เพื่อนบอกว่าเราเป็นเจ้านายที่ดีเกินไป แล้วเมื่อไหร่จะรวย ???

เราทำธุรกิจส่วนตัวมาได้สี่ปีค่ะ  เพิ่งเปิด สาขาที่สองไป เมื่อวันที่  18  ที่ผ่านมาค่ะ  ทีมงานก็แบ่งจากร้านแรกมาบริหาร มาฝึกน้องใหม่ที่ร้านที่สอง  เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันมาเยี่ยมเยียน  สอบถามเรื่องยอดขาย  ลูกค้า  ต่างๆ นา  ก็คุยกันจิปาถะ  เพื่อนขับรถหรู มีบ้านหลังใหญ่ราคา 4-5 ล้านกัน  แต่เราขับรถธรรมดาคันเดิม  บ้านทาวเฮาส์หลังเล็ก เดิมๆ แล้วก็ถามเรื่องการจ้างงาน การดูแลลูกน้อง  เราบอกว่าร้านเราใครอยากมาทำ  OT ก็มา  ใครทำเงินหายก็ไม่ค่อยหักเงินเดือน  ซื้อข้าวให้กิน ให้ลูกน้องเยอะ   เพื่อนบอกว่า ใจดีไป  แล้วเมื่อไหร่จะรวย ? เราบอกเพื่อนไปว่าเรารวยช้า  ดีกว่ามาปวดหัวเพราะลูกน้องลาออกยกทีม  ทำให้การบริหารงานแย่ไปด้วย  งกมากไปลูกน้องทุจริต  เพราะร้านเพื่อนเจอปัญหาเรื่องพนักงานทุจริตและไล่พนักงานออกแทบจะทุกสามเดือน  เราไม่อยากเหนื่อยกับการสอนงาน  เราบอกเพื่อนไปว่า  " ฉันอยากให้เค้าอยู่กับฉันนานๆ  ฉันก็เลยให้เค้าเท่าที่ฉันจะให้ได้  รวยช้าก็ไม่เป็นไร  ฉันตัวคนเดียว  จะเก็บเงินไว้ให้ใครมากมาย อยากได้อะไรฉันก็ซื้อ  อยากกินอะไรก็กิน  อยากไปเที่ยวไหนฉันก็ไป  เหลือก็แบ่งๆ ลูกน้องกินไป แต่ฉันก็เก็บเงินไว้ตอนเกษียณแล้ว  แกไม่ต้องห่วงหรอก "  เพื่อนรู้ว่าเราเป็นคนใจกว้าง  เรายอมรับค่ะ พยายามจะเป็นคนขี้เหนียวหลายครั้งแล้ว   ทำไม่เคยได้  จริงๆ ถ้าเรางกกว่านี้สักหน่อย  ก็คงมีเงินเยอะกว่านี้  เมื่อวานก็เพิ่งออกเงินซื้อมอเตอร์ไซค์ ให้ลูกน้องคนนึง เค้าเป็นคนซื่อ ขยันทำงานมาก วันหยุดก็ยังมาช่วยเพื่อนทำงาน ก็เลยอยากช่วยเค้าให้มีรถขี่มาทำงานเพราะเวลาเลิกงานดึกมอเตอร์ไซค์รับจ้างหายากมาก น้องทำงานเหนื่อย ยืนทั้งวัน ต้องมารอรถ บางวันฝนตกอีก  มันมีเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาใช้เรา  สัญญาก็ไม่ได้ทำ  ถ้าไม่ใช้ชาตินี้  ก็คงชาติหน้า 555555  เรากำลังคิดว่า  เราควรจะเริ่มงกดีไหม?  หรือเราใจดีเกินไปจริงๆ ? วันนี้ลูกน้องโทรมาขอเบิกเงินล่วงหน้าเอาเงินไปให้แม่ปูกระเบื้องที่บ้านต่างจังหวัด 10,000 เราบอกน้องไปว่าขอเวลาคิด  3 วัน ขอถามเพื่อนๆ สมาชิกว่า เราควรทำแบบนี้ต่อไปไหมคะ?  หรือควรจะลดความใจกว้างลงบ้าง  บางทีเรื่องบางเรื่องเหมือนจะตัดสินใจได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง  แต่เราก็ตัดสินใจไม่ได้  แปลกแท้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่