ่ง
แล้วถ้าไม่มีลมเราจะทำอย่างไร
เราก็ควรจะนั่งรอสักครู่ ให้ลมมา
ถ้าเราเล่นเรือเป็น ดูทิศทางลมเป็น
ถ้าเราเป็นตัวนี้ เด็กไทยเป็นตัวนี้ แล้วนำมาใช้ในชีวิต
นำมาใช้ในกิจการงานได้ ไม่มีทางขาดทุน
เพราะเรารู้เทคนิคการใช้ชีวิต
เด็กไทยจะรู้จักและเข้าใจการคิดเอง ทำเอง ..."
...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ สามารถพาเรือน้อยที่ทรงต่อขึ้นเองขนาดเล็กเพียง ๑๓ ฟุต ....ข้ามฝั่งทะเลด้วยพละกำลังของพระองค์เอง ท่ามกลางเกลียวคลื่น สายลม และเปลวแดด ได้เป็นผลสำเร็จ...
....หากยามใดที่เราต้องการกำลังใจก็จงมองดูเรือใบหลวง "เวคา" ลำนี้เถิด ให้เรือน้อยนี้แล่นนำทางเรือแห่งชีวิตของเรา ทะยานแล่นออกจากฝั่งแล้วมุ่งไปสู่ความสำเร็จที่มุ่งหวังอย่างเต็มที่
...ด้วยพลังของเราเองอย่างเต็มภาคภูมิ...
:::จิตอัจฉริยะยกกำลังสอง:::
################################################
เครดิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กราบแทบพระบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญ