ณ. ช่วงเวลานี้ บรรยากาศการลงทุนดูไม่สดใสเอาเสียเลยครับ… แม้ผมจะเชื่อว่า “ภาพใหญ่” ของบ้านเราจะยังคงไปต่อ แต่ก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่จะเป็น “วิกฤต” ขึ้นอีกหรือไม่… เหตุการณ์ที่เราต้องเฝ้าจับตามองในช่วงนี้ ได้แก่ เหตุการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง พรบ.เงินกู้สองล้านล้าน และเหตุการณ์ภายนอกบ้านเราที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ก็คือ การลดการใช้มาตราการคิวอี ของสหรัฐนั่นเองครับ…

หากเกิดเหตุการ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คนที่เตรียมตัวป้องกันไว้ก่อนย่อมได้เปรียบคนที่ไม่ระมัดระวัง หรือไม่เตรียมพร้อมรับวิกฤตอะไรเลย… ลองมาดูแนวทางการ “เตรียมพร้อม” ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับตัวผมเอง และเพื่อนๆ นักลงทุนดังต่อไปนี้ครับ…

ประการแรก… อย่าก่อหนี้ใหม่โดยไม่จำเป็น

หนี้สินนั้นเวลาเศรษฐกิจดีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเข้าสู่วิกฤต หนี้สินจะมาซ้ำเติมเราแทบจะทันทีครับ คนที่ไม่มีหนี้สินก็จะตัวเบา เวลาเกิดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจก็จะสามารถอยู่รอดได้ เพราะหากเกิดวิกฤตการประคับประคองให้ผ่านไปให้ได้ก็เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งเหมือนกันครับ … ถ้ามีหนี้เก่าก็พยายามโปะให้หมดเร็วๆ แต่ถ้าคิดจะก่อหนี้ใหม่ๆ โดยไม่จำเป็น … ลองหยุดคิดก่อนดีกว่าครับ…

ประการที่สอง… กันเงินไว้สำรองยามฉุกเฉิน

สำหรับผมแล้ว ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก นอกจากจะไม่ก่อหนี้ใหม่ๆ แล้ว เราควรกันเงินไว้สำรองยามฉุกเฉินด้วยครับ เงินก้อนนี้อาจเป็นเงินสด ไว้เป็นสภาพคล่อง ไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น สำหรับผมเราควรกันเงินสดไว้ใช้ เผื่อเอาไว้อย่างน้อยสามเดือนครับ

ประการที่สาม… กระจายการลงทุน

การเตรียมรับในข้อนี้สำหรับนักลงทุนครับ… หากเราลงทุนในสินทรัพย์ “เสี่ยง” เราควรกระจายการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงลงครับ ยกตัวอย่างเช่น หากเราลงทุนในหุ้น ก็ควรแบ่งเป็นการลงทุนในหุ้นปันผลบ้าง หุ้นโตไวบ้าง หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมบ้าง ซื้อประกันชีวิตบ้าง ตามความเหมาะสมครับ…

ประการที่สี่… จำลองสภาวะการณ์ล่วงหน้า…

สำหรับผมแล้วผมมักจะมองภาพการลงทุนออกมาหลายแบบ จะไม่ปักใจเชื่อภาพใดภาพหนึ่งเพียงอย่างเดียว ลองจำลองสถานะการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ เราจะทำอย่างไร แบบดีสุดๆ เราจะทำอย่างไร แบบกลางๆ เราจะลงทุนอย่างไร เพื่อความไม่ประมาทครับ

ประการที่ห้า… ตัดสินใจให้ช้าลง

หากเราเจอกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ การตัดสินใจให้ช้าลงจะช่วยเราได้ครับ เช่น ถ้าเราเป็นนักลงทุนในหุ้น เวลาจะซื้อจะขายควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนลงมือ เคลื่อนไหวให้ช้าลง ไม่รีบร้อนซื้อในช่วงจังหวะที่ดูดี หรือรีบขายขาดทุนในช่วงจังหวะที่เลวร้าย … การตัดสินใจให้ช้าเข้าไว้ในยามเกิดวิกฤต ช่วยผมให้ผ่านเหตุการณ์มาได้ดีทีเดียวครับ…

สำหรับผมแล้วตลาดในช่วงนี้ ความรู้สึกแบบนี้ผมเคยต้องประสบพบเจอกับมันมาแล้ว และผมก็พบว่าเหตุการณ์ต่างๆ นั้นมันจะค่อยๆ ผ่านไปได้เอง แต่สำหรับครั้งนี้จะเป็นแค่ฝนตก หรือพายุเข้าผมเองก็ไม่อาจจะคาดเดาอะไรได้เลยครับ ในระยะสั้นๆ แม้เราไม่อาจคาดเดาได้ แต่ในระยะยาวนั้นผมยังคงมีมุมมองที่สดใสเสมอสำหรับการลงทุนในหุ้น ผมขอยกแนวทางการลงทุนของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปรมาจารย์้ด้านการลงทุนแนวเน้นคุณค่าในประเทศได้ไว้ดังต่อไปนี้ครับ

ลงทุนในหุ้นโดย ดร. นิเวศน์

“ต้องดูตัวธุรกิจ อย่าไปดูดัชนีหุ้นราคาหุ้นมากเกินไป ต้องไปดูตัวธุรกิจเรียนรู้ว่าบริษัทเขาทำอะไร ขายอะไร ขายดีหรือเปล่า กำไรหรือเปล่า คู่แข่งเป็นอย่างไร นี่คือการศึกษาที่ตัวกิจการจริงๆ นี่คือการลงทุนที่เรียกว่า Value ถ้าไปลงทุนแบบเกาะกระดานขึ้นซื้อๆขายๆ อย่างนี้ผมคิดว่ามันเป็นการเก็งกำไร อย่างนี้อันตรายมาก ต้องศึกษาธุรกิจเพราะว่าหุ้นจริงๆแล้วมันคือธุรกิจ เราเข้าไปซื้อหุ้นเราเป็นเจ้าของธุรกิจ”

ใครจะตื่นตกใจ หรือทำใจไม่ได้กับหุ้นที่กำลังตกอย่างหนักหน่วงในช่วงระยะเวลานี้ สำหรับผมแล้วหากเรา “ถอนเงิน” บางส่วนออกมาใช้จ่ายบ้าง แล้วทำให้เรา “สบายใจขึ้น” ผมคิดว่าก็สามารถทำได้นะครับไม่ได้มีกฏกติกาห้ามไม่ให้ทำแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่ถือหุ้นมายาวนานและมีการคำนวน Margin of Safety หรือส่วนเผื่อความปลอดภัยไว้เป็นอย่างดีแล้ว ช่วงเวลานี้อาจคุ้มค่าที่จะ “เสี่ยง” ลงทุนเพิ่มก็เป็นได้ครับ

ถ้าเราคิดจะลงทุนทำธุรกิจ คงไม่มีใครคิดว่าลงทุนตอนนี้จะไปขายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หากเราลงทุนในหุ้นให้เหมือนการลงทุนทำธุรกิจ เป็นนักลงทุนระยะยาว ใจเราจะนิ่ง และไม่หวั่นไหวง่ายๆ ตราบใดที่กิจการที่เราถืออยู่ยังมั่นคง และเติบโตขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอครับ

… อย่าเสียพลังงานโดยไม่จำเป็นไปกับความท้อแท้ ให้เปลี่ยนเป็นพลังงานที่ดี ศึกษาหาความรู้การลงทุน ทำการบ้านให้มากขึ้น ความสำเร็จมีได้ทุกคนถ้าไม่ท้อถอยไปเสียก่อนครับ …

วันนี้ถือเป็นประสบการณ์ ได้รับ “วัคซีน” ภูมิคุ้มกันทางการลงทุนเราสูงขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ลองปรับไปใช้กันดูนะครับ เราไม่รู้ครับว่า “อะไรจะเกิดขึ้น” เพราะคำว่า “อนาคต” นั้นมักจะไม่แน่นอนเสมอครับ…

แวะทักทายกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada