การเดินทางอันแสนยาวไกล ทำให้เราหวนคิดถึงระหว่างทางทุกที เมื่อเราเริ่มเดินใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง............
ความรู้สึกนี้กำลังเกิดขึ้นกับม้าสามศอกที่มีต่อเรื่อง'มาดามดำตับเป็ด'ค่ะ เพราะมันใกล้จบเข้าไปทุกที
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เริ่มฝึกเขียน อาจจะไก่กาหรือทำคำผิดไปบ้าง และอาจจะดูแปลกไปบ้างในเรื่องของภาษาก็ต้องขออภัยผู้อ่านทุกคน เพราะไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเขียนกับเขาได้ เคยเป็นแต่หนอนหนังสือเป็นผู้อ่านอย่างเดียว แต่พอมาเป็นผู้เขียนบ้าง ก็ยากกว่าที่คิด แต่ก็สนุกทุกครั้งที่ลงมือคิดและลงมือทำ
จริงๆแล้วเรื่องมาดามดำตับเป็ด ไม่ใช่เรื่องที่ตั้งใจจะเขียนเป็นเรื่องแรกเลยนะคะ จริงๆตั้งใจจะเขียนเรื่องแนวผีคอมมาดี้ที่ชื่อว่า
'เรื่องเล่าสยองของสาวข้างบ้าน ' ซึ่งวางโครงเรื่องและทำเรื่องย่อหมดแล้ว แต่แล้วก็จับพลัดจับผลูมาทำ
'มาดามดำตับเป็ด'ซะได้ เมื่อไปเห็นคุณโอปอลล์และนุ่น ศิริพันธ์ ก็เลยได้แรงบันดาลใจในการเขียนนางเอกผิวดำ
นักเขียนหลายๆท่านคงเขียนเรื่องจบไปหลายเรื่องแล้ว ไม่รู้ว่าเคยมีความรู้สึกเดียวกับม้าสามศอกไหม คืออยากให้จบตามเป้าหมาย แต่ใจจริงๆแล้วไม่อยากให้จบ เพราะคิดถึงตัวละคร แหะๆ อันนี้ม้าสามศอกอาจจะเวิ่นเว้อไปนะคะ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ทั้งนักอ่านขาจร นักอ่านนิรนาม นักอ่านขาประจำ ยังไงก็ฝากแนะนำติติงกันได้เต็มที่เลยค่ะ ยินดีเสมอ วันนี้ม้าขอตุเลงตุเลงไปก่อนนะคะ เชิญอ่านตามอัธยาศัยค่า
อ่านสาวดำไดอารี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/30367768 บทนำ
http://ppantip.com/topic/30369696 บทที่ 1 เจ้าชายขี่ม้าขาวกับสาวดำตับเป็ด
http://ppantip.com/topic/30373309 บทที่ 2 แสบอสรพิษ
http://ppantip.com/topic/30376466 บทที่ 3 ดาวดราม่า
http://ppantip.com/topic/30393034 บทที่ 4 ชายปริศนาปรากฎ
http://ppantip.com/topic/30397455 บทที่ 5 นายฝรั่งจิ้ม
http://ppantip.com/topic/30420727 บทที่ 6 ใจละลาย
http://ppantip.com/topic/30437954 บทที่ 7 งูเนื้อคู่
http://ppantip.com/topic/30462369 บทที่ 8 อยากเก็บฝรั่งไว้ดองทั้งสองคน
http://ppantip.com/topic/30489956 บทที่ 9 ลำตัดลัดฟ้า
http://ppantip.com/topic/30490063 บทที่ 10 รักหรอก หรือ หลอกรัก
http://ppantip.com/topic/30492274 บทที่ 11 จดหมายผิดซอง
http://ppantip.com/topic/30505360 บทที่ 12 อเมริกาจ๋า
http://ppantip.com/topic/30516892 บทที่ 13 มิครหมาหมู่
http://ppantip.com/topic/30540907 บทที่ 14 หลบหน่อยพระเอกมา
http://ppantip.com/topic/30548476 บทที่ 15 ไบกอนแมน
http://ppantip.com/topic/30637635 บทที่ 16 ตัดใจหรือไปต่อ
http://ppantip.com/topic/30646788 บทที่ 17 มาดามกามเทพ
http://ppantip.com/topic/30690319 บทที่ 18 มะรุมมะตุ้มรุมรัก
http://ppantip.com/topic/30699884 บทที่ 19 ดาวเก้าเดือน
http://ppantip.com/topic/30752538 บทที่ 20 ยกที่หนึ่ง
http://ppantip.com/topic/30779526 บทที่ 21 ขึ้นสวรรค์
http://ppantip.com/topic/30885713 บทที่ 22 หมัดสอยดาว
http://ppantip.com/topic/31055041 บทที่ 23 มิสมองเล่ยะ
http://ppantip.com/topic/31066980 บทที่ 24 ดาวพราวตะวัน
http://ppantip.com/topic/31096712 บทที่ 25 ดาวเดือด
บทที่ 26
ฝรั่งดองคล้องใจ
งานเลี้ยงขอบคุณถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นกันเองภายในทีมงานอีเว้นท์ สปอนเซอร์ และกลุ่มสมาคมคนไทยในแอลเอ โดยมีเหล่ามิสมองเล่ยะทั้งห้าตำแหน่งมาร่วมงานด้วย แต่คนที่ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของแขกที่มางานมากที่สุดก็คือดาว ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตำแหน่งที่หนึ่งมาครอง แต่ก็ได้ตำแหน่งขวัญใจคนดูไปเต็มๆ จึงมีคนมาขอถ่ายรูปคู่ด้วยเยอะเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นคนสร้างสีสันให้กับงานประกวดครั้งนี้ดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งนักข่าวท้องถิ่นก็ยังเลือกที่จะสัมภาษณ์และพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับลีลาความแปลกของดาวที่โชว์บนเวที เพราะข่าวในลักษณะนี้จะขายได้มากกว่าข่าวทั่วๆไป
จิมกำลังยืนยิ้มรอหญิงสาวอย่างหน้าชื่นตาบาน เขามีเรื่องบางอย่างที่ต้องการจะบอกดาวให้รู้ หลังจากที่พลาดโอกาสมาหลายครั้ง และเมื่อคนเริ่มซา ชายฝรั่งก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปหา ทำท่ายักคิ้วลิ่วตายิ้มให้ตามสไตล์ทะเล้นเช่นเคย และยื่นดอกกุหลาบหนึ่งดอกที่พับจากแบงค์หนึ่งดอลล่าร์ให้
“ อ่ะเอาไป ”
“ ไปเอามาจากไหนเนี่ย ” สาวดำถาม
“ เอาไปเถอะน่า ไอให้ ” ฝรั่งจิมตอบ พร้อมยื่นดอกไม้ส่งให้ในมืออีกฝ่าย
อีกฝ่ายแกล้งเล่นตัว ทำเป็นเอามือจับปลายผมเล่นและตอบไปว่า “ ให้ทำไม ”
ชายฝรั่งจับมือดาวและยื่นดอกดอลล่าร์ให้อีกครั้ง พร้อมทำตาใสแป๋วเหมือนลูกหมาขอขนม พูดเสียงออดอ้อนตะแง้วเหมือนแมวหิวปลาทู “ รับไปเถอะน่า พลีสสสส ”
สาวดำทนอาการออเซาะของชายหนุ่มฝรั่งไม่ไหว เลยรับมาด้วยอาการเขินอาย แล้วก็แกล้งพูดแหย่ฝรั่งเล่นๆ “ ว้า หนึ่งดอลล่าร์เองเหรอเนี่ย ถึงกลีบจะเยอะ แกะออกมาแล้วมันจะได้กี่ตังค์กัน ใจไม่ถึงเลยอ่ะ ”
ฝรั่งจิมอมยิ้มเพราะรู้ว่าสาวดำกำลังพูดเล่นเพื่อแก้เขิน ก็เลยตอบกลับไปว่า “ ถ้าให้เยอะกว่านี้ไอก็ให้ได้ แต่ถ้าได้ไปแล้ว แปลว่ามันเป็นสิทธิ์สอดแล้วนะ ”
ดาวได้ยินคำว่า’สิทธิ์สอด’ ก็อมยิ้มกลั้นขำไว้ เพราะรู้ว่าชายฝรั่งพูดภาษาไทยเพี้ยนอีกตามเคย ก็เลยใช้ดอกไม้ตีไปที่อีกฝ่ายเบาๆ “ สิทธิ์สอดบ้าอะไร จะมาสอดอะไรฉัน อีตาบ้า ”
ฝรั่งจิมเกาหัวและทำหน้างง “ อ้าว ก็ไอเห็นคนไทยเวลาแต่งงาน ผู้ชายต้องมีสิทธิ์สอดไม่ใช่เหรอ ”
“ สินสอด ไม่ใช่สิทธิ์สอด พูดใหม่สิ สินสอด” ดาวพูดช้าๆแบบชัดๆเพื่อให้อีกฝ่ายทวนคำได้
“ สิทธิ์สอด ” จิมพยายามพูดตามแต่ก็ดันไปออกเสียงแบบเดิม
“ สิน! ไหนพูดคำว่าสินซิ ” ดาวพูดอีกครั้ง
“ สินซิ” ฝรั่งจิมพูด
“ ไม่ใช่ พูดคำว่าสินคำเดียว พูดซิ สิน ”
“ โอ้ซอรี่ สิน ”
“ อ่ะไหนลองพูดรวมกันนะ สินสอด ”
“ ซินสอด ”
“ ไม่ใช่ ซินสอด สออิ นอสินอ่ะ สินสอด ”ดาวพูดช้าๆอีกครั้งและทำรูปปากให้ชัดขึ้น
“ โอ้มายกอด ทำไมคำนี้มันยากจัง โอเค ซิ้มสอบ โอ้โน มันต้องสิบ….สิบสอด....ซิ้มสอบ โอ้โน ซินศอก ซิ้มศอก โนโนโน มันต้อง สิทธิ์... ”
“ หยุด ไม่ต้องพูดแล้ว ”ดาวเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากจิมเพื่อให้หยุด เพราะรู้ว่าการพูดพยัญชนะที่ออกเสียงเหมือนกันในคำเดียวกันคงต้องใช้เวลาสอนอีกนาน “ ทีนายด่าใครต่อใครน่ะปากไวเชียว ทีคำที่จำเป็นกลับพูดไม่ได้ ชิ! ”
“ โอเคโอเค เอ่อ…..เอ...ตรงไหนนะ ” จิมเดินไปเดินมา มองไปรอบๆ “ ตรงนี้แหละ อ่อ แปปนึงนะ ”
ฝรั่งจิมทำท่าจะคุกเข่าลง ซึ่งดาวก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร เธอเลยห้ามไว้ก่อน เพราะยังไม่พร้อมและรู้สึกเขินอายที่ต้องมาถูกขอแต่งงานต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้ “ หยุดๆ จะมาทำอะไรตรงนี้ คนในงานเยอะแยะ นายไม่อายคนอื่นเค้าบ้างเหรอ ฉันอายนะ อีตาบ้า! ”
ฝรั่งจิมเห็นสาวดำพูดแบบนั้น ก็เลยลุกขึ้นมา และถามกลับไปว่า “ อายทำไม ไอผูกเชือกรองเท้า ”
‘เพล้ง!!’เสียงหน้าแตกเบาๆดังในหัวสมองดาวเมื่อได้ยินคำตอบจากชายฝรั่ง โชคยังดีที่ไม่ได้ออกตัวแรงมากกว่านี้ ดังนั้นวิธีแก้สถานการ์ณที่ดีที่สุดก็คือตีมึนใส่ตามฟอร์ม “ อะไรของนาย ฉันไม่ได้พูดกับนายสักหน่อย ฉันพูดคนเดียว บ้า! ”
ฝรั่งจิมได้ยินคำแก้ตัวของอีกฝ่ายก็อดขำไม่ได้เพราะมันฟังไม่ขึ้น แต่ก็แกล้งเออออห่อหมกไปด้วยเพราะไม่อยากให้ดาวต้องเสียฟอร์ม
“ แล้วเมื่อกี้นายหาอะไร ” สาวดำถาม
“ หาความรักมั้ง ” ฝรั่งจิมตอบไปแบบกวนๆ
“ หาทำไม ฮึ! คงเจอหรอกมั้งยัยคุณหมิงน่ะ หนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ” สาวดำพูดเชิงประชด และหันหน้าหนี แกล้งทำเป็นกำลังเลือกน้ำพั้นซ์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาดื่ม
“ ไอก็หาแล้วนะ อืมมม...หาไม่เจอจริงๆด้วย ”
“ อยากเจอก็ตามไปสิยะ ” สาวดำพูดประชด พลางซดน้ำพั้นซ์ไปหลายแก้ว
“ ก็ตามมาเจอแล้วนี่ไง อยู่ตรงนี้เนี่ยแหละ ”
“ ตรงไหน ”
“ ยูก็หันมาสิ ไอจะได้เจอ ”
สาวดำอมยิ้มจนแก้มปริเพราะรู้ว่าจิมหมายความว่าอย่างไร แต่เธอก็ไม่กล้าหันไปประจันหน้าใกล้ๆเพราะความเขิน จึงได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง และในเมื่อดาวไม่ยอมหันไป จิมก็เลยเดินมาที่ด้านหน้าของเธอและพูดว่า “ นี่ไงความรักของไอ เราเจอกันแล้วนะ ”
ดาวเงยหน้าขึ้น ก็เจอรอยยิ้มสดใสของชายหนุ่มที่ส่งมาอย่างจริงใจ เลยต้องแกล้งดุอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆเพราะใจมันกำลังอ่อนระทวยด้วยคำหวานจากฝ่ายชาย “ บ้า! มาพูดอะไรแบบนี้ ฉันเขินเป็นนะ นายรู้จักคำว่าอายบ้างไหม คนออกเยอะแยะเนี่ย”
“ ไอไม่อาย เดี๋ยวไอขอยูแต่งงานเลยดีไหม ”
“ ขอฉัน! นี่นายจิม! ขอฉันเป็นแฟนนายยังไม่เคยจะพูดเลย แล้วจะมารวบรัดขอเป็น….อุ้ย! ” ดาวหยุดพูดเพราะในใจเผลอคิดคำว่าเมียไปแล้ว เพียงแต่ยั้งปากไว้ได้ทัน
“ เมียน่ะเหรอ ” ฝรั่งจิมพูดออกมา พร้อมยักคิ้วลิ่วตาทำหน้าทะเล้น
“ ไอ้บ้า! แฟนยังไม่เคยเป็นแล้วจะเป็นเมียได้ไง ไม่คุยด้วยแล้ว ” ดาวเดินหนี พร้อมหยิบน้ำพั้นซ์ใส่ถาดไปดื่มแก้เขินอีกหลายแก้ว
ฝรั่งจิมยิ้มอย่างร่าเริงเมื่อเห็นอีกฝ่ายแอบเขิน และเพื่อไม่ให้พลาด เขาเลยรีบหยิบไมค์โครโฟนไร้สายที่ซ่อนไว้ในกอแจกันดอกไม้ เพื่อที่เตรียมจะประกาศอะไรบางอย่างกับดาวต่อหน้าธารกำนัล โดยเซ็ททุกย่างไว้เรียบร้อยตามแผน รอเพียงวงดนตรีเล่นเพลงสนุกเสร็จ เขาก็จะร้องเพลงบอกรักดาว และขอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ
มาดามดำตับเป็ด:: บทที่ 26 :: ฝรั่งดองคล้องใจ
ความรู้สึกนี้กำลังเกิดขึ้นกับม้าสามศอกที่มีต่อเรื่อง'มาดามดำตับเป็ด'ค่ะ เพราะมันใกล้จบเข้าไปทุกที
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เริ่มฝึกเขียน อาจจะไก่กาหรือทำคำผิดไปบ้าง และอาจจะดูแปลกไปบ้างในเรื่องของภาษาก็ต้องขออภัยผู้อ่านทุกคน เพราะไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเขียนกับเขาได้ เคยเป็นแต่หนอนหนังสือเป็นผู้อ่านอย่างเดียว แต่พอมาเป็นผู้เขียนบ้าง ก็ยากกว่าที่คิด แต่ก็สนุกทุกครั้งที่ลงมือคิดและลงมือทำ
จริงๆแล้วเรื่องมาดามดำตับเป็ด ไม่ใช่เรื่องที่ตั้งใจจะเขียนเป็นเรื่องแรกเลยนะคะ จริงๆตั้งใจจะเขียนเรื่องแนวผีคอมมาดี้ที่ชื่อว่า 'เรื่องเล่าสยองของสาวข้างบ้าน ' ซึ่งวางโครงเรื่องและทำเรื่องย่อหมดแล้ว แต่แล้วก็จับพลัดจับผลูมาทำ'มาดามดำตับเป็ด'ซะได้ เมื่อไปเห็นคุณโอปอลล์และนุ่น ศิริพันธ์ ก็เลยได้แรงบันดาลใจในการเขียนนางเอกผิวดำ
นักเขียนหลายๆท่านคงเขียนเรื่องจบไปหลายเรื่องแล้ว ไม่รู้ว่าเคยมีความรู้สึกเดียวกับม้าสามศอกไหม คืออยากให้จบตามเป้าหมาย แต่ใจจริงๆแล้วไม่อยากให้จบ เพราะคิดถึงตัวละคร แหะๆ อันนี้ม้าสามศอกอาจจะเวิ่นเว้อไปนะคะ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ทั้งนักอ่านขาจร นักอ่านนิรนาม นักอ่านขาประจำ ยังไงก็ฝากแนะนำติติงกันได้เต็มที่เลยค่ะ ยินดีเสมอ วันนี้ม้าขอตุเลงตุเลงไปก่อนนะคะ เชิญอ่านตามอัธยาศัยค่า
อ่านสาวดำไดอารี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
งานเลี้ยงขอบคุณถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นกันเองภายในทีมงานอีเว้นท์ สปอนเซอร์ และกลุ่มสมาคมคนไทยในแอลเอ โดยมีเหล่ามิสมองเล่ยะทั้งห้าตำแหน่งมาร่วมงานด้วย แต่คนที่ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของแขกที่มางานมากที่สุดก็คือดาว ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตำแหน่งที่หนึ่งมาครอง แต่ก็ได้ตำแหน่งขวัญใจคนดูไปเต็มๆ จึงมีคนมาขอถ่ายรูปคู่ด้วยเยอะเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นคนสร้างสีสันให้กับงานประกวดครั้งนี้ดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งนักข่าวท้องถิ่นก็ยังเลือกที่จะสัมภาษณ์และพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับลีลาความแปลกของดาวที่โชว์บนเวที เพราะข่าวในลักษณะนี้จะขายได้มากกว่าข่าวทั่วๆไป
จิมกำลังยืนยิ้มรอหญิงสาวอย่างหน้าชื่นตาบาน เขามีเรื่องบางอย่างที่ต้องการจะบอกดาวให้รู้ หลังจากที่พลาดโอกาสมาหลายครั้ง และเมื่อคนเริ่มซา ชายฝรั่งก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปหา ทำท่ายักคิ้วลิ่วตายิ้มให้ตามสไตล์ทะเล้นเช่นเคย และยื่นดอกกุหลาบหนึ่งดอกที่พับจากแบงค์หนึ่งดอลล่าร์ให้
“ อ่ะเอาไป ”
“ ไปเอามาจากไหนเนี่ย ” สาวดำถาม
“ เอาไปเถอะน่า ไอให้ ” ฝรั่งจิมตอบ พร้อมยื่นดอกไม้ส่งให้ในมืออีกฝ่าย
อีกฝ่ายแกล้งเล่นตัว ทำเป็นเอามือจับปลายผมเล่นและตอบไปว่า “ ให้ทำไม ”
ชายฝรั่งจับมือดาวและยื่นดอกดอลล่าร์ให้อีกครั้ง พร้อมทำตาใสแป๋วเหมือนลูกหมาขอขนม พูดเสียงออดอ้อนตะแง้วเหมือนแมวหิวปลาทู “ รับไปเถอะน่า พลีสสสส ”
สาวดำทนอาการออเซาะของชายหนุ่มฝรั่งไม่ไหว เลยรับมาด้วยอาการเขินอาย แล้วก็แกล้งพูดแหย่ฝรั่งเล่นๆ “ ว้า หนึ่งดอลล่าร์เองเหรอเนี่ย ถึงกลีบจะเยอะ แกะออกมาแล้วมันจะได้กี่ตังค์กัน ใจไม่ถึงเลยอ่ะ ”
ฝรั่งจิมอมยิ้มเพราะรู้ว่าสาวดำกำลังพูดเล่นเพื่อแก้เขิน ก็เลยตอบกลับไปว่า “ ถ้าให้เยอะกว่านี้ไอก็ให้ได้ แต่ถ้าได้ไปแล้ว แปลว่ามันเป็นสิทธิ์สอดแล้วนะ ”
ดาวได้ยินคำว่า’สิทธิ์สอด’ ก็อมยิ้มกลั้นขำไว้ เพราะรู้ว่าชายฝรั่งพูดภาษาไทยเพี้ยนอีกตามเคย ก็เลยใช้ดอกไม้ตีไปที่อีกฝ่ายเบาๆ “ สิทธิ์สอดบ้าอะไร จะมาสอดอะไรฉัน อีตาบ้า ”
ฝรั่งจิมเกาหัวและทำหน้างง “ อ้าว ก็ไอเห็นคนไทยเวลาแต่งงาน ผู้ชายต้องมีสิทธิ์สอดไม่ใช่เหรอ ”
“ สินสอด ไม่ใช่สิทธิ์สอด พูดใหม่สิ สินสอด” ดาวพูดช้าๆแบบชัดๆเพื่อให้อีกฝ่ายทวนคำได้
“ สิทธิ์สอด ” จิมพยายามพูดตามแต่ก็ดันไปออกเสียงแบบเดิม
“ สิน! ไหนพูดคำว่าสินซิ ” ดาวพูดอีกครั้ง
“ สินซิ” ฝรั่งจิมพูด
“ ไม่ใช่ พูดคำว่าสินคำเดียว พูดซิ สิน ”
“ โอ้ซอรี่ สิน ”
“ อ่ะไหนลองพูดรวมกันนะ สินสอด ”
“ ซินสอด ”
“ ไม่ใช่ ซินสอด สออิ นอสินอ่ะ สินสอด ”ดาวพูดช้าๆอีกครั้งและทำรูปปากให้ชัดขึ้น
“ โอ้มายกอด ทำไมคำนี้มันยากจัง โอเค ซิ้มสอบ โอ้โน มันต้องสิบ….สิบสอด....ซิ้มสอบ โอ้โน ซินศอก ซิ้มศอก โนโนโน มันต้อง สิทธิ์... ”
“ หยุด ไม่ต้องพูดแล้ว ”ดาวเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากจิมเพื่อให้หยุด เพราะรู้ว่าการพูดพยัญชนะที่ออกเสียงเหมือนกันในคำเดียวกันคงต้องใช้เวลาสอนอีกนาน “ ทีนายด่าใครต่อใครน่ะปากไวเชียว ทีคำที่จำเป็นกลับพูดไม่ได้ ชิ! ”
“ โอเคโอเค เอ่อ…..เอ...ตรงไหนนะ ” จิมเดินไปเดินมา มองไปรอบๆ “ ตรงนี้แหละ อ่อ แปปนึงนะ ”
ฝรั่งจิมทำท่าจะคุกเข่าลง ซึ่งดาวก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร เธอเลยห้ามไว้ก่อน เพราะยังไม่พร้อมและรู้สึกเขินอายที่ต้องมาถูกขอแต่งงานต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้ “ หยุดๆ จะมาทำอะไรตรงนี้ คนในงานเยอะแยะ นายไม่อายคนอื่นเค้าบ้างเหรอ ฉันอายนะ อีตาบ้า! ”
ฝรั่งจิมเห็นสาวดำพูดแบบนั้น ก็เลยลุกขึ้นมา และถามกลับไปว่า “ อายทำไม ไอผูกเชือกรองเท้า ”
‘เพล้ง!!’เสียงหน้าแตกเบาๆดังในหัวสมองดาวเมื่อได้ยินคำตอบจากชายฝรั่ง โชคยังดีที่ไม่ได้ออกตัวแรงมากกว่านี้ ดังนั้นวิธีแก้สถานการ์ณที่ดีที่สุดก็คือตีมึนใส่ตามฟอร์ม “ อะไรของนาย ฉันไม่ได้พูดกับนายสักหน่อย ฉันพูดคนเดียว บ้า! ”
ฝรั่งจิมได้ยินคำแก้ตัวของอีกฝ่ายก็อดขำไม่ได้เพราะมันฟังไม่ขึ้น แต่ก็แกล้งเออออห่อหมกไปด้วยเพราะไม่อยากให้ดาวต้องเสียฟอร์ม
“ แล้วเมื่อกี้นายหาอะไร ” สาวดำถาม
“ หาความรักมั้ง ” ฝรั่งจิมตอบไปแบบกวนๆ
“ หาทำไม ฮึ! คงเจอหรอกมั้งยัยคุณหมิงน่ะ หนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ” สาวดำพูดเชิงประชด และหันหน้าหนี แกล้งทำเป็นกำลังเลือกน้ำพั้นซ์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาดื่ม
“ ไอก็หาแล้วนะ อืมมม...หาไม่เจอจริงๆด้วย ”
“ อยากเจอก็ตามไปสิยะ ” สาวดำพูดประชด พลางซดน้ำพั้นซ์ไปหลายแก้ว
“ ก็ตามมาเจอแล้วนี่ไง อยู่ตรงนี้เนี่ยแหละ ”
“ ตรงไหน ”
“ ยูก็หันมาสิ ไอจะได้เจอ ”
สาวดำอมยิ้มจนแก้มปริเพราะรู้ว่าจิมหมายความว่าอย่างไร แต่เธอก็ไม่กล้าหันไปประจันหน้าใกล้ๆเพราะความเขิน จึงได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง และในเมื่อดาวไม่ยอมหันไป จิมก็เลยเดินมาที่ด้านหน้าของเธอและพูดว่า “ นี่ไงความรักของไอ เราเจอกันแล้วนะ ”
ดาวเงยหน้าขึ้น ก็เจอรอยยิ้มสดใสของชายหนุ่มที่ส่งมาอย่างจริงใจ เลยต้องแกล้งดุอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆเพราะใจมันกำลังอ่อนระทวยด้วยคำหวานจากฝ่ายชาย “ บ้า! มาพูดอะไรแบบนี้ ฉันเขินเป็นนะ นายรู้จักคำว่าอายบ้างไหม คนออกเยอะแยะเนี่ย”
“ ไอไม่อาย เดี๋ยวไอขอยูแต่งงานเลยดีไหม ”
“ ขอฉัน! นี่นายจิม! ขอฉันเป็นแฟนนายยังไม่เคยจะพูดเลย แล้วจะมารวบรัดขอเป็น….อุ้ย! ” ดาวหยุดพูดเพราะในใจเผลอคิดคำว่าเมียไปแล้ว เพียงแต่ยั้งปากไว้ได้ทัน
“ เมียน่ะเหรอ ” ฝรั่งจิมพูดออกมา พร้อมยักคิ้วลิ่วตาทำหน้าทะเล้น
“ ไอ้บ้า! แฟนยังไม่เคยเป็นแล้วจะเป็นเมียได้ไง ไม่คุยด้วยแล้ว ” ดาวเดินหนี พร้อมหยิบน้ำพั้นซ์ใส่ถาดไปดื่มแก้เขินอีกหลายแก้ว
ฝรั่งจิมยิ้มอย่างร่าเริงเมื่อเห็นอีกฝ่ายแอบเขิน และเพื่อไม่ให้พลาด เขาเลยรีบหยิบไมค์โครโฟนไร้สายที่ซ่อนไว้ในกอแจกันดอกไม้ เพื่อที่เตรียมจะประกาศอะไรบางอย่างกับดาวต่อหน้าธารกำนัล โดยเซ็ททุกย่างไว้เรียบร้อยตามแผน รอเพียงวงดนตรีเล่นเพลงสนุกเสร็จ เขาก็จะร้องเพลงบอกรักดาว และขอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ