มนต์รักริมแซน (La Seine)

อรุณสวัสดิ์จากมหานครปารีส

กลับเมืองไทยครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากมายหลายอย่าง รวมไปถึงงานอดิเรกเกี่ยวกับการเขียนหนังสือของผม ที่ตอนนี้แทบจะกินเวลาขึ้นมาเกือบจะเทียบเท่างานหลักของผมแต่เรื่องของรายได้ยังห่างกันอยู่หลายช่วงตัว (มาก)

ที่พูดเรื่องรายได้ขึ้นมาก็เพราะผมอยากบอกว่า การทำงานอดิเรกของผมนั้น ไม่ได้วางอยู่บนพื้นฐานของรายได้ แต่อยู่ที่มูลค่าความสุขมวลรวมเป็นดัชนีวัด อย่างภูฏาน (Bhutan) ที่ให้ความสำคัญกับความสุขของประชาชนในประเทศ (Gross National Happiness: GNH)  มากกว่าความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) เป็นตัววัด ซึ่งเป็นการวัดจากมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมดที่ผลิตได้ภายในอาณาเขตประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง บลา บลา บลา ...

ทีแรกผมตั้งใจจะเขียนเรื่องลงพันทิปอีกครั้งในเดือนธันวาคม แต่หลังจากที่ผมเดินทางกลับมาถึงฝรั่งเศส ความเครียดในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของผมก็ถูกก่อตัวขึ้นมาทุกหัวระแหง ที่ผมขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ ประกอบกับงานฉลองพันทิป ๑๗ ปี Party on the Boat ที่ผมไม่อาจไปร่วมได้ กระทู้นี้จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อขอส่งกำลังใจไปร่วมงานในวันนั้นแทน


ในฐานะจิตแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ผมว่าผมควรจะสร้างเกาะร้างลอยน้ำไว้บนมหาสมุทรแห่งนี้ ให้เป็นที่พักใจของผู้ที่อยากจะหลบเรือที่กำลังจะฝ่าฟันมรสุมใหญ่ครานี้อีกหนึ่งลูก ผมจึงเลือกเรื่องของความรักขึ้นมาเขียนก่อน เพราะความรักเป็นดาบสองคม เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา ให้มันมีประโยชน์ (ถ้าเราใช้มันอย่างพอดี) และให้มันมีโทษ (ถ้าเราใช้มันมากจนเกินไป) ในเวลาเดียวกัน

เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงในความน่ารักของหนุ่มสาววัยทำงานที่เก็บหอมรอมริบเพื่อพากันมาเที่ยวฝรั่งเศส ประเทศที่สวยงามมากที่สุดของโลกประเทศหนึ่ง แล้วก็ดันสร้างเรื่องบ้าบอพิลึกกึกกือเรื่องหนึ่งขึ้นมา จนได้มาพบกับผมที่กรุงปารีสนี่

ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเขียนให้ใครเดาอะไร หรือให้เดาว่าหนุ่มสาวคู่นี้เป็นเป็นใคร เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ไหน ใครจะมาพาลพะโลหาว่าผมโม้หรือไม่ผมไม่สนใจ อาจารย์แพทย์อย่างผมก็มีจรรยาบรรณแพทย์สากลที่ต้องธำรงไว้ ทั้งนี้ หากคุณเป็นแพทย์แต่ไม่มีจรรยาบรรณฯ ก็ไม่เป็นไร แต่ให้ระวังตัวไว้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผมจะให้เกียรติเฉพาะคนที่ให้เกียรติผมเท่านั้น

ยุคนี้เป็นยุค ตาต่อตา ฟันต่อฟัน (An eye for an eye, a tooth for a tooth) จงอย่าปล่อยให้ผู้ไม่ประสงค์ดีที่แอบอยู่ในเงาทำร้ายคุณเพียงฝ่ายเดียว คุณต้องหัดดึงมันออกมาด้วย ถ้ามันต้องการจะทำร้ายคุณ คุณต้องพามันออกมาสับกันในที่โล่งแจ้ง เพราะมันจะแรงและดูสมน้ำสมเนื้อมากกว่า และที่สำคัญ คุณจะไม่เครียดคนเดียวด้วย

จำไว้ครับ ถ้าใครทำให้คุณเครียด คุณก็ควรจะทำให้มันเครียดด้วย ... ภาษิตไทยท่องไว้ ... หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

ผมเชื่อในการทำงานของทีมงานพันทิป ผมจึงเลือกนำเสนองานอดิเรกของผมผ่านทาง Website นี้ เท่านั้น และไม่ว่าผมจะอยู่ที่มุมใดของโลกก็ตาม ผมยังคิดถึงทุกคนที่เมืองไทยที่คิดถึงผมเสมอ

ผมจะเขียนจบเมื่อไหร่ผมไม่รู้ เพราะจะเข้ามาเล่าต่อเมื่อผมมีเวลา สำหรับผมแล้ว Comments คือกำลังใจ ถ้าเข้ามาบอกว่าอยากอ่านต่อ ผมจึงจะเขียน แต่ถ้าไม่มีเลย ผมว่าจะปล่อยเอาไว้ แล้วไว้ให้รออ่านตอนจบกันในหนังสือเล่มต่อไปของผมในปีหน้า

อนึ่ง ทีมงานพันทิปได้เพิ่มปุ่ม "อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้" ไว้ทางด้านล่างซ้ายของกระทู้ (หากใครไม่อยากอ่าน Comments อย่างที่ผมอยากอ่าน) การที่ผมจำเป็นที่จะต้องอ่าน Comments ก็เพื่อที่จะรู้ว่า ผมสามารถสื่อสารกับผู้ที่สนใจได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่ผมต้องการจะสื่อหรือไม่ เพราะในที่แห่งนี้ ผมไม่ได้ทำหน้าที่เป็น "จิตแพทย์" ที่ทำการรักษา แต่ผมทำหน้าที่เป็น "อาจารย์แพทย์" ที่ทำหน้าที่สอนให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันทางใจ เป็น "วัคซีนป้องกันใจ" เก็บเอาไว้ เวลาที่ใจของพวกเราต้องการ

ด้วยรักและปรารถนาดี ... ถึงผู้ที่สนับสนุนการทำงานอดิเรกข้ามทวีปของผม ทุกคน

Psychiatrist

อาจารย์ ด็อกเตอร์ นายแพทย์ วัชรพล อเล็กซองดร์ กำเนิดศิริ
จิตแพทย์เวชศาสตร์การสงคราม กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
Fan Page : https://www.facebook.com/ThaiDiaspora


รูป : คอลัมน์เปิดใจสนทนา ... นิตยสารขวัญเรือน ปักษ์แรก พฤศจิกายน ๒๕๕๖
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่