น้องหมาผมชื่อขาหมูครับ น้องหมาตัวนี้เปรียบเสมือนน้องชายของผม คอยดูแลพ่อกับแม่ไม่ให้เหงาตั้งแต่ผมจากบ้านไปเรียนและทำงานที่อื่นนานถึง 8 ปี เมื่อผมกลับมาอยู่บ้าน ผมเริ่มผูกพัน เริ่มสนิทกัน อุ้มเล่นได้ ชอบมานั่งแอบในตักของผม ... ขาหมูชอบเล่นฟุตบอล...เล่นเก่งมากเลยครับ ชอบให้สาดน้ำแล้ววิ่งไล่ ชอบอาบน้ำ ชอบหวงของกิน โดยเฉพาะปลาท่องโก๋กับไก่ทอด เฝ้าได้ทั้งวัน
ครั้งนึงที่สัตวแพทย์มาฉีดยาให้ที่บ้าน ซึ่งจริงๆแล้วมาฉีดให้ลูกของขาหมู (ชื่อหนุงหนิง) มันวิ่งออกจากบ้านไปหลบในป่า ผมวิ่งตามจนมันจนมุม มันตัวสั่นเลยฮะ พออุ้มเท่านั้นแหละ ฉี่รดอ้อมกอดผมเลย โอ๋กันพักใหญ่เลยครับ เพราะมันเคยไม่สบายและโดนหมอคนนี้ฉีดยาไปตั้ง 6 เข็ม ได้ยินเสียงหมอทีไร หนีกระเจิงทุกที...
ผมเคยแอบคิดว่าขาหมูคือน้องชายของผมจริงๆนะ เพราะแม่ผมเคยแท้งครั้งนึง เลยอดแอบคิดไม่ได้ว่า น้องเรามาเกิดในร่างนี้แทนหรือเปล่านะ เพราะขาหมูรู้ฟัง รู้เรื่อง มีความรู้สึกทุกอย่าง ... แต่ไม่ว่าจะมาเกิดแบบไหน ผมก็รักหมาตัวนี้เหมือนน้องชายอยู่ดี พ่อกับแม่ของผมก็รักมันเหมือนลูก ตั้งใจเลี้ยงดูมาเป็นเวลานาน แต่ชีวิตก็ต้องมีพบมีจาก ...
เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 แม่กับผมกำลังทำงานอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงขาหมูร้อง แม่ผมทิ้งของทุกอย่างที่อยู่ในมือ รีบวิ่งออกไปก่อนผม เพราะแกจำเสียงขาหมูได้ดี ... พบขาหมูถูกหมาตัวใหญ่จากที่ไหนไม่รู้ กำลังกัดนอนดิ้นอยู่ที่พื้นหน้าบ้าน แม่รีบวิ่งเข้าไปอุ้มขาหมู แต่ด้วยความที่เจ็บมาก ขาหมูกัดนิ้วแม่ไม่ปล่อยเลยครับ จนแม่ต้องบอกว่า "ขาหมู ปล่อยแม่นะลูก" ซึ่งตอนนั้นแม่ผมร้องไห้แล้ว มันปล่อยทันที แม้จะเจ็บมากๆ ก็ตาม ... แม่รีบโทรตามพ่อให้ไปส่งโรงพยาบาลและสัตวแพทย์ให้กลับมาพักที่บ้านพ่อเพื่อดูอาการ
เช้าวันที่เสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2556 เป็นอีกวันที่ครอบครัวเราจะจำตลอดไป แม่ผมกำลังจะเปิดร้านขายของ พ่อผมโทรมาบอกว่า "ขาหมู...ตายแล้ว" แม่ร้อง ผมก็ร้อง เลยให้พ่อนำศพมาไว้หลังบ้าน เพราะของทำแล้วก็ต้องขาย ขายไปขายมาน้ำตาแม่ไหลทั้งวันจนลูกค้าสงสัย เราฝังศพมันไว้หน้าบ้านและปลูกต้นมะลิไว้ตรงนั้น และตั้งใจว่าจะทำบุญตักบาตรให้เป็นเวลา 7 วัน เพื่อหวังว่าให้เค้าได้มีความสุข ได้เกิดมาพบเจอกันอีกครั้งในที่ใดซักที่หนึ่ง
วันนี้ผมเลยขอเพ้อหน่อยนะครับ ไม่มีกำลังใจ ไม่ได้ยินเสียงขาหมูอีกแล้ว สิ่งที่ตั้งใจจะทำตอนนี้คือดูแลต้นมะลิให้ดีอย่างที่ดูแลขาหมู และดูแลลูกสาวที่ขาหมูฝากไว้กับครอบครัวเรา ทำวีดีโอเก็บไว้เพื่อระลึกความสุขที่ขาหมูมอบให้ครอบครัวผม จดจำไว้ในใจตลอดไป...
น้องหมาตายเมื่อวาน วันนี้ผมไม่รู้จะทำอะไร ทำอะไรไม่ถูกเลย
ครั้งนึงที่สัตวแพทย์มาฉีดยาให้ที่บ้าน ซึ่งจริงๆแล้วมาฉีดให้ลูกของขาหมู (ชื่อหนุงหนิง) มันวิ่งออกจากบ้านไปหลบในป่า ผมวิ่งตามจนมันจนมุม มันตัวสั่นเลยฮะ พออุ้มเท่านั้นแหละ ฉี่รดอ้อมกอดผมเลย โอ๋กันพักใหญ่เลยครับ เพราะมันเคยไม่สบายและโดนหมอคนนี้ฉีดยาไปตั้ง 6 เข็ม ได้ยินเสียงหมอทีไร หนีกระเจิงทุกที...
ผมเคยแอบคิดว่าขาหมูคือน้องชายของผมจริงๆนะ เพราะแม่ผมเคยแท้งครั้งนึง เลยอดแอบคิดไม่ได้ว่า น้องเรามาเกิดในร่างนี้แทนหรือเปล่านะ เพราะขาหมูรู้ฟัง รู้เรื่อง มีความรู้สึกทุกอย่าง ... แต่ไม่ว่าจะมาเกิดแบบไหน ผมก็รักหมาตัวนี้เหมือนน้องชายอยู่ดี พ่อกับแม่ของผมก็รักมันเหมือนลูก ตั้งใจเลี้ยงดูมาเป็นเวลานาน แต่ชีวิตก็ต้องมีพบมีจาก ...
เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 แม่กับผมกำลังทำงานอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงขาหมูร้อง แม่ผมทิ้งของทุกอย่างที่อยู่ในมือ รีบวิ่งออกไปก่อนผม เพราะแกจำเสียงขาหมูได้ดี ... พบขาหมูถูกหมาตัวใหญ่จากที่ไหนไม่รู้ กำลังกัดนอนดิ้นอยู่ที่พื้นหน้าบ้าน แม่รีบวิ่งเข้าไปอุ้มขาหมู แต่ด้วยความที่เจ็บมาก ขาหมูกัดนิ้วแม่ไม่ปล่อยเลยครับ จนแม่ต้องบอกว่า "ขาหมู ปล่อยแม่นะลูก" ซึ่งตอนนั้นแม่ผมร้องไห้แล้ว มันปล่อยทันที แม้จะเจ็บมากๆ ก็ตาม ... แม่รีบโทรตามพ่อให้ไปส่งโรงพยาบาลและสัตวแพทย์ให้กลับมาพักที่บ้านพ่อเพื่อดูอาการ
เช้าวันที่เสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2556 เป็นอีกวันที่ครอบครัวเราจะจำตลอดไป แม่ผมกำลังจะเปิดร้านขายของ พ่อผมโทรมาบอกว่า "ขาหมู...ตายแล้ว" แม่ร้อง ผมก็ร้อง เลยให้พ่อนำศพมาไว้หลังบ้าน เพราะของทำแล้วก็ต้องขาย ขายไปขายมาน้ำตาแม่ไหลทั้งวันจนลูกค้าสงสัย เราฝังศพมันไว้หน้าบ้านและปลูกต้นมะลิไว้ตรงนั้น และตั้งใจว่าจะทำบุญตักบาตรให้เป็นเวลา 7 วัน เพื่อหวังว่าให้เค้าได้มีความสุข ได้เกิดมาพบเจอกันอีกครั้งในที่ใดซักที่หนึ่ง
วันนี้ผมเลยขอเพ้อหน่อยนะครับ ไม่มีกำลังใจ ไม่ได้ยินเสียงขาหมูอีกแล้ว สิ่งที่ตั้งใจจะทำตอนนี้คือดูแลต้นมะลิให้ดีอย่างที่ดูแลขาหมู และดูแลลูกสาวที่ขาหมูฝากไว้กับครอบครัวเรา ทำวีดีโอเก็บไว้เพื่อระลึกความสุขที่ขาหมูมอบให้ครอบครัวผม จดจำไว้ในใจตลอดไป...