พระปราโมทย์ เทศน์เรื่อง
“วิปัสสนากรรมฐานคือการเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ไม่ใช่แค่การเห็นรูปนาม” (
http://www.prd.go.th/ewt_news.php?nid=10778) ดังนี้ :
การปฏิบัตินะ ต้องเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ต้องเห็นนะไม่ใช่คิด ต้องเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ไม่ใช่คิดเรื่องรูปนาม การคิดเรื่องรูปนามว่า เป็นไตรลักษณ์ยังไม่ขึ้นวิปัสสนา
จะเห็นเลยว่า รูปนามทั้งหลายเกิดแล้วดับทั้งสิ้น รูปนามทั้งหลายตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ แต่เป็นการเห็นด้วยการคิดเปรียบเทียบเอา ยังไม่ได้เห็นความเกิดดับต่อหน้าต่อตา เพราะงั้นอย่างการคิดเรื่องไตรลักษณ์ของรูปนาม ยังไม่ใช่วิปัสสนากรรมฐาน
ต้องจำให้แม่นนะ อยากบรรลุมรรคผลนิพพาน ทิ้งวิปัสสนากรรมฐานไม่ได้ วิปัสสนากรรมฐานคือการเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ไม่ใช่การเห็นรูปนามนะ
บางคนก็สอนกันเพี้ยนๆนะ เนี่ยเราพูดซื่อๆ อย่างนี้นะ เราไม่ได้ว่าสำนักไหนนะ พูดในทางวิชาการจริงๆ เลย ถ้าไม่พูดทางวิชาการ อ้อมๆ แอ้มๆ จะรู้เรื่องเหรอ จะพากันผิดไปหมด
ความไม่ซื่อคดในข้องอในกระดูกของพระปราโมทย์เป็นดังนี้ :
สาวกของพระพม่าเขาก็สอนอย่างที่พระปราโมทย์กล่าวหาอยู่แล้ว
พระปราโมทย์ไปดัดแปลงสำนวนของสาวกพระพม่า แล้วเอามาโจมตีแบบไม่สมควรเป็นพระในศาสนาพุทธ
ที่สำคัญก็คือ
พระปราโมทย์ก็ "ไม่เห็น" เหมือนสาวกของพระพม่าอื่นๆ
เพราะฉะนั้น การกระทำของพระปราโมทย์เช่นนี้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า :
"พระปราโมทย์ เป็นพระที่คดในข้องอในกระดูก ไม่สมควรที่จะเป็นพระต่อไป"
อ่านรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับพระปราโมทย์ได้ที่นี่
http://pramotbehavior.blogspot.com/
พระปราโมทย์ไม่ซื่อ
การปฏิบัตินะ ต้องเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ต้องเห็นนะไม่ใช่คิด ต้องเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ไม่ใช่คิดเรื่องรูปนาม การคิดเรื่องรูปนามว่า เป็นไตรลักษณ์ยังไม่ขึ้นวิปัสสนา
จะเห็นเลยว่า รูปนามทั้งหลายเกิดแล้วดับทั้งสิ้น รูปนามทั้งหลายตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ แต่เป็นการเห็นด้วยการคิดเปรียบเทียบเอา ยังไม่ได้เห็นความเกิดดับต่อหน้าต่อตา เพราะงั้นอย่างการคิดเรื่องไตรลักษณ์ของรูปนาม ยังไม่ใช่วิปัสสนากรรมฐาน
ต้องจำให้แม่นนะ อยากบรรลุมรรคผลนิพพาน ทิ้งวิปัสสนากรรมฐานไม่ได้ วิปัสสนากรรมฐานคือการเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ไม่ใช่การเห็นรูปนามนะ
บางคนก็สอนกันเพี้ยนๆนะ เนี่ยเราพูดซื่อๆ อย่างนี้นะ เราไม่ได้ว่าสำนักไหนนะ พูดในทางวิชาการจริงๆ เลย ถ้าไม่พูดทางวิชาการ อ้อมๆ แอ้มๆ จะรู้เรื่องเหรอ จะพากันผิดไปหมด
ความไม่ซื่อคดในข้องอในกระดูกของพระปราโมทย์เป็นดังนี้ :
สาวกของพระพม่าเขาก็สอนอย่างที่พระปราโมทย์กล่าวหาอยู่แล้ว
พระปราโมทย์ไปดัดแปลงสำนวนของสาวกพระพม่า แล้วเอามาโจมตีแบบไม่สมควรเป็นพระในศาสนาพุทธ
ที่สำคัญก็คือ พระปราโมทย์ก็ "ไม่เห็น" เหมือนสาวกของพระพม่าอื่นๆ
เพราะฉะนั้น การกระทำของพระปราโมทย์เช่นนี้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า :
"พระปราโมทย์ เป็นพระที่คดในข้องอในกระดูก ไม่สมควรที่จะเป็นพระต่อไป"
อ่านรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับพระปราโมทย์ได้ที่นี่
http://pramotbehavior.blogspot.com/