US BOX OFFICE December 6-8, 2013
(แปลและเรียบเรียงจาก
www.boxofficemojo.com)
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่คอหนังชาวอเมริกันต้องเจอกับสภาพหนาวเย็นที่ไม่ปกติ กันเป็นแถว เมื่อหนังแอนิเมชันของค่ายดิสนีย์ Frozen ทำได้ดีมากๆ กับการส่งความหนาวเย็นชนิดดับไฟของ The Hunger Games: Catching Fire ได้ชะงัด จนแซงขึ้นอันดับ 1 ได้สำเร็จ แต่กับหนังเข้าใหม่ งานใหม่ของคริสเตียน เบล Out of the Furnace กลับไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่
รายได้ของ Frozen ตกลง 53% ทำเงินไป 31.6 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้หลังวันขอบคุณพระเจ้าที่สูงที่สุด มากกว่า 27.8 ล้านเหรียญของ Toy Story 2 ขณะที่ Tangled รายได้ตก 56% ทำเงินได้ 21.6 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์เดียวกันนี้ของปี 2010 ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 134.3 ล้านเหรียญ และน่าจะทำเงินถึง 250 ล้านเหรียญ เมื่อปิดโปรแกรม
หลังทำได้ดีในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา Catching Fire รายได้ตกลง 65% ทำรายได้มาอีก 26.2 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่การยืนระยะที่ดีนัก เพราะขนาดหนัง Twilight สองเรื่องสุดท้ายยังทำได้ดีกว่าเล็กน้อย หลังพ้นสุดสัปดาห์ขอบคุณพระเจ้ามาแล้ว รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 335.9 ล้านเหรียญ และไม่น่าจะปิดตัวด้วยตัวเลขต่ำกว่า 400 ล้านเหรียญ
ด้วยโรงฉาย 2,101 โรง Out of the Furnace เปิดตัวได้จิ๊บจ้อยมากแค่ 5.2 ล้านเหรียญ แย่กว่า Killing Them Softly หนังอาชญากรรมด้านมืด ที่ทำไว้ 6.8 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์เดียวกันของปีที่ผ่านมา และในกลุ่มหนังอาชญากรรมปี 2013 หนังทำได้แค่พอๆ กับ Dead Man Down (5.3 ล้านเหรียญ) และต่ำกว่าหนังที่เปิดตัวในน่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้อย่าง Homefront (6.9 ล้านเหรียญ) ด้วยซ้ำ กับการที่คนดูหนังกำลังง่วนกับการช็อปปิ้งในช่วงวันหยุดยาว และมองหาหนังใหญ่ๆ เรื่องต่อไป ทำให้สัปดาห์แรกของเดือนธันวาฯ มักจะมาด้วยรายได้ที่ต่ำเสมอ แต่กับการเป็นหนังใหม่เรื่องเดียวที่เปิดตัวในวงกว้าง Out of the Furnace ก็น่าจะทำเงินได้มากกว่านี้ โชคไม่ดีที่หนังอาจจะดูหม่นเกินไป และการประชาสัมพันธ์ทั้งหลายก็กระตุ้นความสนใจไม่สำเร็จ แถมนำเสนอเรื่องราวที่เฉพาะตัวไม่ได้อีก แล้วหนังที่มีนักแสดงอย่างคริสเตียน เบล ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นหนังทำเงิน แล้วกับแฟนของเบลเอง ก็ดูเหมือนว่าจะรอหนังที่เขากลับไปร่วมงานกับเดวิด โอ รัสเซลล์ American Hustle มากกว่า คนดูของ Out of the Furnace 60% เป็นชาย และ 77% อายุมากกว่า 25 ปี หนังได้คะแนนแค่ C+ จากซีนีมาสกอร์ ซึ่งน่าจะทำให้หายไปจากโรงได้อย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อันดับ 4 เป็น Thor: The Dark World ที่รายได้ตก 57% ทำเงินมาอีก 4.8 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 193.7 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านก่อนคริสต์มาส
Delivery Man ขยับมาที่อันดับ 5 หนังตลกของวินซ์ วอห์น ซึ่งดูจะได้ความช่วยเหลือจากปากต่อปากอยู่บ้าง ได้เงินมาอีก 3.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมเท่ากับ 24.8 ล้านเหรียญ
แม้จะหลุดไปจากสิบอันดับแรก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Jackass Presents Bad Grandpa ก็ทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญมาได้แบบเฉียดฉิว และเป็นหนังตลกเรท-อาร์ เรื่องที่ 6 ที่ทำเงินได้ขนาดนี้ในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหนังตลกสำหรับผู้ใหญ่ และหนังน่าจะปิดโปรแกรมด้วยรายได้พอๆ กับ Jackass 3-D ที่ทำไว้ 117.2 ล้านเหรียญ โดยที่ไม่มีค่าตั๋วแพงๆ จากการฉาย 3 มิติมาช่วย
กับโรงฉายแค่ 4 โรงในนิว ยอร์ค และลอส แองเจลีส หนังของพี่น้องโคเอน Inside Llewyn Davis เปิดตัวด้วยรายได้ระดับสร้างปรากฏการณ์ 405,411 เหรียญ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรง 101,353 เหรียญ รั้งอันดับ 18 หนังรายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงสุดตลอดกาล และถ้านับเฉพาะหนังคนแสดงจะเป็นอันดับ 8 แถมทำได้ดีกว่าหนังเปิดตัว 4 โรงเรื่องอื่นๆ ของปีที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป้น The King's Speech (88,863 เหรียญ), Tinker, Tailor, Soldier, Spy (77,641 เหรียญ) และ The Fighter (75,003 เหรียญ)
แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมองว่า หากหนังเิปดตัวในวงกว้างแล้ว ผลลัพธ์จะออกมายังไง โดยปกติหนังของพี่น้องโคเอนเอนดูจะเหมาะสมลงตัวกับโรงฉายในแบบอาร์ตเฮาส์มากกว่า แล้วตัวหนังที่เป็นเรื่องของนักร้องเพลงโฟล์คในแถบกรีนนิช วิลเลจช่วงยุค 60 ก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ “ต้องดู” สำหรับในนิว ยอร์ค กับโอกาสในการเข้าชิงรางวัล และคำวิจารณ์ที่ดี หนังน่าจะทำรายได้อย่างน้อย 20 ล้านเหรียญ ซึ่งหนังจะขยายโรงอีกในสัปดาห์ที่ 20 ธันวาคม แต่จะไม่เปิดฉายในวงกว้างจนกระทั่งเดือนมกราคม
สำหรับตลาดนอกอเมริกา The Hunger Games: Catching Fire ยังทำเงินสูงสุดเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ด้วยรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 44.3 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ทำเงินไปถึง 42.9 ล้านเหรียญ รายได้รวมตอนนี้พุ่งไปถึง 336.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกเป็น 673.4 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง 691 ล้านเหรียญของหนังภาคแรกได้ในสุดสัปดาห์นี้
Frozen เปิดตัวในตลาดสำคัญๆ บ้างแล้ว และทำรายได้เพิ่มมาอีก 30.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมอยู่ที่ 55.9 ล้านเหรียญ หนังทำได้ดีที่อังกฤษ 7.4 ล้านเหรียญ ไปได้สวยที่ฝรั่งเศส 5.8 ล้านเหรียญ (8.2 ล้านเหรียญ ถ้ารวมรายได้รอบพรีวิว) ขณะที่ในสเปนและเยอรมันนีแค่พอใช้ได้ Frozen จะเปิดตัวที่รัสเซียในสุดสัปดาห์หน้า จากนั้นก็เป็นอิตาลี และเม็กซิโก ก่อนช่วงคริสต์มาส
Gravity ทำรายได้มาอีก 10.7 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รายได้รวมไปถึง 380 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้ รายได้หลักๆ ของหนังมาจากจีน 64.6 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้หนังจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่น ตลาดหลักแห่งสุดท้าย สำหรับรายได้ทั่วโลกของหนังนั้น เก็บไปได้ถึง 631.5 ล้านเหรียญ
หนังซามูไรลงทุนสูง 47 Ronin เปิดตัวแล้ว และผลลัพธ์ออกมาน่าผิดหวังมากๆ โดยทำเงินที่ญี่ปุ่นไปแค่ 1.3 ล้านเหรียญ เข้ากลุ่มเดียวกับ Pacific Rim และ The Wolverine ในฐานะหนังอเมริกัน ที่มีความเป็นญี่ปุ่นในตัว แต่ไม่สามารถดึงคนดูชาวญี่ปุ่นได้ (Pacific Rim ปิดตัวด้วยรายได้ 14.8 ล้านเหรียญ ส่วน The Wolverine ทำได้แค่ 8 ล้านเหรียญ) 47 Ronin จะเปิดตัวในอเมริกาช่วงริสต์มาส
ในที่สุด ยูนิเวอร์แซลก็ได้กำหนดเปิดตัวของ Despicable Me 2 ที่จีน ซึ่งจะเป็นวันที่ 10 มกราคม 2014 ตอนนี้หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ทำเงินไปแล้ว 918.6 ล้านเหรียญ และน่าจะทำเงินได้เกิน 950 ล้านเหรียญ เมื่อปิดโปรแกรม
อ่านวิจารณ์ Frozen ได้ที่
http://bit.ly/18cYMXb | Mary is Happy Mary is Happy ได้ที่
http://bit.ly/1jBc3O4 และ
http://bit.ly/1cxi0rY | Snowpiercer ได้ที่
http://bit.ly/1eXfprN และ Like Father, Like Son ได้ที่
http://bit.ly/1d3WWrx
อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่
www.sadaos.com
อันดับหนังทำเงินเมืองมะกัน 8 ธันวาฯ น้ำแข็งดับไฟ...
(แปลและเรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่คอหนังชาวอเมริกันต้องเจอกับสภาพหนาวเย็นที่ไม่ปกติ กันเป็นแถว เมื่อหนังแอนิเมชันของค่ายดิสนีย์ Frozen ทำได้ดีมากๆ กับการส่งความหนาวเย็นชนิดดับไฟของ The Hunger Games: Catching Fire ได้ชะงัด จนแซงขึ้นอันดับ 1 ได้สำเร็จ แต่กับหนังเข้าใหม่ งานใหม่ของคริสเตียน เบล Out of the Furnace กลับไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่
รายได้ของ Frozen ตกลง 53% ทำเงินไป 31.6 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้หลังวันขอบคุณพระเจ้าที่สูงที่สุด มากกว่า 27.8 ล้านเหรียญของ Toy Story 2 ขณะที่ Tangled รายได้ตก 56% ทำเงินได้ 21.6 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์เดียวกันนี้ของปี 2010 ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 134.3 ล้านเหรียญ และน่าจะทำเงินถึง 250 ล้านเหรียญ เมื่อปิดโปรแกรม
หลังทำได้ดีในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา Catching Fire รายได้ตกลง 65% ทำรายได้มาอีก 26.2 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่การยืนระยะที่ดีนัก เพราะขนาดหนัง Twilight สองเรื่องสุดท้ายยังทำได้ดีกว่าเล็กน้อย หลังพ้นสุดสัปดาห์ขอบคุณพระเจ้ามาแล้ว รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 335.9 ล้านเหรียญ และไม่น่าจะปิดตัวด้วยตัวเลขต่ำกว่า 400 ล้านเหรียญ
ด้วยโรงฉาย 2,101 โรง Out of the Furnace เปิดตัวได้จิ๊บจ้อยมากแค่ 5.2 ล้านเหรียญ แย่กว่า Killing Them Softly หนังอาชญากรรมด้านมืด ที่ทำไว้ 6.8 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์เดียวกันของปีที่ผ่านมา และในกลุ่มหนังอาชญากรรมปี 2013 หนังทำได้แค่พอๆ กับ Dead Man Down (5.3 ล้านเหรียญ) และต่ำกว่าหนังที่เปิดตัวในน่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้อย่าง Homefront (6.9 ล้านเหรียญ) ด้วยซ้ำ กับการที่คนดูหนังกำลังง่วนกับการช็อปปิ้งในช่วงวันหยุดยาว และมองหาหนังใหญ่ๆ เรื่องต่อไป ทำให้สัปดาห์แรกของเดือนธันวาฯ มักจะมาด้วยรายได้ที่ต่ำเสมอ แต่กับการเป็นหนังใหม่เรื่องเดียวที่เปิดตัวในวงกว้าง Out of the Furnace ก็น่าจะทำเงินได้มากกว่านี้ โชคไม่ดีที่หนังอาจจะดูหม่นเกินไป และการประชาสัมพันธ์ทั้งหลายก็กระตุ้นความสนใจไม่สำเร็จ แถมนำเสนอเรื่องราวที่เฉพาะตัวไม่ได้อีก แล้วหนังที่มีนักแสดงอย่างคริสเตียน เบล ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นหนังทำเงิน แล้วกับแฟนของเบลเอง ก็ดูเหมือนว่าจะรอหนังที่เขากลับไปร่วมงานกับเดวิด โอ รัสเซลล์ American Hustle มากกว่า คนดูของ Out of the Furnace 60% เป็นชาย และ 77% อายุมากกว่า 25 ปี หนังได้คะแนนแค่ C+ จากซีนีมาสกอร์ ซึ่งน่าจะทำให้หายไปจากโรงได้อย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อันดับ 4 เป็น Thor: The Dark World ที่รายได้ตก 57% ทำเงินมาอีก 4.8 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 193.7 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านก่อนคริสต์มาส
Delivery Man ขยับมาที่อันดับ 5 หนังตลกของวินซ์ วอห์น ซึ่งดูจะได้ความช่วยเหลือจากปากต่อปากอยู่บ้าง ได้เงินมาอีก 3.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมเท่ากับ 24.8 ล้านเหรียญ
แม้จะหลุดไปจากสิบอันดับแรก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Jackass Presents Bad Grandpa ก็ทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญมาได้แบบเฉียดฉิว และเป็นหนังตลกเรท-อาร์ เรื่องที่ 6 ที่ทำเงินได้ขนาดนี้ในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหนังตลกสำหรับผู้ใหญ่ และหนังน่าจะปิดโปรแกรมด้วยรายได้พอๆ กับ Jackass 3-D ที่ทำไว้ 117.2 ล้านเหรียญ โดยที่ไม่มีค่าตั๋วแพงๆ จากการฉาย 3 มิติมาช่วย
กับโรงฉายแค่ 4 โรงในนิว ยอร์ค และลอส แองเจลีส หนังของพี่น้องโคเอน Inside Llewyn Davis เปิดตัวด้วยรายได้ระดับสร้างปรากฏการณ์ 405,411 เหรียญ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรง 101,353 เหรียญ รั้งอันดับ 18 หนังรายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงสุดตลอดกาล และถ้านับเฉพาะหนังคนแสดงจะเป็นอันดับ 8 แถมทำได้ดีกว่าหนังเปิดตัว 4 โรงเรื่องอื่นๆ ของปีที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป้น The King's Speech (88,863 เหรียญ), Tinker, Tailor, Soldier, Spy (77,641 เหรียญ) และ The Fighter (75,003 เหรียญ)
แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมองว่า หากหนังเิปดตัวในวงกว้างแล้ว ผลลัพธ์จะออกมายังไง โดยปกติหนังของพี่น้องโคเอนเอนดูจะเหมาะสมลงตัวกับโรงฉายในแบบอาร์ตเฮาส์มากกว่า แล้วตัวหนังที่เป็นเรื่องของนักร้องเพลงโฟล์คในแถบกรีนนิช วิลเลจช่วงยุค 60 ก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ “ต้องดู” สำหรับในนิว ยอร์ค กับโอกาสในการเข้าชิงรางวัล และคำวิจารณ์ที่ดี หนังน่าจะทำรายได้อย่างน้อย 20 ล้านเหรียญ ซึ่งหนังจะขยายโรงอีกในสัปดาห์ที่ 20 ธันวาคม แต่จะไม่เปิดฉายในวงกว้างจนกระทั่งเดือนมกราคม
สำหรับตลาดนอกอเมริกา The Hunger Games: Catching Fire ยังทำเงินสูงสุดเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ด้วยรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 44.3 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ทำเงินไปถึง 42.9 ล้านเหรียญ รายได้รวมตอนนี้พุ่งไปถึง 336.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกเป็น 673.4 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง 691 ล้านเหรียญของหนังภาคแรกได้ในสุดสัปดาห์นี้
Frozen เปิดตัวในตลาดสำคัญๆ บ้างแล้ว และทำรายได้เพิ่มมาอีก 30.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมอยู่ที่ 55.9 ล้านเหรียญ หนังทำได้ดีที่อังกฤษ 7.4 ล้านเหรียญ ไปได้สวยที่ฝรั่งเศส 5.8 ล้านเหรียญ (8.2 ล้านเหรียญ ถ้ารวมรายได้รอบพรีวิว) ขณะที่ในสเปนและเยอรมันนีแค่พอใช้ได้ Frozen จะเปิดตัวที่รัสเซียในสุดสัปดาห์หน้า จากนั้นก็เป็นอิตาลี และเม็กซิโก ก่อนช่วงคริสต์มาส
Gravity ทำรายได้มาอีก 10.7 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รายได้รวมไปถึง 380 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้ รายได้หลักๆ ของหนังมาจากจีน 64.6 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้หนังจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่น ตลาดหลักแห่งสุดท้าย สำหรับรายได้ทั่วโลกของหนังนั้น เก็บไปได้ถึง 631.5 ล้านเหรียญ
หนังซามูไรลงทุนสูง 47 Ronin เปิดตัวแล้ว และผลลัพธ์ออกมาน่าผิดหวังมากๆ โดยทำเงินที่ญี่ปุ่นไปแค่ 1.3 ล้านเหรียญ เข้ากลุ่มเดียวกับ Pacific Rim และ The Wolverine ในฐานะหนังอเมริกัน ที่มีความเป็นญี่ปุ่นในตัว แต่ไม่สามารถดึงคนดูชาวญี่ปุ่นได้ (Pacific Rim ปิดตัวด้วยรายได้ 14.8 ล้านเหรียญ ส่วน The Wolverine ทำได้แค่ 8 ล้านเหรียญ) 47 Ronin จะเปิดตัวในอเมริกาช่วงริสต์มาส
ในที่สุด ยูนิเวอร์แซลก็ได้กำหนดเปิดตัวของ Despicable Me 2 ที่จีน ซึ่งจะเป็นวันที่ 10 มกราคม 2014 ตอนนี้หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ทำเงินไปแล้ว 918.6 ล้านเหรียญ และน่าจะทำเงินได้เกิน 950 ล้านเหรียญ เมื่อปิดโปรแกรม
อ่านวิจารณ์ Frozen ได้ที่ http://bit.ly/18cYMXb | Mary is Happy Mary is Happy ได้ที่ http://bit.ly/1jBc3O4 และ http://bit.ly/1cxi0rY | Snowpiercer ได้ที่ http://bit.ly/1eXfprN และ Like Father, Like Son ได้ที่ http://bit.ly/1d3WWrx
อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่ www.sadaos.com