BOX OFFICE October 25-27, 2013
(แปล/ เรียบเรียงจาก
www.boxofficemojo.com)
หลังจากยึดอันดับ 1 หนังทำเงินในอเมริกา มา 3 สัปดาห์ติด Gravity ก็ต้องร่วงหล่น ลงมาสู่อันดับ 2 เพราะพ่ายแพ้แก่ Bad Grandpa หนังตอนแยกของ Jackass ขณะที่หนังรวมดารา งานชิ้นใหม่ของผู้กำกับริดลีย์ สก็อทท์ The Counselor กลายเป็นความน่าผิดหวังส่งท้ายปลายเดือนตุลาคมเมื่อหนังทำเงินไปได้แค่ 10 ล้านเหรียญ
ด้วยโรงฉาย 3,336 โรง Jackass Presents: Bad Grandpa เปิดตัวได้อย่างแข็งแรงเกินวัย กับรายได้ 32.1 ล้านเหรียญ ถือเป็นรายได้เปิดตัวมากเป็นอันดับ 2 ของหนังตระกูล Jackass เป็นรองก็แค่ 50.4 ล้านของJackass 3-D หากปรับค่าเงิน หนังBad Grandpa จะมีผู้เข้าชมพอๆ กับหนัง Jackass: The Movie แล้วก็เห็นได้ชัดว่าในปีนี้ คอหนังหิวโหยหนังเบาสมองเป็นพิเศษ เมื่อ Bad Grandpa เป็นหนังตลกเรื่องที่ 5 เข้าไปแล้ว ที่เปิดตัวมากกว่า 30 ล้านสำหรับปี 2013 โดยไม่นับ We're the Millers หรือ This is the End ที่เปิดตัวในวันพุธ และคนดูก็ไปดูกันจนหมดแม็กแล้วในวันแรกๆ ก่อนถึงสุดสัปดาห์
ความสำเร็จของ Bad Grandpa มองกันได้หลายปัจจัยด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังตอนแยก แต่ความรั่วแบบน่าอาย และการนำเสนอแบบหนังสารคดี ก็มาอีหรอบเดียวกับหนังชุด Jackass ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ และจุดแข็งของหนังชุดนี้ แถมหนังยังอธิบายเรื่องราวได้ไม่ยาก เข้าถึงคนกลุ่มกว้าง แล้วอย่าลืมว่าทุกคนก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับคนแก่รั่วๆ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมันก็กลายเป็นอารมณ์ขันที่เรียกเสียงหัวเราะออกมาได้ ท้ายที่สุด และเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตัวอย่าง และฉากที่ตัดไปโฆษณานั้น ฮาโคตรๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบง่ายๆ ที่จะทำให้หนังตลกสักเรื่องประสบความสำเร็จ
คนดูของ Bad Grandpa 56% เป็นผู้ชาย และ 63% อายุมากกว่า 25 ปี ขณะที่คนดูของ Jackass 3-D เป็นชาย 61% และมีเพียง 33% ที่อายุเกิน 25 ปี จากการที่หนังได้คนดูอายุมาก มากขึ้น และผู้หญิงกับผู้ชายให้ความสนใจพอๆ กัน มีแนวโน้มว่าหนังจะไปได้ยาวๆ ส่วนคะแนน B จากซีนีมาสกอร์ ไม่มีผลอะไรกับหนังเรื่องนี้ ที่น่าจะปิดโปรแกรมได้ที่อย่างน้อย 75 ล้านเหรียญ
ในสัปดาห์ที่ 4 ของการฉาย Gravity ทำรายได้ตกมาเพียง 33% ทำเงินไป 20.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดฮวบฮาบที่สุดของหนัง แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับหนังเขย่าขวัญ ไซ-ไฟ เรื่องนี้ มาถึงตอนนี้หนังทำเงินในอเมริกาไป 199.6 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 9 หนังทำเงินสูงสุดประจำปี ถึงสุดสัปดาห์นี้ หนังจะเสียโรงไอแมกซ์ให้กับ Ender's Game ไปหลายโรง แต่ก็ไม่น่ามีปัญหากับการปิดโปรแกรมด้วยรายได้ 250 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Captain Phillips ก็ล่องเรือชมวิวไปเรื่อยๆ กับการฉายในสัปดาห์ที่ 3 รายได้ของหนังตกแค่ 29% ทำรายได้มา 11.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 69.9 ล้านเหรียญ นำ Argo จากระยะเวลาฉายเท่าๆ กันอยู่ 10 ล้านเหรียญ และน่าจะทำรายได้สุดท้ายผ่าน 100 ล้านเหรียญ
หนังอาชญากรรม ลุ้นระทึกรวมดาว The Counselor เปิดตัว 3,044 โรง แต่ทำรายได้น่าผิดหวัง 7.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้พอๆ กันกับหนังเรท อาร์ อาชญากรรมเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ อย่าง Broken City (8.3 ล้านเหรียญ), Runner Runner (7.7 ล้านเหรียญ) และ Killing Them Softly (6.8 ล้านเหรียญ) ที่แบรด พิทท์นำแสดง และทำให้ The Counselor กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของพลังดาราในอันดับหนังทำเงิน หนังเต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับหัวแถว ที่งหน้ากล้องและหลังกล้อง ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์, คาเมรอน ดิแอซ, ฮาเวียร์ บาเด็ม, เพเนโลพี ครูซ และแบรด พิทท์ เสริมด้วยผู้กำกับอย่าง ริดลีย์ สก็อตต์ และผู้เขียนบท คอร์แมค แม็คคาร์ธีย์ ซึ่งเป็นระดับตัวพ่อที่น่าจะพาหนังไปได้สวยทั้งนั้น แต่สำหรับคนดูที่ต้องจ่ายค่าตั๋ว พวกเขาต้องการเรื่องราวที่น่าสนใจด้วย และ The Counselor ที่มีพล็อตฟังคลุมเครือ ไม่สามารถทำได้ แถมหนังยังได้คำวิจารณ์ที่สับแหลกอีกต่างหาก ในมะเขือเน่าหนังได้คะแนนแค่ 35% และน่าจะทำให้หนังห่างไกลจากคนดูออกไปเรื่อยๆ สำหรับคนดูนั้น เป็นผู้หญิงถึง 51% และ 85% อายุมากกว่า 25 ปี คะแนน D จากซีนีมาสกอร์ ย้ำว่าอนาคตของหนังสั้นมากๆ และน่าจะทำรายได้สุดท้ายต่ำกว่า 25 ล้านเหรียญด้วยซ้ำไป
ในเดือนตุลาคม มีหนัง 9 เรื่องที่เปิดตัวด้วยโรงมากกว่า 1.500 โรง และมี 5 เรื่องในจำนวนนี้ที่เปิดตัวด้วยตัวเลขไม่ถึง 10 ล้านเหรียญ ได้แก่ Runner Runner, Machete Kills, Escape Plan, The Fifth Estate และ The Counselor ถึงแม้จะมีงานฮิตระเบิดอย่าง Gravity แต่หนังในกลุ่มที่ว่า ซึ่งมีออกมาอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ตลาดโดยรวมๆ ซบเซา และสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัปดาห์แรกของเดือนนี้ ที่รายได้ของหนัง 12 อันดับแรก มากกว่าสัปดาห์เดียวของปี 2012 โดยมากกว่า 17% รายได้รวมเท่ากับ 94.9 ล้านเหรียญ และแน่นอนว่ารายได้ในเดือนนี้ จะไม่มีที่สร้างสถิติอะไรเลย
Cloudy with a Chance of Meatballs 2 ยังอยู่ในห้าอันดับแรก ด้วยรายได้ 6.3 ล้าน ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อนแบบเบาๆ แค่ 35% หนังทำเงินผ่านหลักร้อยล้านเรียบร้อยในวันอาทิตย์ แต่ก็ยังเทียบกับหนังภาคแรกไม่ติด แถมสุดสัปดาห์นี้ หนังต้องเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง Free Birds ที่น่าจะทำให้รายได้ตกลงไปมากกว่านี้แน่
หนังเข้าใหม่จากสุดสัปดาห์ก่อน ยังคงร่วงระนาวมาถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนัง Carrie ฉบับสร้างใหม่ รายได้หล่นฮวบ 63% ทำเงินมาอีกเพียง 6 ล้านเหรียญ รายได้รวมจุ๋มจิ๋มมากแค่ 26.1 ล้านเหรียญ ส่วน Escape Plan ตกน้อยกว่าแค่ 54% ทำเงินเพิ่ม 4.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมขยับมาที่ 17.6 ล้านเหรียญ และเรื่องสุดท้าย The Fifth Estate รายได้ตกถึง 66% ทำเงินมาแค่ 570,890 เหรียญ รายได้ 10 วันมีแค่ 2.85 ล้านเหรียญ
กับคำวิจารณ์ที่ดี และกลายเป็นตัวเต็งบนเวทีรางวัล 12 Years a Slave ที่ขยายโรงเป็น 123 โรงทำเงินได้ถึง 2.13 ล้านเหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่แข็งแรงมากๆ 17,352 เหรียญ ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 3.4 ล้านเหรียญ และสุดสัปดาห์นี้หนังจะเพิ่มโรงเป็น 400 โรง
กับโรงฉายแค่ 4 โรง หนังรางวัลปาล์มทองคำ Blue Is the Warmest Color เปิดตัวด้วยตัวเลข 100,316 เหรียญ เท่ากับ 25,079 เหรียญต่อโรง ซึ่งถือว่าดีมากๆ สำหรับหนังดราม่าจากฝรั่งเศสเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะไปได้ดีแค่ไหนในระยะยาว เนื่องจากความยาวที่มากถึง 3 ชั่วโมง และได้เรทเอ็นซี- 17 ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หนังไม่สามารถไปได้ไกลกว่าโรงหนังอาร์ต
มาดูรายได้นอกอเมริกากันบ้าง ด้วยรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 36.6 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ประจำสัปดาห์ที่เจ๋งที่สุด และทำให้หนังครองอันดับ 1 ในตลาดนอกอเมริกาเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการเปิดตัวที่ฝรั่งเศส 11.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดที่นี่ นอกจากนี้ยังยืนระยะได้ดีที่เกาหลีใต้ 5.8 ล้านเหรียญ และเม็กซิโก 4 ล้านเหรียญ รายรวมของหนังเท่ากับ 164.4 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในอังกฤษ กับจีน เดือนพฤศจิกายน ส่วนญี่ปุ่นเป็นธันวาฯ หนังน่าจะทำเงินเกิน 300 ล้านเหรียญเมื่อปิดโปรแกรม
Cloudy with a Chance of Meatballs 2 ขยายพื้นที่ฉายไปในพื้นที่สำคัญๆ เพียงไม่กี่แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำเงินมาเพิ่มอีก 17.9 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษกับรายได้ 6.1 ล้านเหรียญ และไปได้สวยที่รัสเซีย 3.8 ล้านเหรียญ และเยอรมันนี 3.2 ล้านเหรียญ โดยทั้งสามประเทศที่ว่ามา หนังเปิดตัวได้มากกว่าหนังภาคแรก ตอนนี้หนังทำรายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 49.2 ล้านเหรียญ
แอนิเมชันของดรีมเวิร์คส์ Turbo ได้เงินมาอีก 14.2 ล้านเหรียญ จาก 23 ตลาดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำเงินได้มากที่สุดที่ฝรั่งเศส 5.8 ล้านเหรียญ เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 76% โดยไม่รวมรายได้จากรอบพรีวิว ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 163.4 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านได้เมื่อปิดโปรแกรม
สัปดาห์ที่ 2 ของ Captain Phillips หนังทำเงินไปถึง 12.1 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้บึ้มมากๆ ที่ออสเตรเลีย 2.1 ล้านเหรียญ ส่วนที่เกาหลีใต้ เปิดตัวไม่ถึง 1 ล้านเหรียญ แต่รายได้ที่เป็นกอบเป็นกำนั้นมาจากอังกฤษ ซึ่งคิดเป็น 19% ของรายได้ทั้งหมดในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทำเงินไปถึง 4 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 26.7 ล้านเหรียญ
สำหรับบางประเทศที่เปิดตัวพร้อมอเมริกา Jackass Presents: Bad Grandpa ทำรายได้ในสัปดาห์แรกไป 8.1 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับของ Jackass 3-D ในพื้นที่เดียวกัน รายได้หลักจากสัปดาห์เปิดตัวนั้นมาจาก 3.2 ล้านเหรียญ และเยอรมันนี 3.1 ล้านเหรียญ
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Despicable Me 2 ทำเงินผ่าน 900 ล้านเหรียญทั่วโลกเรียบร้อย และเป็นหนังเรื่องที่ 27 เป็นแอนิเมชันเร่ืองที่ 5 ที่ทำได้
สำหรับคำวิจารณ์หนังเข้าใหม่ในบ้านเราสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Kings of Summer หนังก้าวพ้นวัย มิตรภาพยังทำหน้าที่อยู่เสมอ ด้วยความงดงาม คลิกอ่านได้ที่
http://bit.ly/1aH7Oc4
ส่วน ต้มยำกุ้ง 2 มี 2 ความเห็น จาก ประวิทย์ แต่งอักษร คลิกที่
http://bit.ly/1aH9oL7 และนพปฎล พลศิลป์ คลิกที่
http://bit.ly/1fTErun
และ วิบากรรมของผู้หญิงที่ชื่อ โอชิน คลิกอ่านได้ที่
http://bit.ly/1791qNm ปิดท้ายด้วย Planes งานแตกหน่อต่อจาก Cars อ่านวิจารณ์ได้ที่
http://bit.ly/H8Stdf
อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่
www.sadaos.com
อันดับหนังทำเงินอเมริกา 25-27 ตุลาฯ Bad Grandpa คุณปู่ซู่ซ่า The Counselor ทนายว่าความไม่ออก
(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
หลังจากยึดอันดับ 1 หนังทำเงินในอเมริกา มา 3 สัปดาห์ติด Gravity ก็ต้องร่วงหล่น ลงมาสู่อันดับ 2 เพราะพ่ายแพ้แก่ Bad Grandpa หนังตอนแยกของ Jackass ขณะที่หนังรวมดารา งานชิ้นใหม่ของผู้กำกับริดลีย์ สก็อทท์ The Counselor กลายเป็นความน่าผิดหวังส่งท้ายปลายเดือนตุลาคมเมื่อหนังทำเงินไปได้แค่ 10 ล้านเหรียญ
ด้วยโรงฉาย 3,336 โรง Jackass Presents: Bad Grandpa เปิดตัวได้อย่างแข็งแรงเกินวัย กับรายได้ 32.1 ล้านเหรียญ ถือเป็นรายได้เปิดตัวมากเป็นอันดับ 2 ของหนังตระกูล Jackass เป็นรองก็แค่ 50.4 ล้านของJackass 3-D หากปรับค่าเงิน หนังBad Grandpa จะมีผู้เข้าชมพอๆ กับหนัง Jackass: The Movie แล้วก็เห็นได้ชัดว่าในปีนี้ คอหนังหิวโหยหนังเบาสมองเป็นพิเศษ เมื่อ Bad Grandpa เป็นหนังตลกเรื่องที่ 5 เข้าไปแล้ว ที่เปิดตัวมากกว่า 30 ล้านสำหรับปี 2013 โดยไม่นับ We're the Millers หรือ This is the End ที่เปิดตัวในวันพุธ และคนดูก็ไปดูกันจนหมดแม็กแล้วในวันแรกๆ ก่อนถึงสุดสัปดาห์
ความสำเร็จของ Bad Grandpa มองกันได้หลายปัจจัยด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังตอนแยก แต่ความรั่วแบบน่าอาย และการนำเสนอแบบหนังสารคดี ก็มาอีหรอบเดียวกับหนังชุด Jackass ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ และจุดแข็งของหนังชุดนี้ แถมหนังยังอธิบายเรื่องราวได้ไม่ยาก เข้าถึงคนกลุ่มกว้าง แล้วอย่าลืมว่าทุกคนก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับคนแก่รั่วๆ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมันก็กลายเป็นอารมณ์ขันที่เรียกเสียงหัวเราะออกมาได้ ท้ายที่สุด และเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตัวอย่าง และฉากที่ตัดไปโฆษณานั้น ฮาโคตรๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบง่ายๆ ที่จะทำให้หนังตลกสักเรื่องประสบความสำเร็จ
คนดูของ Bad Grandpa 56% เป็นผู้ชาย และ 63% อายุมากกว่า 25 ปี ขณะที่คนดูของ Jackass 3-D เป็นชาย 61% และมีเพียง 33% ที่อายุเกิน 25 ปี จากการที่หนังได้คนดูอายุมาก มากขึ้น และผู้หญิงกับผู้ชายให้ความสนใจพอๆ กัน มีแนวโน้มว่าหนังจะไปได้ยาวๆ ส่วนคะแนน B จากซีนีมาสกอร์ ไม่มีผลอะไรกับหนังเรื่องนี้ ที่น่าจะปิดโปรแกรมได้ที่อย่างน้อย 75 ล้านเหรียญ
ในสัปดาห์ที่ 4 ของการฉาย Gravity ทำรายได้ตกมาเพียง 33% ทำเงินไป 20.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดฮวบฮาบที่สุดของหนัง แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับหนังเขย่าขวัญ ไซ-ไฟ เรื่องนี้ มาถึงตอนนี้หนังทำเงินในอเมริกาไป 199.6 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 9 หนังทำเงินสูงสุดประจำปี ถึงสุดสัปดาห์นี้ หนังจะเสียโรงไอแมกซ์ให้กับ Ender's Game ไปหลายโรง แต่ก็ไม่น่ามีปัญหากับการปิดโปรแกรมด้วยรายได้ 250 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Captain Phillips ก็ล่องเรือชมวิวไปเรื่อยๆ กับการฉายในสัปดาห์ที่ 3 รายได้ของหนังตกแค่ 29% ทำรายได้มา 11.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 69.9 ล้านเหรียญ นำ Argo จากระยะเวลาฉายเท่าๆ กันอยู่ 10 ล้านเหรียญ และน่าจะทำรายได้สุดท้ายผ่าน 100 ล้านเหรียญ
หนังอาชญากรรม ลุ้นระทึกรวมดาว The Counselor เปิดตัว 3,044 โรง แต่ทำรายได้น่าผิดหวัง 7.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้พอๆ กันกับหนังเรท อาร์ อาชญากรรมเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ อย่าง Broken City (8.3 ล้านเหรียญ), Runner Runner (7.7 ล้านเหรียญ) และ Killing Them Softly (6.8 ล้านเหรียญ) ที่แบรด พิทท์นำแสดง และทำให้ The Counselor กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของพลังดาราในอันดับหนังทำเงิน หนังเต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับหัวแถว ที่งหน้ากล้องและหลังกล้อง ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์, คาเมรอน ดิแอซ, ฮาเวียร์ บาเด็ม, เพเนโลพี ครูซ และแบรด พิทท์ เสริมด้วยผู้กำกับอย่าง ริดลีย์ สก็อตต์ และผู้เขียนบท คอร์แมค แม็คคาร์ธีย์ ซึ่งเป็นระดับตัวพ่อที่น่าจะพาหนังไปได้สวยทั้งนั้น แต่สำหรับคนดูที่ต้องจ่ายค่าตั๋ว พวกเขาต้องการเรื่องราวที่น่าสนใจด้วย และ The Counselor ที่มีพล็อตฟังคลุมเครือ ไม่สามารถทำได้ แถมหนังยังได้คำวิจารณ์ที่สับแหลกอีกต่างหาก ในมะเขือเน่าหนังได้คะแนนแค่ 35% และน่าจะทำให้หนังห่างไกลจากคนดูออกไปเรื่อยๆ สำหรับคนดูนั้น เป็นผู้หญิงถึง 51% และ 85% อายุมากกว่า 25 ปี คะแนน D จากซีนีมาสกอร์ ย้ำว่าอนาคตของหนังสั้นมากๆ และน่าจะทำรายได้สุดท้ายต่ำกว่า 25 ล้านเหรียญด้วยซ้ำไป
ในเดือนตุลาคม มีหนัง 9 เรื่องที่เปิดตัวด้วยโรงมากกว่า 1.500 โรง และมี 5 เรื่องในจำนวนนี้ที่เปิดตัวด้วยตัวเลขไม่ถึง 10 ล้านเหรียญ ได้แก่ Runner Runner, Machete Kills, Escape Plan, The Fifth Estate และ The Counselor ถึงแม้จะมีงานฮิตระเบิดอย่าง Gravity แต่หนังในกลุ่มที่ว่า ซึ่งมีออกมาอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ตลาดโดยรวมๆ ซบเซา และสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัปดาห์แรกของเดือนนี้ ที่รายได้ของหนัง 12 อันดับแรก มากกว่าสัปดาห์เดียวของปี 2012 โดยมากกว่า 17% รายได้รวมเท่ากับ 94.9 ล้านเหรียญ และแน่นอนว่ารายได้ในเดือนนี้ จะไม่มีที่สร้างสถิติอะไรเลย
Cloudy with a Chance of Meatballs 2 ยังอยู่ในห้าอันดับแรก ด้วยรายได้ 6.3 ล้าน ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อนแบบเบาๆ แค่ 35% หนังทำเงินผ่านหลักร้อยล้านเรียบร้อยในวันอาทิตย์ แต่ก็ยังเทียบกับหนังภาคแรกไม่ติด แถมสุดสัปดาห์นี้ หนังต้องเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง Free Birds ที่น่าจะทำให้รายได้ตกลงไปมากกว่านี้แน่
หนังเข้าใหม่จากสุดสัปดาห์ก่อน ยังคงร่วงระนาวมาถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนัง Carrie ฉบับสร้างใหม่ รายได้หล่นฮวบ 63% ทำเงินมาอีกเพียง 6 ล้านเหรียญ รายได้รวมจุ๋มจิ๋มมากแค่ 26.1 ล้านเหรียญ ส่วน Escape Plan ตกน้อยกว่าแค่ 54% ทำเงินเพิ่ม 4.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมขยับมาที่ 17.6 ล้านเหรียญ และเรื่องสุดท้าย The Fifth Estate รายได้ตกถึง 66% ทำเงินมาแค่ 570,890 เหรียญ รายได้ 10 วันมีแค่ 2.85 ล้านเหรียญ
กับคำวิจารณ์ที่ดี และกลายเป็นตัวเต็งบนเวทีรางวัล 12 Years a Slave ที่ขยายโรงเป็น 123 โรงทำเงินได้ถึง 2.13 ล้านเหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่แข็งแรงมากๆ 17,352 เหรียญ ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 3.4 ล้านเหรียญ และสุดสัปดาห์นี้หนังจะเพิ่มโรงเป็น 400 โรง
กับโรงฉายแค่ 4 โรง หนังรางวัลปาล์มทองคำ Blue Is the Warmest Color เปิดตัวด้วยตัวเลข 100,316 เหรียญ เท่ากับ 25,079 เหรียญต่อโรง ซึ่งถือว่าดีมากๆ สำหรับหนังดราม่าจากฝรั่งเศสเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะไปได้ดีแค่ไหนในระยะยาว เนื่องจากความยาวที่มากถึง 3 ชั่วโมง และได้เรทเอ็นซี- 17 ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หนังไม่สามารถไปได้ไกลกว่าโรงหนังอาร์ต
มาดูรายได้นอกอเมริกากันบ้าง ด้วยรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 36.6 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ประจำสัปดาห์ที่เจ๋งที่สุด และทำให้หนังครองอันดับ 1 ในตลาดนอกอเมริกาเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการเปิดตัวที่ฝรั่งเศส 11.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดที่นี่ นอกจากนี้ยังยืนระยะได้ดีที่เกาหลีใต้ 5.8 ล้านเหรียญ และเม็กซิโก 4 ล้านเหรียญ รายรวมของหนังเท่ากับ 164.4 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในอังกฤษ กับจีน เดือนพฤศจิกายน ส่วนญี่ปุ่นเป็นธันวาฯ หนังน่าจะทำเงินเกิน 300 ล้านเหรียญเมื่อปิดโปรแกรม
Cloudy with a Chance of Meatballs 2 ขยายพื้นที่ฉายไปในพื้นที่สำคัญๆ เพียงไม่กี่แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำเงินมาเพิ่มอีก 17.9 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษกับรายได้ 6.1 ล้านเหรียญ และไปได้สวยที่รัสเซีย 3.8 ล้านเหรียญ และเยอรมันนี 3.2 ล้านเหรียญ โดยทั้งสามประเทศที่ว่ามา หนังเปิดตัวได้มากกว่าหนังภาคแรก ตอนนี้หนังทำรายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 49.2 ล้านเหรียญ
แอนิเมชันของดรีมเวิร์คส์ Turbo ได้เงินมาอีก 14.2 ล้านเหรียญ จาก 23 ตลาดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำเงินได้มากที่สุดที่ฝรั่งเศส 5.8 ล้านเหรียญ เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 76% โดยไม่รวมรายได้จากรอบพรีวิว ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 163.4 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านได้เมื่อปิดโปรแกรม
สัปดาห์ที่ 2 ของ Captain Phillips หนังทำเงินไปถึง 12.1 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้บึ้มมากๆ ที่ออสเตรเลีย 2.1 ล้านเหรียญ ส่วนที่เกาหลีใต้ เปิดตัวไม่ถึง 1 ล้านเหรียญ แต่รายได้ที่เป็นกอบเป็นกำนั้นมาจากอังกฤษ ซึ่งคิดเป็น 19% ของรายได้ทั้งหมดในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทำเงินไปถึง 4 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 26.7 ล้านเหรียญ
สำหรับบางประเทศที่เปิดตัวพร้อมอเมริกา Jackass Presents: Bad Grandpa ทำรายได้ในสัปดาห์แรกไป 8.1 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับของ Jackass 3-D ในพื้นที่เดียวกัน รายได้หลักจากสัปดาห์เปิดตัวนั้นมาจาก 3.2 ล้านเหรียญ และเยอรมันนี 3.1 ล้านเหรียญ
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Despicable Me 2 ทำเงินผ่าน 900 ล้านเหรียญทั่วโลกเรียบร้อย และเป็นหนังเรื่องที่ 27 เป็นแอนิเมชันเร่ืองที่ 5 ที่ทำได้
สำหรับคำวิจารณ์หนังเข้าใหม่ในบ้านเราสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Kings of Summer หนังก้าวพ้นวัย มิตรภาพยังทำหน้าที่อยู่เสมอ ด้วยความงดงาม คลิกอ่านได้ที่ http://bit.ly/1aH7Oc4
ส่วน ต้มยำกุ้ง 2 มี 2 ความเห็น จาก ประวิทย์ แต่งอักษร คลิกที่ http://bit.ly/1aH9oL7 และนพปฎล พลศิลป์ คลิกที่ http://bit.ly/1fTErun
และ วิบากรรมของผู้หญิงที่ชื่อ โอชิน คลิกอ่านได้ที่ http://bit.ly/1791qNm ปิดท้ายด้วย Planes งานแตกหน่อต่อจาก Cars อ่านวิจารณ์ได้ที่ http://bit.ly/H8Stdf
อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่ www.sadaos.com