อุณหภูมิการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 ตุลาคม 2556 นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์คสหรัฐอเมริกาซื้อขายกันตามผลประกอบการที่ออกมา และตามการประมาณผลประกอบการที่มีทั้งที่ดีบ้างและไม่ดีบ้างผสมผสานกันไป ส่งผลให้ดัชนีสำคัญปิดตลาดในแดนลบกันหมด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลงเป็นวันแรก หลังจากที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึง 5 วันติดต่อกัน จนขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการจัดทำดัชนีนี้ เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายทะยานขึ้นสูงที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา
สำนักงานแรงงานของสหรัฐอเมริกา รายงาน ดัชนีราคาสินค้านำเข้าในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.2% และระบุว่า เป็นดัชนีที่มิได้กดดันต่อภาวะเงินเฟ้อของสินค้านำเข้า โดยถ้าเปรียบเทียบกันปีต่อปี สินค้านำเข้ามีราคาที่ลดลง 1.0%
บลูมเบิร์กรายงานข่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนต้องตัดหนี้เสียทิ้งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนถึง 3 เท่า สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยเฉพาะธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชี่ยล แบงก์ ออฟ ไชน่า หรือ ICBC รายงานยอดจำนวนหนี้เสียที่ต้องตัดทิ้งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สูงถึง 3.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราวประมาณ 1 แสนล้านบาทไทย
หุ้นของเอเชียปรับตัวลดลงกันทั้งภูมิภาค
ธนาคารกลางยุโรป(ECB)ออกแถลงข่าวในวันนี้ว่า จะเริ่มโครงการทดสอบความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของยูโรโซนอีกครั้งหนึ่ง โดยการตรวจสอบตั้งเป้าไปที่ความโปร่งใสในธนาคาร และการตั้งสำรองเงินทุนของแต่ละธนาคารโดยเฉพาะ Tier1 ต้องให้อยู่ที่ระดับ 8% จริงๆ หากธนาคารใดมีเงินกองทุนสำรองไม่ถึงระดับ จะต้องดำเนินการเพิ่มทุน
ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในยุโรปปรับตัวลดลงแรง และลากเอาดัชนีรวมทั่วทั้งยุโรปลดลงมาด้วย
ในตลาดนิวยอร์ค นักลงทุนเล่นข่าวกันตามผลประกอบการที่ออกมาเป็นสำคัญ ซึ่งในขณะนี้บริษัทจำนวน 160 บริษัทใน 500 บริษัทของเอสแอนด์พี 500 ได้รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว เกือบระดับ 66% รายงานผลประกอบการออกมามีกำไรในระดับที่ดีที่สุดที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ในขณะที่ อีก 54% มีรายได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และคาดการณ์กันว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 นี้ของบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 น่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
หุ้นของบริษัท คาเตอร์พิลล่าร์ หรือ CAT ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เพื่อการก่อสร้างและทำเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ลดลงถึง 6.1% ภายหลังจากที่บริษัทออกมาประกาศลดการคาดการณ์รายได้และกำไรในปี 2013 ลง อันเนื่องจากความต้องการใช้โลหะที่ลดลงทำให้บริษัทเหมืองแร่ต่างสั่งซื้อสินค้าของบริษัทลดลง
ปล. บรรยากาศทั้งโลกเป็นไปตามปกติครับ ซื้อขาย และกังวลกันไปตามผลประกอบการ และแนวโน้มเศรษฐกิจ เงื่อนไขปัญหาใหญ่ๆยังไม่มี ระหว่างนี้ก็เล่นข่าวของแต่ละประเทศกันไปฆ่าเวลา เม่าน้อยแบบเราๆก็ไม่ต้องตกใจไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ดำเนินชีวิตไปตามปกติเพื่อ active income กันไปก่อน โดยมีเป้าหมายแท้จริงเพื่อ passive income อย่า acvance ข้ามขั้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาขาย ไม่ใช่เวลาซื้อๆขายๆ สำหรับ นลท. แต่ควรเป็นเวลาใช้สติ และปัญญาในการลงทุน การลงทุนในธุรกิจจริง การทำงานจริงในชีวิต เราต้องลงแรงก่อน เราต้องทนขาดทุนก่อน เพื่อผลกำไรหรือผลตอบแทนในอนาคตใช่หรือไม่ แต่ทำไมบางคนคิดกับการลงทุนต่างกัน คือลงทุนตอนนี้อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเอากำไรแล้ว ในความเป็นจริงมันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ ตรงนี้ต้องใช้สติครับ รู้มาก รู้น้อย ดร. หรือ มัธยม ไม่เกี่ยว แต่มันสำคัญที่ เราเข้าใจการลงทุนในแง่มุมไหน และเราถนัดอะไรมากกว่าเท่านั้นเองครับ
อรุณสวัสดิ์ท่าน นลท. ผู้ร่ำรวยทุกท่านครับ
อุณหภูมิการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 ตุลาคม 2556 นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์คสหรัฐอเมริกาซื้อขายกันตามผลประกอบการที่ออกมา และตามการประมาณผลประกอบการที่มีทั้งที่ดีบ้างและไม่ดีบ้างผสมผสานกันไป ส่งผลให้ดัชนีสำคัญปิดตลาดในแดนลบกันหมด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลงเป็นวันแรก หลังจากที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึง 5 วันติดต่อกัน จนขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการจัดทำดัชนีนี้ เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายทะยานขึ้นสูงที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา
สำนักงานแรงงานของสหรัฐอเมริกา รายงาน ดัชนีราคาสินค้านำเข้าในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.2% และระบุว่า เป็นดัชนีที่มิได้กดดันต่อภาวะเงินเฟ้อของสินค้านำเข้า โดยถ้าเปรียบเทียบกันปีต่อปี สินค้านำเข้ามีราคาที่ลดลง 1.0%
บลูมเบิร์กรายงานข่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนต้องตัดหนี้เสียทิ้งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนถึง 3 เท่า สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยเฉพาะธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชี่ยล แบงก์ ออฟ ไชน่า หรือ ICBC รายงานยอดจำนวนหนี้เสียที่ต้องตัดทิ้งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สูงถึง 3.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราวประมาณ 1 แสนล้านบาทไทย
หุ้นของเอเชียปรับตัวลดลงกันทั้งภูมิภาค
ธนาคารกลางยุโรป(ECB)ออกแถลงข่าวในวันนี้ว่า จะเริ่มโครงการทดสอบความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของยูโรโซนอีกครั้งหนึ่ง โดยการตรวจสอบตั้งเป้าไปที่ความโปร่งใสในธนาคาร และการตั้งสำรองเงินทุนของแต่ละธนาคารโดยเฉพาะ Tier1 ต้องให้อยู่ที่ระดับ 8% จริงๆ หากธนาคารใดมีเงินกองทุนสำรองไม่ถึงระดับ จะต้องดำเนินการเพิ่มทุน
ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในยุโรปปรับตัวลดลงแรง และลากเอาดัชนีรวมทั่วทั้งยุโรปลดลงมาด้วย
ในตลาดนิวยอร์ค นักลงทุนเล่นข่าวกันตามผลประกอบการที่ออกมาเป็นสำคัญ ซึ่งในขณะนี้บริษัทจำนวน 160 บริษัทใน 500 บริษัทของเอสแอนด์พี 500 ได้รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว เกือบระดับ 66% รายงานผลประกอบการออกมามีกำไรในระดับที่ดีที่สุดที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ในขณะที่ อีก 54% มีรายได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และคาดการณ์กันว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 นี้ของบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 น่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
หุ้นของบริษัท คาเตอร์พิลล่าร์ หรือ CAT ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เพื่อการก่อสร้างและทำเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ลดลงถึง 6.1% ภายหลังจากที่บริษัทออกมาประกาศลดการคาดการณ์รายได้และกำไรในปี 2013 ลง อันเนื่องจากความต้องการใช้โลหะที่ลดลงทำให้บริษัทเหมืองแร่ต่างสั่งซื้อสินค้าของบริษัทลดลง
ปล. บรรยากาศทั้งโลกเป็นไปตามปกติครับ ซื้อขาย และกังวลกันไปตามผลประกอบการ และแนวโน้มเศรษฐกิจ เงื่อนไขปัญหาใหญ่ๆยังไม่มี ระหว่างนี้ก็เล่นข่าวของแต่ละประเทศกันไปฆ่าเวลา เม่าน้อยแบบเราๆก็ไม่ต้องตกใจไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ดำเนินชีวิตไปตามปกติเพื่อ active income กันไปก่อน โดยมีเป้าหมายแท้จริงเพื่อ passive income อย่า acvance ข้ามขั้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาขาย ไม่ใช่เวลาซื้อๆขายๆ สำหรับ นลท. แต่ควรเป็นเวลาใช้สติ และปัญญาในการลงทุน การลงทุนในธุรกิจจริง การทำงานจริงในชีวิต เราต้องลงแรงก่อน เราต้องทนขาดทุนก่อน เพื่อผลกำไรหรือผลตอบแทนในอนาคตใช่หรือไม่ แต่ทำไมบางคนคิดกับการลงทุนต่างกัน คือลงทุนตอนนี้อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเอากำไรแล้ว ในความเป็นจริงมันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ ตรงนี้ต้องใช้สติครับ รู้มาก รู้น้อย ดร. หรือ มัธยม ไม่เกี่ยว แต่มันสำคัญที่ เราเข้าใจการลงทุนในแง่มุมไหน และเราถนัดอะไรมากกว่าเท่านั้นเองครับ