ต้องมีคนเชื่อแน่นอน
http://www.chaoprayanews.com/2013/10/31/%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B2-%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-%E0%B8%97/
“ธิดา” ขู่นายใหญ่อาจตกขบวนนิรโทษฯ เหตุโดน ม.309 สกัด แต่ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” รับส้มหล่น เชื่อมีไส้ศึกอำมาตย์ในเพื่อไทย หวังดิสเครดิตแกนนำแดง เผย “ณัฐวุฒิ-เหวง-วรชัย” เล็งแหกมติพรรค
นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า นปช.ยืนยันจุดยืนเดิมไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ได้สั่งสลายชุมนุม จนมีคนเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ก็ต้องรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดตามมาด้วย ส่วนตัวอยากให้ทบทวนให้ดี เพราะเรื่องดังกล่าวต้องถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และคงไม่มีคำตัดสินในทางบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีมาตรา 309 เป็นอุปสรรคอยู่
“ท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้อานิสงส์จะกลายเป็นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อย่างไรก็ตามคนเสื้อแดงยังไม่คิดชุมนุมต่อต้านในตอนนี้แม้มีคนพยายามบอกให้ทำ เพราะเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยอยู่ฝั่งเดียวกัน” นางธิดา กล่าว
นางธิดา ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า มีคนบางส่วนในพรรคเพื่อไทยที่แอบอิงเครือข่ายอำมาตย์ใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ และประชาชนที่ถูกคุมขังเป็นตัวประกัน เพื่อเร่งรัดในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของ ส.ส.เสื้อแดงไม่ให้มีที่ยืน จึงใช้มติพรรคในการกดดันให้โหวตรับร่างวาระ 2 และ 3 ดังนั้นอาจมีความเป็นได้ที่ ส.ส.เสื้อแดงบางคนที่จะงดออกเสียง
“พรรคเพื่อไทยออกมติเช่นนี้สร้างความอึดอัดใจให้กับ ส.ส.เสื้อแดง เช่น นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ผู้เสนอร่าง คุณยังอยากให้เขาเป็นคนอยู่หรือไม่ เช่นเดียวกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หากโหวตรับร่าง จะให้เขาเป็นคนได้อย่างไร ถือเป็นการวัดใจแกนนำคนเสื้อแดงว่า จะเลือกเส้นทางการเป็น ส.ส.หรือจะเลือกเป็นแกนนำมวลชน ซึ่งเราเข้าใจและไม่ว่ากัน เพราะนายจตุพร พรหมพันธุ์ เคยพูดไว้แล้วว่า อาจเหลือคนที่จะยืนตรงจุดนี้ เพียงไม่กี่คน” ประธาน นปช.กล่าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหารัฐบาลว่า เร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนทำให้บ้านเมืองแตกแยก ว่า ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเรื่องของฝายนิติบัญญัติ การพิจารณาเป็นเรื่องของสภา ดังนั้นไม่ควรโยนบาปให้กับรัฐบาล แต่กรณีที่ นายสุเทพ และพวก แถลงข่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมในวันที่ 31 ต.ค.น่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมมากกว่า ทั้งที่นายสุเทพ เป็นถึงอดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ควรที่จะยึดมั่นระบบรัฐสภา แต่กลับยึดความคิดตนเองเป็นใหญ่ ทิ้งหลักการที่นายชวน หลีกภัย เคยยึดถือ มาใช้หลักกู โดยอ้างเอาประชาชนบังหน้า แสดงให้เห็นว่านายสุเทพ และพวกไม่ฟังเสียงประชาชน แต่เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อล้มรัฐบาล เพราะรู้ว่าเลือกตั้งก็แพ้ สู้ในสภาก็แพ้
ส่วนกรณีที่ 4 รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อไปเคลื่อนไหวนอกสภานั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กลัวว่า หากไปเคลื่อนไหวกับประชาชนแล้ว จะถูกร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตรงนี้แสดงให้เห็นธาตุแท้ของนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องว่า ถ้าไม่คิดที่จะทำงานในสภา การลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารนั้น คงไม่เพียงพอ ต้องลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย เพราะเปลืองเงินภาษีของประชาชน และจะได้ไม่นำเอกสิทธิ์ ส.ส.มาใช้อ้าง หากเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วถูกดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต อย่างไรก็ตามการชุมนุมนั้น ถือเป็นสิทธิ์ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ถ้าทำแล้วประชาชนเดือดร้อนและเกิดความสูญเสีย นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ ยังแถลงอีกว่า ตนได้รับข้อมูลจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เห็นแก่ความถูกต้องว่า จะมีมวลชนเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมทั้งจะมีการขนคน ทั้งใน กทม. ปริมณฑล ภาคใต้ และภาคกลางบางจังหวัด โดยมีน้ำเลี้ยงมาจากกลุ่มทุนใหญ่ที่ร่ำรวยมาจากการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ โดยกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนกลุ่มนี้มีรายได้ถึงเดือนละเกือบพันล้านบาท ประกอบด้วย เสี่ยคนดัง ข้าราชการที่เห็นแก่ประโยชน์และอยู่ตรงข้ามรัฐบาล และนักการเมือง ซึ่งคนเหล่านี้รวมหัวกันค้าน้ำมันเถื่อน จนร่ำรวยแล้วนำเงินที่ได้มาสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มเพื่อหวังล้มรัฐบาล ดังนั้น ในวันที่ 1 พ.ย.เวลา 10.00 น.ตนจะไปยื่นเรื่องต่อ ปปง.เพื่อขอให้ตรวจสอบ จากนั้นจะไปยื่นเรื่องต่อดีเอสไอและหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อขอให้ตรวจสอบและเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ต่อไป เพราะถือเป็นการปล้นเงินภาษีแล้วนำมาสนับสนุนม็อบในการเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคนเสื้อแดงได้หารือกันอย่างเคร่งเครียด ภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติให้ ส.ส.ของพรรคทุกคนโหวตเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมากแก้ไขตามข้อเสนอของ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานกรรมาธิการ โดยเฉพาะการกำชับเชิงข่มขู่ไม่ให้ ส.ส.โหวตแตกแถวเป็นอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจะไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้ ส.ส.เสื้อแดงหลายคนยอมทำตามมติพรรค อย่างไรก็ตาม มีแกนนำหลัก 3 คนที่ยังยืนยันจะไม่ทำตามมติพรรคคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ โดยจะงดออกเสียงในการลงมติวาระ 2 มาตราที่ 3 และ 4 ส่วนวาระ 3 จะงดออกเสียง
“ธิดา” โทษอำมาตย์ใช้ “ทักษิณ” ดันสุดซอย
http://www.chaoprayanews.com/2013/10/31/%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B2-%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-%E0%B8%97/
“ธิดา” ขู่นายใหญ่อาจตกขบวนนิรโทษฯ เหตุโดน ม.309 สกัด แต่ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” รับส้มหล่น เชื่อมีไส้ศึกอำมาตย์ในเพื่อไทย หวังดิสเครดิตแกนนำแดง เผย “ณัฐวุฒิ-เหวง-วรชัย” เล็งแหกมติพรรค
นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า นปช.ยืนยันจุดยืนเดิมไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ได้สั่งสลายชุมนุม จนมีคนเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ก็ต้องรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดตามมาด้วย ส่วนตัวอยากให้ทบทวนให้ดี เพราะเรื่องดังกล่าวต้องถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และคงไม่มีคำตัดสินในทางบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีมาตรา 309 เป็นอุปสรรคอยู่
“ท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้อานิสงส์จะกลายเป็นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อย่างไรก็ตามคนเสื้อแดงยังไม่คิดชุมนุมต่อต้านในตอนนี้แม้มีคนพยายามบอกให้ทำ เพราะเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยอยู่ฝั่งเดียวกัน” นางธิดา กล่าว
นางธิดา ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า มีคนบางส่วนในพรรคเพื่อไทยที่แอบอิงเครือข่ายอำมาตย์ใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ และประชาชนที่ถูกคุมขังเป็นตัวประกัน เพื่อเร่งรัดในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของ ส.ส.เสื้อแดงไม่ให้มีที่ยืน จึงใช้มติพรรคในการกดดันให้โหวตรับร่างวาระ 2 และ 3 ดังนั้นอาจมีความเป็นได้ที่ ส.ส.เสื้อแดงบางคนที่จะงดออกเสียง
“พรรคเพื่อไทยออกมติเช่นนี้สร้างความอึดอัดใจให้กับ ส.ส.เสื้อแดง เช่น นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ผู้เสนอร่าง คุณยังอยากให้เขาเป็นคนอยู่หรือไม่ เช่นเดียวกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หากโหวตรับร่าง จะให้เขาเป็นคนได้อย่างไร ถือเป็นการวัดใจแกนนำคนเสื้อแดงว่า จะเลือกเส้นทางการเป็น ส.ส.หรือจะเลือกเป็นแกนนำมวลชน ซึ่งเราเข้าใจและไม่ว่ากัน เพราะนายจตุพร พรหมพันธุ์ เคยพูดไว้แล้วว่า อาจเหลือคนที่จะยืนตรงจุดนี้ เพียงไม่กี่คน” ประธาน นปช.กล่าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหารัฐบาลว่า เร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนทำให้บ้านเมืองแตกแยก ว่า ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเรื่องของฝายนิติบัญญัติ การพิจารณาเป็นเรื่องของสภา ดังนั้นไม่ควรโยนบาปให้กับรัฐบาล แต่กรณีที่ นายสุเทพ และพวก แถลงข่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมในวันที่ 31 ต.ค.น่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมมากกว่า ทั้งที่นายสุเทพ เป็นถึงอดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ควรที่จะยึดมั่นระบบรัฐสภา แต่กลับยึดความคิดตนเองเป็นใหญ่ ทิ้งหลักการที่นายชวน หลีกภัย เคยยึดถือ มาใช้หลักกู โดยอ้างเอาประชาชนบังหน้า แสดงให้เห็นว่านายสุเทพ และพวกไม่ฟังเสียงประชาชน แต่เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อล้มรัฐบาล เพราะรู้ว่าเลือกตั้งก็แพ้ สู้ในสภาก็แพ้
ส่วนกรณีที่ 4 รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อไปเคลื่อนไหวนอกสภานั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กลัวว่า หากไปเคลื่อนไหวกับประชาชนแล้ว จะถูกร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตรงนี้แสดงให้เห็นธาตุแท้ของนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องว่า ถ้าไม่คิดที่จะทำงานในสภา การลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารนั้น คงไม่เพียงพอ ต้องลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย เพราะเปลืองเงินภาษีของประชาชน และจะได้ไม่นำเอกสิทธิ์ ส.ส.มาใช้อ้าง หากเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วถูกดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต อย่างไรก็ตามการชุมนุมนั้น ถือเป็นสิทธิ์ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ถ้าทำแล้วประชาชนเดือดร้อนและเกิดความสูญเสีย นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ ยังแถลงอีกว่า ตนได้รับข้อมูลจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เห็นแก่ความถูกต้องว่า จะมีมวลชนเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมทั้งจะมีการขนคน ทั้งใน กทม. ปริมณฑล ภาคใต้ และภาคกลางบางจังหวัด โดยมีน้ำเลี้ยงมาจากกลุ่มทุนใหญ่ที่ร่ำรวยมาจากการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ โดยกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนกลุ่มนี้มีรายได้ถึงเดือนละเกือบพันล้านบาท ประกอบด้วย เสี่ยคนดัง ข้าราชการที่เห็นแก่ประโยชน์และอยู่ตรงข้ามรัฐบาล และนักการเมือง ซึ่งคนเหล่านี้รวมหัวกันค้าน้ำมันเถื่อน จนร่ำรวยแล้วนำเงินที่ได้มาสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มเพื่อหวังล้มรัฐบาล ดังนั้น ในวันที่ 1 พ.ย.เวลา 10.00 น.ตนจะไปยื่นเรื่องต่อ ปปง.เพื่อขอให้ตรวจสอบ จากนั้นจะไปยื่นเรื่องต่อดีเอสไอและหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อขอให้ตรวจสอบและเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ต่อไป เพราะถือเป็นการปล้นเงินภาษีแล้วนำมาสนับสนุนม็อบในการเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคนเสื้อแดงได้หารือกันอย่างเคร่งเครียด ภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติให้ ส.ส.ของพรรคทุกคนโหวตเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมากแก้ไขตามข้อเสนอของ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานกรรมาธิการ โดยเฉพาะการกำชับเชิงข่มขู่ไม่ให้ ส.ส.โหวตแตกแถวเป็นอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจะไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้ ส.ส.เสื้อแดงหลายคนยอมทำตามมติพรรค อย่างไรก็ตาม มีแกนนำหลัก 3 คนที่ยังยืนยันจะไม่ทำตามมติพรรคคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ โดยจะงดออกเสียงในการลงมติวาระ 2 มาตราที่ 3 และ 4 ส่วนวาระ 3 จะงดออกเสียง