เช้าวันอาทิตย์
ฉันปลุกลูกสาวให้ตื่นลุกแต่งตัวแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวขับรถเข้า กทม กัน
ลูกตื่นแล้วแต่ก็ยังทำท่างอแงแล้วลุกมานอนหนุนแขนพ่อต่อทำเหมือนไม่อยากไปไหน
เหมือนยังอยากได้รับความรัก ความอบอุ่นเหมือนตอนที่ลูกยังเล็กๆ
แต่เมื่อถึงเวลาแล้วจริงๆ ลูกก็ยอมลุกแต่งตัวเสียโดยดี
แต่งตัวเสร็จเราสองคนแม่ลูกเตรียมออกรถ สามีเดินมาส่งฉันและลูกที่รถ
ภาพที่ลูกกอดพ่อ หอมแก้มพ่อและสองมือพ่อโอบกอดลูกยังติดตาฉันจนวันนี้
กอดและหอมนี้ คงอีกเป็นปีกว่าที่พ่อกับลูกจะได้เจอกัน....ฉันคิด
ลูกสาวเดินทางไปทำงาน ตปท ค่ะ
ฉันทำหน้าที่ขับรถเข้า กทม เพื่อส่งลูกขึ้นเครื่อง ยอมรับว่าใจหาย แต่ก็พยายามคิดว่าลูกไปดี
ลูกเป็นเด็กคิดดี ทำดี ชีวิตต้องเจอแต่สิ่งดีๆ
ลูกเพิ่งเรียนจบเมื่อต้นปีแต่ไม่อยากทำงานตามสายที่เรียนมา
ที่บ้านก็ตามใจ พ่อเค้าเคยบอกลูกว่า ให้เวลา2 ปีถ้ายังไม่ได้งานที่ใช่
ก็ให้กลับมาทำงานตามสายที่จบมา ลูกก็ตกลง....
ฉันเองคิดว่าลูกคงหางานทำแถวๆ กทม หรือไม่ก็ใกล้ๆบ้านเรา
ไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะสมัครไปทำงาน ตปท
ลูกมาบอกฉันว่าจะไปทำงานที่ ตปท ในวันที่ลูกสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
ฉันก็ได้แต่รับฟัง...
ขั้นตอนต่างๆ เอกสาร ลูกจัดการเองทั้งหมด(วีซ่า,ค่าเครื่องบินนายจ้างจัดการให้)
สัญญา 2 ปี
จนวันนี้ เช้าวันอังคาร
ฉันและญาติหลายคนไปส่งลูกขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนหน้านั้นหลายวันคิดไว้แล้วว่า จะไม่ร้องไห้
แต่พอถึงเวลาจริงมันไม่ใช่ค่ะ
คนที่เริ่มก่อนเลยคือ ย่าค่ะ(แม่สามี)
ย่าให้ศีลให้พรหลานยังไม่ทันจบ ย่าปากสั่นส่วนฉันเบือนหน้าหนี...
ถึงเวลา ลูกต้องไปแล้วลูกเข้ามาสวัสดี กอดและหอมฉันก่อนจากไกล
แค่ฉันจะพูดว่า พลังที่แม่มีทั้งหมดแม่ให้หนูหมดเลย...ฉันพูดไม่ได้ค่ะ
เหมือนขากรรไกรมันแข็ง อ้าปากจะพูดแล้ว มันเหมือนจะร้องไห้โฮ เหมือนจะกลั้นไม่อยู่
ไม่อยากร้องไห้ให้ลูกเห็น
ขอให้โชคดีนะ นักรบแรงงานตัวน้อยของแม่
ปล. ล่าสุด ลูกถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ เวลาประเทศเค้าช้ากว่าเรา 3 ชั่วโมง
ลูกถ่ายรูป ที่พัก ห้องน้ำ ห้องครัวมาให้ดูแล้วค่ะ
แค่จะพูดคำว่า .... พลังที่แม่มีทั้งหมดแม่ให้หนูหมดเลย.... ทำไมฉันพูดไม่ได้????????
ฉันปลุกลูกสาวให้ตื่นลุกแต่งตัวแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวขับรถเข้า กทม กัน
ลูกตื่นแล้วแต่ก็ยังทำท่างอแงแล้วลุกมานอนหนุนแขนพ่อต่อทำเหมือนไม่อยากไปไหน
เหมือนยังอยากได้รับความรัก ความอบอุ่นเหมือนตอนที่ลูกยังเล็กๆ
แต่เมื่อถึงเวลาแล้วจริงๆ ลูกก็ยอมลุกแต่งตัวเสียโดยดี
แต่งตัวเสร็จเราสองคนแม่ลูกเตรียมออกรถ สามีเดินมาส่งฉันและลูกที่รถ
ภาพที่ลูกกอดพ่อ หอมแก้มพ่อและสองมือพ่อโอบกอดลูกยังติดตาฉันจนวันนี้
กอดและหอมนี้ คงอีกเป็นปีกว่าที่พ่อกับลูกจะได้เจอกัน....ฉันคิด
ลูกสาวเดินทางไปทำงาน ตปท ค่ะ
ฉันทำหน้าที่ขับรถเข้า กทม เพื่อส่งลูกขึ้นเครื่อง ยอมรับว่าใจหาย แต่ก็พยายามคิดว่าลูกไปดี
ลูกเป็นเด็กคิดดี ทำดี ชีวิตต้องเจอแต่สิ่งดีๆ
ลูกเพิ่งเรียนจบเมื่อต้นปีแต่ไม่อยากทำงานตามสายที่เรียนมา
ที่บ้านก็ตามใจ พ่อเค้าเคยบอกลูกว่า ให้เวลา2 ปีถ้ายังไม่ได้งานที่ใช่
ก็ให้กลับมาทำงานตามสายที่จบมา ลูกก็ตกลง....
ฉันเองคิดว่าลูกคงหางานทำแถวๆ กทม หรือไม่ก็ใกล้ๆบ้านเรา
ไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะสมัครไปทำงาน ตปท
ลูกมาบอกฉันว่าจะไปทำงานที่ ตปท ในวันที่ลูกสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
ฉันก็ได้แต่รับฟัง...
ขั้นตอนต่างๆ เอกสาร ลูกจัดการเองทั้งหมด(วีซ่า,ค่าเครื่องบินนายจ้างจัดการให้)
สัญญา 2 ปี
จนวันนี้ เช้าวันอังคาร
ฉันและญาติหลายคนไปส่งลูกขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนหน้านั้นหลายวันคิดไว้แล้วว่า จะไม่ร้องไห้
แต่พอถึงเวลาจริงมันไม่ใช่ค่ะ
คนที่เริ่มก่อนเลยคือ ย่าค่ะ(แม่สามี)
ย่าให้ศีลให้พรหลานยังไม่ทันจบ ย่าปากสั่นส่วนฉันเบือนหน้าหนี...
ถึงเวลา ลูกต้องไปแล้วลูกเข้ามาสวัสดี กอดและหอมฉันก่อนจากไกล
แค่ฉันจะพูดว่า พลังที่แม่มีทั้งหมดแม่ให้หนูหมดเลย...ฉันพูดไม่ได้ค่ะ
เหมือนขากรรไกรมันแข็ง อ้าปากจะพูดแล้ว มันเหมือนจะร้องไห้โฮ เหมือนจะกลั้นไม่อยู่
ไม่อยากร้องไห้ให้ลูกเห็น
ขอให้โชคดีนะ นักรบแรงงานตัวน้อยของแม่
ปล. ล่าสุด ลูกถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ เวลาประเทศเค้าช้ากว่าเรา 3 ชั่วโมง
ลูกถ่ายรูป ที่พัก ห้องน้ำ ห้องครัวมาให้ดูแล้วค่ะ