อย่าบิดเบือน
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ของร้อนต้องตัดด้วยของเย็นเมื่อม็อบล้มรัฐบาลมีแนวโน้มจะลากยาว รัฐบาลก็เปิดเวทีสภาฯเพื่อลดความ
ร้อนไม่ให้พุ่งทะลุเกินจุดอันตราย
เปิดกว้างให้ ส.ส. ส.ว.อภิปรายได้ทุกประเด็น จะอภิปราย พ.ร.บ.ล้างเข่ง ก็ไม่ขัดข้อง หรือจะอภิปรายคำตัดสินศาลโลกก็พร้อมรับฟัง
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่ามีประเด็นเดียวที่ ส.ส. ส.ว.แย่งกันอภิปรายจนน้ำลายท่วมสภา...
คือคำพิพากษาศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารที่ยังไม่ชัดเจน
“ชะง่อนผาขนาดเล็ก” ที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชามันวางอยู่ตรงจุดไหน? มีขนาดพื้นที่กว้างยาวเท่าใด? คิดเป็นกี่ไร่กี่ตารางวา?
อืมม์...คำถามนี้อย่าว่าแต่รัฐบาลจะตอบไม่ได้เลย
“วีรชัย พลาศรัย” หัวหน้าทีมทนายฝ่ายไทย ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เริ่มต้นสำรวจพื้นที่อย่างเป็นทางการ
ยังไม่ไปถึงขั้นเจรจาทวิภาคี ไทย– กัมพูชา ตามกรอบเจซี
เนื่องจากคำสั่งศาลโลกไม่ได้กำหนดกรอบเวลาให้เสร็จภายในกี่วัน รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเร่งรัดดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม แม้ผลคำพิพากษาศาลโลกยังไม่ชัดเจน แต่ฝ่ายค้านขาประจำก็ใช้เรื่องนี้ให้เป็นเงื่อนไขโจมตีรัฐบาลว่าทำให้เสียดินแดน
แถมโยงเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 มาปลุกระดมว่าเป็นแผนของรัฐบาลเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา
อืมม์...ไม่รู้คิดกันได้ยังไง
เพราะ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เกิดขึ้นก่อนศาลโลกอ่านคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารหลายเดือน
ใครจะรู้ล่วงหน้าว่าศาลโลกจะสั่งให้ไทย–กัมพูชา เจรจากำหนดพื้นที่กันเอง??
ข้อสำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา
190 ไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาลไปเจรจาตกลงอะไรได้ตามอำเภอใจอย่างที่ขาประจำบิดเบือน
เพราะมาตรา 190 กำหนดไว้ชัดว่า
“หนังสือสัญญาใดที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศ หรือพื้นที่นอกอาณาเขต “ต้อง” ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”
ฉะนั้น การเจรจาเพื่อกำหนดเขตพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ตามคำสั่งศาลโลก จึงต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาแน่นอน!!
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของไทยในการเจรจากับต่างประเทศทุกกรณี
คือแทนที่รัฐบาลต้องเสนอกรอบการเจรจาให้สภาฯ เห็นชอบล่วงหน้า ซึ่งท
ำให้ประเทศคู่เจรจารู้ไต๋ว่าไทยวางกรอบการเจรจาอย่างไร
(ทำให้ไทยต้องเสียเปรียบในการเจรจาต่อรอง)
รัฐบาลจึงขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ใหม่
ให้เจรจาก่อน แล้วจึงนำผลการเจรจากลับมาขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
ถ้ารัฐสภาไม่เห็นชอบ ผลการเจรจาก็ถูกยกเลิกไป
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จึงไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาอย่างที่มีการบิดเบือน
ปล. “แม่ลูกจันทร์” ฟังคำอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ตักเตือนสั่งสอนรัฐบาลก็เห็นด้วยในบางประเด็น
เห็นด้วย ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจทำอะไรโง่ๆมาหลายเรื่องก็จริง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า
รัฐบาลนี้ฉลาดพอที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างสันติวิธี โดยไม่ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา
หรือถ้าพูดให้ถึงกึ๋น...
ถ้า 2 ปีก่อนรัฐบาลไทยไม่ขนปืนใหญ่ถล่มกัมพูชา
กัมพูชาก็ไม่ต้องไปฟ้องศาลโลกให้ปัญหาบานปลาย
...ไทยก็ไม่ต้องเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
จริงมั้ยจริง...สาธุชนทั้งหลายโปรดใช้สะดือตรอง.
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/382726
????????????????????????????????????
"....
ถ้า 2 ปีก่อนรัฐบาลไทยไม่ขนปืนใหญ่ถล่มกัมพูชา
กัมพูชาก็ไม่ต้องไปฟ้องศาลโลกให้ปัญหาบานปลาย
...
ไทยก็ไม่ต้องเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว...."
นี่คือความจริง ที่คนเขารู้กันทั่วว่ามีสาเหตุมาอย่างนี้
ข้อมูลข่าวสารก็เผยแพร่ไปทั่วทั้งในประเทศและนอกประเทศ....
จะมีก็เพียงแต่ฟายไม่กี่ตัวที่ก้มหน้าก้มตาบิดเบือนเรื่องราวใส่ร้ายคนอื่นอย่างหน้าด้านๆแบบไร้สำนึก
ทั้งที่สาเหตุเกิดมาจากตัวเอง แต่ก็จะนำเหตุนั้นมาทำร้ายคนอื่นอยู่ร่ำไป.....
ทั้งไร้สติ ทั้งหน้าด้าน ทั้งไร้ยางอาย
มีใครบ้างแถวนี้ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ กรุณาโผล่หัวมาให้ดูหน่อยซิ......
สนข.หัวเขียวประจาน ปชป.ว่า"อย่าบิดเบือน"กรณีพิพาทเขมร...ใครขนปืนใหญ่ถล่มเขมรจนต้องมีวันนี้ วันที่ศาลโลกต้องไกล
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ของร้อนต้องตัดด้วยของเย็นเมื่อม็อบล้มรัฐบาลมีแนวโน้มจะลากยาว รัฐบาลก็เปิดเวทีสภาฯเพื่อลดความ
ร้อนไม่ให้พุ่งทะลุเกินจุดอันตราย
เปิดกว้างให้ ส.ส. ส.ว.อภิปรายได้ทุกประเด็น จะอภิปราย พ.ร.บ.ล้างเข่ง ก็ไม่ขัดข้อง หรือจะอภิปรายคำตัดสินศาลโลกก็พร้อมรับฟัง
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่ามีประเด็นเดียวที่ ส.ส. ส.ว.แย่งกันอภิปรายจนน้ำลายท่วมสภา...
คือคำพิพากษาศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารที่ยังไม่ชัดเจน
“ชะง่อนผาขนาดเล็ก” ที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชามันวางอยู่ตรงจุดไหน? มีขนาดพื้นที่กว้างยาวเท่าใด? คิดเป็นกี่ไร่กี่ตารางวา?
อืมม์...คำถามนี้อย่าว่าแต่รัฐบาลจะตอบไม่ได้เลย
“วีรชัย พลาศรัย” หัวหน้าทีมทนายฝ่ายไทย ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เริ่มต้นสำรวจพื้นที่อย่างเป็นทางการ
ยังไม่ไปถึงขั้นเจรจาทวิภาคี ไทย– กัมพูชา ตามกรอบเจซี
เนื่องจากคำสั่งศาลโลกไม่ได้กำหนดกรอบเวลาให้เสร็จภายในกี่วัน รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเร่งรัดดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม แม้ผลคำพิพากษาศาลโลกยังไม่ชัดเจน แต่ฝ่ายค้านขาประจำก็ใช้เรื่องนี้ให้เป็นเงื่อนไขโจมตีรัฐบาลว่าทำให้เสียดินแดน
แถมโยงเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 มาปลุกระดมว่าเป็นแผนของรัฐบาลเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา
อืมม์...ไม่รู้คิดกันได้ยังไง
เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เกิดขึ้นก่อนศาลโลกอ่านคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารหลายเดือน
ใครจะรู้ล่วงหน้าว่าศาลโลกจะสั่งให้ไทย–กัมพูชา เจรจากำหนดพื้นที่กันเอง??
ข้อสำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาลไปเจรจาตกลงอะไรได้ตามอำเภอใจอย่างที่ขาประจำบิดเบือน
เพราะมาตรา 190 กำหนดไว้ชัดว่า “หนังสือสัญญาใดที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศ หรือพื้นที่นอกอาณาเขต “ต้อง” ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”
ฉะนั้น การเจรจาเพื่อกำหนดเขตพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ตามคำสั่งศาลโลก จึงต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาแน่นอน!!
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของไทยในการเจรจากับต่างประเทศทุกกรณี
คือแทนที่รัฐบาลต้องเสนอกรอบการเจรจาให้สภาฯ เห็นชอบล่วงหน้า ซึ่งทำให้ประเทศคู่เจรจารู้ไต๋ว่าไทยวางกรอบการเจรจาอย่างไร
(ทำให้ไทยต้องเสียเปรียบในการเจรจาต่อรอง)
รัฐบาลจึงขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ใหม่ให้เจรจาก่อน แล้วจึงนำผลการเจรจากลับมาขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
ถ้ารัฐสภาไม่เห็นชอบ ผลการเจรจาก็ถูกยกเลิกไป
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จึงไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาอย่างที่มีการบิดเบือน
ปล. “แม่ลูกจันทร์” ฟังคำอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ตักเตือนสั่งสอนรัฐบาลก็เห็นด้วยในบางประเด็น
เห็นด้วย ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจทำอะไรโง่ๆมาหลายเรื่องก็จริง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่ารัฐบาลนี้ฉลาดพอที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างสันติวิธี โดยไม่ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา
หรือถ้าพูดให้ถึงกึ๋น...
ถ้า 2 ปีก่อนรัฐบาลไทยไม่ขนปืนใหญ่ถล่มกัมพูชา
กัมพูชาก็ไม่ต้องไปฟ้องศาลโลกให้ปัญหาบานปลาย
...ไทยก็ไม่ต้องเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
จริงมั้ยจริง...สาธุชนทั้งหลายโปรดใช้สะดือตรอง.
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/382726
????????????????????????????????????
"....ถ้า 2 ปีก่อนรัฐบาลไทยไม่ขนปืนใหญ่ถล่มกัมพูชา
กัมพูชาก็ไม่ต้องไปฟ้องศาลโลกให้ปัญหาบานปลาย
...ไทยก็ไม่ต้องเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว...."
นี่คือความจริง ที่คนเขารู้กันทั่วว่ามีสาเหตุมาอย่างนี้
ข้อมูลข่าวสารก็เผยแพร่ไปทั่วทั้งในประเทศและนอกประเทศ....
จะมีก็เพียงแต่ฟายไม่กี่ตัวที่ก้มหน้าก้มตาบิดเบือนเรื่องราวใส่ร้ายคนอื่นอย่างหน้าด้านๆแบบไร้สำนึก
ทั้งที่สาเหตุเกิดมาจากตัวเอง แต่ก็จะนำเหตุนั้นมาทำร้ายคนอื่นอยู่ร่ำไป.....
ทั้งไร้สติ ทั้งหน้าด้าน ทั้งไร้ยางอาย
มีใครบ้างแถวนี้ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ กรุณาโผล่หัวมาให้ดูหน่อยซิ......