หลายวันมานี้มีนายหนังตะลุงแดนใต้มาเชิดหนังให้ดูฟรีที่ถนนราชดำเนิน เหมือนเป็นการออกแขกรอวันนัดพบเพชรฆาตของจริงวันที่ 20 พ.ย.นี้
นับตั้งแต่วันสิ้นเดือนตุลาคมยันวันนี้ คุณเทพเทือก พระเอกหน้าดำแย่งซีนพื้นที่ข่าวการเมืองไปหมด เริ่มจากปลุกระดมม็อบนกหวีดมาล้ม พ.ร.บ. นิรโทษเหมาเข่ง แต่เมื่อสำเร็จกิจแล้วยังไม่พอ คุณเทือกดันขอยกระดับจากลูกแตงกวาเล็กๆ เป็นลูกแตงโมเบ้อเริ่มเทิ่ม พูดชัดๆ ก็คือ จากการล้ม พ.ร.บ.ได้แล้ว ตรูขอเพิ่มเป็นล้มรัฐบาลเลย
โอโฮ้ มันจะเว่อร์ไปไหมเพ่ ชวนคนมาเป่านกหวีดปรี๊ดๆๆๆ กันทุกคืนจนม็อบร่วมถึงชาวบ้านร้านช่องละแวกนั้นแก้วหูอักเสบ เดือดร้อนกันไปทั่วยังไม่พอ คืนนี้พระเอกหน้าดำยังขอยกระดับเป็นการแอนตี้ธุรกิจของตระกูลชินวัตรอีกแถมจะไล่พวกเขาออกไปจากประเทศด้วย แบบนี้ควรพูดเป็นสำนวนว่า ได้คืบเอาสุดซอยเหมาทุกกิโลเมตรไปเลย
เอาละมันเรื่องของคุณเทือกและสาวก อยากทำอะไรก็ทำไป แต่รัฐบาลปูจะอยู่หรือต้องโบกมือลามีลุ้นของจริงกรณี ตลก.รธน.จะตัดสินกรณีรัฐสภาลงมติแก้ไขที่มาของ ส.ว. ในวันที่ 20 พ.ย. ในอีกห้าวันข้างหน้านี้ต่างหาก
เรื่องนี้มีที่มาจากการที่ ตลก.รธน.รับคำร้องของ ส.ส.ปชป. กับ 40 ส.ว. ที่ตั้งกฐินสามัคคีร่วมกันฟ้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิก ส.ว.ลากตั้ง แล้วให้มีเฉพาะ ส.ว.ลากตั้ง เป็นความผิดเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
เรื่องมันตลกที่ว่า ตลก.คณะนี้เคยวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้ง สสร. ขึ้นเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องไปทำประชามติ แต่ถ้าแก้รายมาตราสามารถทำได้ อ้าวทีนี้รัฐสภาก็ทำตามแล้ว โดยแก้ไขรายมาตรา แล้วทำไม ตลก.ดันยังจะรับเรื่องของ ส.ส.แมลงสาบและ 40 ส.ว. เอาไว้อีกละ นี่ถือว่ากลืนน้ำลายตัวเองอย่างแรงเลยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ ระบอบประชาธิปไตยได้แบ่งแยกให้มีอำนาจ 3 ฝ่ายเพื่อถ่วงดุลย์กันนั่นคืออำนาจ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
ทุกวันนี้เท่าที่เห็น อำนาจบริหารและนิติบัญญัติก็ทำงานของเขาอยู่ดีๆแล้ว แต่ทำไมอำนาจตุลาการดันเข้าไปแทรกแซงพวกเขาละครับ
และสุดท้าย ป๋าขอฝากบอกคณะตลก.รธน.ด้วยว่า
นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายนุรักษ์ มาประณีต และนายสุพจน์ ไข่มุกต์ ทั้ง 3 คนนี้ไม่ควรมีสิทธิ์ร่วมตัดสินคดีนี้ เพราะคนเหล่านี้เคยเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการมากับมือ ถือว่ามีส่วนได้เสียต่อคดีโดยตรง จึงไม่เหมาะสมที่จะมีสิทธิ์ร่วมพิจารณาคดี เพราะขัดแย้งต่อหลักความเป็นกลาง จริงไม่จริงท่านก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจตนเอง หรือถ้าไม่สามารถข่มนิสัยหน้าด้านได้ก็ทำไปเถิดครับ แต่อย่าลืมว่าประชาชนเขาจับตาดูอยู่
จรกาพระเอกหน้าม่าน ส่งมุกต่อให้ตลก. 20 พ.ย.นี้มีมุกอะไรแฝง
นับตั้งแต่วันสิ้นเดือนตุลาคมยันวันนี้ คุณเทพเทือก พระเอกหน้าดำแย่งซีนพื้นที่ข่าวการเมืองไปหมด เริ่มจากปลุกระดมม็อบนกหวีดมาล้ม พ.ร.บ. นิรโทษเหมาเข่ง แต่เมื่อสำเร็จกิจแล้วยังไม่พอ คุณเทือกดันขอยกระดับจากลูกแตงกวาเล็กๆ เป็นลูกแตงโมเบ้อเริ่มเทิ่ม พูดชัดๆ ก็คือ จากการล้ม พ.ร.บ.ได้แล้ว ตรูขอเพิ่มเป็นล้มรัฐบาลเลย
โอโฮ้ มันจะเว่อร์ไปไหมเพ่ ชวนคนมาเป่านกหวีดปรี๊ดๆๆๆ กันทุกคืนจนม็อบร่วมถึงชาวบ้านร้านช่องละแวกนั้นแก้วหูอักเสบ เดือดร้อนกันไปทั่วยังไม่พอ คืนนี้พระเอกหน้าดำยังขอยกระดับเป็นการแอนตี้ธุรกิจของตระกูลชินวัตรอีกแถมจะไล่พวกเขาออกไปจากประเทศด้วย แบบนี้ควรพูดเป็นสำนวนว่า ได้คืบเอาสุดซอยเหมาทุกกิโลเมตรไปเลย
เอาละมันเรื่องของคุณเทือกและสาวก อยากทำอะไรก็ทำไป แต่รัฐบาลปูจะอยู่หรือต้องโบกมือลามีลุ้นของจริงกรณี ตลก.รธน.จะตัดสินกรณีรัฐสภาลงมติแก้ไขที่มาของ ส.ว. ในวันที่ 20 พ.ย. ในอีกห้าวันข้างหน้านี้ต่างหาก
เรื่องนี้มีที่มาจากการที่ ตลก.รธน.รับคำร้องของ ส.ส.ปชป. กับ 40 ส.ว. ที่ตั้งกฐินสามัคคีร่วมกันฟ้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิก ส.ว.ลากตั้ง แล้วให้มีเฉพาะ ส.ว.ลากตั้ง เป็นความผิดเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
เรื่องมันตลกที่ว่า ตลก.คณะนี้เคยวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้ง สสร. ขึ้นเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องไปทำประชามติ แต่ถ้าแก้รายมาตราสามารถทำได้ อ้าวทีนี้รัฐสภาก็ทำตามแล้ว โดยแก้ไขรายมาตรา แล้วทำไม ตลก.ดันยังจะรับเรื่องของ ส.ส.แมลงสาบและ 40 ส.ว. เอาไว้อีกละ นี่ถือว่ากลืนน้ำลายตัวเองอย่างแรงเลยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ ระบอบประชาธิปไตยได้แบ่งแยกให้มีอำนาจ 3 ฝ่ายเพื่อถ่วงดุลย์กันนั่นคืออำนาจ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
ทุกวันนี้เท่าที่เห็น อำนาจบริหารและนิติบัญญัติก็ทำงานของเขาอยู่ดีๆแล้ว แต่ทำไมอำนาจตุลาการดันเข้าไปแทรกแซงพวกเขาละครับ
และสุดท้าย ป๋าขอฝากบอกคณะตลก.รธน.ด้วยว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายนุรักษ์ มาประณีต และนายสุพจน์ ไข่มุกต์ ทั้ง 3 คนนี้ไม่ควรมีสิทธิ์ร่วมตัดสินคดีนี้ เพราะคนเหล่านี้เคยเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการมากับมือ ถือว่ามีส่วนได้เสียต่อคดีโดยตรง จึงไม่เหมาะสมที่จะมีสิทธิ์ร่วมพิจารณาคดี เพราะขัดแย้งต่อหลักความเป็นกลาง จริงไม่จริงท่านก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจตนเอง หรือถ้าไม่สามารถข่มนิสัยหน้าด้านได้ก็ทำไปเถิดครับ แต่อย่าลืมว่าประชาชนเขาจับตาดูอยู่